“พนิช” ประกาศลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. แล้ว ยันไม่ได้มีปัญหาจากซื้อรถบีอาร์ที แต่ทำตามมติพรรค เพื่อเตรียมการสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. “อภิรักษ์” ระบุจะไม่มีการแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่แทน เพราะเหลืออีกไม่กี่เดือนจะครบวาระ 4 ปี โดยจะแบ่งภาระกิจให้รองผู้ว่าฯที่เหลือดำเนินการต่อ
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าฯกทม.จะลาออกจากตำแหน่งในขณะที่เหลือเวลาไม่ถึง 4 เดือน ที่คณะผู้บริหาร กทม.ภายใต้การนำของ นายอภิรักษ์ จะหมดวาระ ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่ได้มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ นายพนิช แต่อย่างใด เพราะทราบจากทางสื่อมวลชนเท่านั้น ซึ่งตนจะได้สอบถามจากนายพนิชอีกครั้ง
ด้าน นายพนิช กล่าวยอมรับว่า สาเหตุที่ตนลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.นั้น เป็นไปตามมติของทางพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้ตนไปรับผิดชอบหน้าที่ใหม่มีความสำคัญเทียบเท่ากับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.โดยจะให้ตนเป็นตัวกลางคอยประสานงานระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรค สมาชิกสภา กทม.(ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) กับคณะผู้บริหาร กทม.ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อเตรียมการสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รวมถึงภารกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ กทม.แต่ไม่ได้หมายความว่า ตนจะเป็นตัวแทนของพรรคไปลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยตรงจุดนั้น ซึ่งการที่พรรคจะส่งใครลงสมัครก็แล้วแต่ความเหมาะสม ทั้งนี้ มติดังกล่าว นายอภิรักษ์ได้รับทราบจากทางพรรคแล้วซึ่งทางพรรคได้มีมติเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และคงจะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการใน 1-2 วันนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ลาออกมาจากกรณีการจัดซื้อรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีหรือไม่ หากไม่ใช่เหตุใดจึงไม่รอให้ครบวาระการทำงาน 4 ปีก่อน นายพนิช กล่าวว่า ตนไม่ต้องตัดสินใจอะไร เพราะต้องปฏิบัติตามนโยบายพรรค มติของพรรคเหมือนกับที่ทางพรรคเห็นชอบให้ตนเป็นรองผู้ว่าฯกทม.อย่างไรก็ตาม งานในส่วนที่ตนรับผิดชอบอย่างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า รถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที ทางผู้ว่าฯกทม.และรองผู้ว่าฯ ท่านอื่นๆ ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ขอยืนยันการลาออกของตนเป็นไปตามมติของพรรคไม่ได้มีปัญหาจากการทำงานอย่างกรณีรถบีอาร์ทีแต่อย่างใด เพราะเรื่องดังกล่าวเมื่อตรวจสอบเสร็จก็สามารถดำเนินการจัดซื้อรถต่อไปได้
ต่อมา วันนี้ (22 พ.ค.) ในช่วงเช้า นายอภิรักษ์ได้กล่าวถึงกรณีการลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.ของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์อีกครั้งว่า เรื่องการลาออกของนายพนิชนั้นได้มีการหารือร่วมกันระหว่างตน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และตัวนายพนิชเองแล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีปัญหาขัดแย้งใดๆเกิดขึ้น ซึ่งทางหัวหน้าพรรคได้เตรียมมอบหมายบทบาทหน้าที่ทางการเมืองในพรรคให้กับนายพนิช เป็นผู้ดูแล ส่วนจะมอบหมายให้ดูแลเรื่องใดนั้นคงต้องรอการแถลงจากทางพรรคอีกครั้ง
