“อภิรักษ์” สั่งสถาบันพัฒนาเมือง กทม.ศึกษาข้อมูลการเก็บเงินของสิงคโปร์ กรุงลอนดอน พร้อมสำรวจความคิดเห็นประชาชน หากมีการเก็บเงินแก่ผู้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ย่าน สุขุมวิท สีลม สาทร ขณะที่ประชาชนไม่เห็นด้วยเพราะต้องรับภาระค่าใช้จ่าย
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแนวความคิดที่จะให้เก็บเงินเมื่อนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้าไปใช้พื้นที่ชั้นใน โดยนำร่องในพื้นที่ที่มีรถไฟฟ้าผ่าน และมีการจราจรคับคั่ง อย่างเช่น ย่านสุขุมวิท สีลม สาทร ว่า นับแต่ได้นำเสนอแนวความคิดนี้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็น 1 ใน 6 วาระ กทม.สีเขียว ก็มีประชาชนได้แสดงความคิดเห็นว่า การเก็บเงินเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ประชาชน ตนได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาเมือง กทม.ไปศึกษาข้อมูลเมืองต่างๆ ที่ใช้วิธีการเก็บเงิน อย่างที่ สิงคโปร์ กรุงลอนดอน ร่วมกับสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล (สยป.) และสำนักการจราจรและขน (สจส.) โดยใช้ระยะเวลา 1 เดือน ในขณะเดียวกัน ให้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนด้วย ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า เมื่อศึกษาเสร็จเรียบแล้วจะนำมาใช้ทันที เพราะต้องดูว่า มีความเหมาะสมกับ กทม.มากน้อยเพียงใด และถ้าจะบังคับใช้ ก็ต้องออกเป็นกฎหมาย คงต้องใช้ระยะเวลา
อย่างไรก็ตาม อาจจะไม่จำเป็นต้องนำแนวความคิดนี้มาใช้ใน กทม.ก็ได้ หากประชาชนลดจำนวนการใช้ รถยนต์ส่วนบุคคลลง โดยเฉพาะเวลานี้ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลงแต่อย่างใด
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงแนวความคิดที่จะให้เก็บเงินเมื่อนำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้าไปใช้พื้นที่ชั้นใน โดยนำร่องในพื้นที่ที่มีรถไฟฟ้าผ่าน และมีการจราจรคับคั่ง อย่างเช่น ย่านสุขุมวิท สีลม สาทร ว่า นับแต่ได้นำเสนอแนวความคิดนี้เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็น 1 ใน 6 วาระ กทม.สีเขียว ก็มีประชาชนได้แสดงความคิดเห็นว่า การเก็บเงินเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ประชาชน ตนได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาเมือง กทม.ไปศึกษาข้อมูลเมืองต่างๆ ที่ใช้วิธีการเก็บเงิน อย่างที่ สิงคโปร์ กรุงลอนดอน ร่วมกับสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล (สยป.) และสำนักการจราจรและขน (สจส.) โดยใช้ระยะเวลา 1 เดือน ในขณะเดียวกัน ให้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนด้วย ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า เมื่อศึกษาเสร็จเรียบแล้วจะนำมาใช้ทันที เพราะต้องดูว่า มีความเหมาะสมกับ กทม.มากน้อยเพียงใด และถ้าจะบังคับใช้ ก็ต้องออกเป็นกฎหมาย คงต้องใช้ระยะเวลา
อย่างไรก็ตาม อาจจะไม่จำเป็นต้องนำแนวความคิดนี้มาใช้ใน กทม.ก็ได้ หากประชาชนลดจำนวนการใช้ รถยนต์ส่วนบุคคลลง โดยเฉพาะเวลานี้ราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลงแต่อย่างใด