ทั้งนี้จะไม่มีการแต่งตั้งให้ใครมาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.แทนตำแหน่งที่ว่างลงเพราะเหลือระยะเวลาการทำงานอีกไม่กี่เดือนก็จะหมดวาระคณะผู้บริหารกทม.ชุดนี้แล้ว แต่จะหารือกันในคณะผู้บริหารเพื่อแบ่งหน้าที่ในส่วนที่นายพนิชรับผิดชอบโดยจะพิจารณาตามความเหมาะสม รวมถึงแจ้งการลาออกของนายพนิชให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกด้วย
จากนั้นนายอภิรักษ์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับรองผู้ว่าฯ กทม.ปลัด กทม. และรองปลัดกทม.ถึงกรณีการลาออกของนายพนิช ว่า ในขณะนี้จะยังไม่มีการแบ่งภารกิจของนายพนิช ให้รองผู้ว่าฯ ท่านอื่นๆ รับไปดำเนินการเนื่องจากยังขาดนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม.ที่ติดภารกิจอยู่ ส่วนโครงการหลักๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายพนิช ทั้งโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า โครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีตนก็จะดูแลกันอย่างใกล้ชิด โดยส่วนตัวตนไม่อยากให้นายพนิช ลาออกแต่เมื่อเป็นความตั้งใจของหัวหน้าพรรคและตัวของนายพนิชเองประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมซึ่งทั้งหัวหน้าพรรคและนายพนิช ได้หารือกันมาก่อนแล้วก็คงจะห้ามไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากนายอภิรักษ์ ไม่หลุดคดีจัดซื้อรถดับเพลิงนายพนิช จะเป็นตัวแทนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.แทนในนามพรรค ปชป. นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบยังยืนยันไม่ได้มันเป็นเรื่อวอนาคตแต่หวังว่าไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งนี้เหตุผลหลักของนายพนิชก็คือไปช่วยงานการเมืองแต่ไม่ได้ไปลงสมัคผู้ว่าฯกทม.ในนามตัวแทนพรรคตามที่มีกระแส
ด้าน นายพนิช กล่าวว่า การลาออกของตนนอกจากไปรับตำแหน่งใหม่ในพรรคซึ่งจะมีการรายงานมติดังกล่าวต่อที่ประชุมพรรคในวันนี้ นอกจากนี้ การลาออกของตนจะเป็นลดกระแสที่มีข่าวว่าได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มต่างๆ ให้เป็นตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรค และขอยืนยันอีกครั้งว่าตนไม่ได้มีความขัดแย้งในการทำงานกับผู้ว่าฯ อภิรักษ์ แต่อย่างใด
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าฯกทม.จะลาออกจากตำแหน่งในขณะที่เหลือเวลาไม่ถึง 4 เดือน ที่คณะผู้บริหาร กทม.ภายใต้การนำของ นายอภิรักษ์ จะหมดวาระ ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่ได้มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ นายพนิช แต่อย่างใด เพราะทราบจากทางสื่อมวลชนเท่านั้น ซึ่งตนจะได้สอบถามจากนายพนิชอีกครั้ง
ด้าน นายพนิช กล่าวยอมรับว่า สาเหตุที่ตนลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.นั้น เป็นไปตามมติของทางพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้ตนไปรับผิดชอบหน้าที่ใหม่มีความสำคัญเทียบเท่ากับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.โดยจะให้ตนเป็นตัวกลางคอยประสานงานระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรค สมาชิกสภา กทม.(ส.ก.) และสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) กับคณะผู้บริหาร กทม.ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อเตรียมการสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รวมถึงภารกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ กทม.แต่ไม่ได้หมายความว่า ตนจะเป็นตัวแทนของพรรคไปลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยตรงจุดนั้น ซึ่งการที่พรรคจะส่งใครลงสมัครก็แล้วแต่ความเหมาะสม ทั้งนี้ มติดังกล่าว นายอภิรักษ์ได้รับทราบจากทางพรรคแล้วซึ่งทางพรรคได้มีมติเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และคงจะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการใน 1-2 วันนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ลาออกมาจากกรณีการจัดซื้อรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีหรือไม่ หากไม่ใช่เหตุใดจึงไม่รอให้ครบวาระการทำงาน 4 ปีก่อน นายพนิช กล่าวว่า ตนไม่ต้องตัดสินใจอะไร เพราะต้องปฏิบัติตามนโยบายพรรค มติของพรรคเหมือนกับที่ทางพรรคเห็นชอบให้ตนเป็นรองผู้ว่าฯกทม.อย่างไรก็ตาม งานในส่วนที่ตนรับผิดชอบอย่างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า รถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที ทางผู้ว่าฯกทม.และรองผู้ว่าฯ ท่านอื่นๆ ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ขอยืนยันการลาออกของตนเป็นไปตามมติของพรรคไม่ได้มีปัญหาจากการทำงานอย่างกรณีรถบีอาร์ทีแต่อย่างใด เพราะเรื่องดังกล่าวเมื่อตรวจสอบเสร็จก็สามารถดำเนินการจัดซื้อรถต่อไปได้
ต่อมา วันนี้ (22 พ.ค.) ในช่วงเช้า นายอภิรักษ์ได้กล่าวถึงกรณีการลาออกจากตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม.ของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์อีกครั้งว่า เรื่องการลาออกของนายพนิชนั้นได้มีการหารือร่วมกันระหว่างตน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และตัวนายพนิชเองแล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีปัญหาขัดแย้งใดๆเกิดขึ้น ซึ่งทางหัวหน้าพรรคได้เตรียมมอบหมายบทบาทหน้าที่ทางการเมืองในพรรคให้กับนายพนิช เป็นผู้ดูแล ส่วนจะมอบหมายให้ดูแลเรื่องใดนั้นคงต้องรอการแถลงจากทางพรรคอีกครั้ง
ทั้งนี้จะไม่มีการแต่งตั้งให้ใครมาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม.แทนตำแหน่งที่ว่างลงเพราะเหลือระยะเวลาการทำงานอีกไม่กี่เดือนก็จะหมดวาระคณะผู้บริหารกทม.ชุดนี้แล้ว แต่จะหารือกันในคณะผู้บริหารเพื่อแบ่งหน้าที่ในส่วนที่นายพนิชรับผิดชอบโดยจะพิจารณาตามความเหมาะสม รวมถึงแจ้งการลาออกของนายพนิชให้ทราบอย่างเป็นทางการอีกด้วย
จากนั้นนายอภิรักษ์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับรองผู้ว่าฯ กทม.ปลัด กทม. และรองปลัดกทม.ถึงกรณีการลาออกของนายพนิช ว่า ในขณะนี้จะยังไม่มีการแบ่งภารกิจของนายพนิช ให้รองผู้ว่าฯ ท่านอื่นๆ รับไปดำเนินการเนื่องจากยังขาดนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม.ที่ติดภารกิจอยู่ ส่วนโครงการหลักๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายพนิช ทั้งโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า โครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีตนก็จะดูแลกันอย่างใกล้ชิด โดยส่วนตัวตนไม่อยากให้นายพนิช ลาออกแต่เมื่อเป็นความตั้งใจของหัวหน้าพรรคและตัวของนายพนิชเองประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมซึ่งทั้งหัวหน้าพรรคและนายพนิช ได้หารือกันมาก่อนแล้วก็คงจะห้ามไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากนายอภิรักษ์ ไม่หลุดคดีจัดซื้อรถดับเพลิงนายพนิช จะเป็นตัวแทนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.แทนในนามพรรค ปชป. นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบยังยืนยันไม่ได้มันเป็นเรื่อวอนาคตแต่หวังว่าไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งนี้เหตุผลหลักของนายพนิชก็คือไปช่วยงานการเมืองแต่ไม่ได้ไปลงสมัคผู้ว่าฯกทม.ในนามตัวแทนพรรคตามที่มีกระแส
ด้าน นายพนิช กล่าวว่า การลาออกของตนนอกจากไปรับตำแหน่งใหม่ในพรรคซึ่งจะมีการรายงานมติดังกล่าวต่อที่ประชุมพรรคในวันนี้ นอกจากนี้ การลาออกของตนจะเป็นลดกระแสที่มีข่าวว่าได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มต่างๆ ให้เป็นตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรค และขอยืนยันอีกครั้งว่าตนไม่ได้มีความขัดแย้งในการทำงานกับผู้ว่าฯ อภิรักษ์ แต่อย่างใด