กทม.ส่งสารแสดงความเสียใจเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จีน พร้อมเรียกประชุมเจ้าของอาคารกลุ่มเสี่ยงได้รับผลกระทบแผ่นดิน 9 กลุ่มเสี่ยง สัปดาห์หน้า ขณะเดียวกัน ร่วมมือกับสภากาชาดไทยรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่พม่าผ่านบัญชีธนาคารและทั้ง 50 สำนักงานเขต
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ ที่มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งแรงสั่นสะเทือนที่รู้สึกได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะอาคารสูงหลายแห่ง เช่น ย่านสีลม สาทร ชิดลม และวิภาวดีรังสิต ซึ่งจากที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ได้ตรวจสอบอาคารในพื้นที่ที่ได้รับแรงสั่นสะเทือน อาทิ ตึกออลซีซั่นส์ ซันทาวเออร์ เอ็มไพร์ อื่อจื้อเหลียง และ ใบหยก พบว่า โครงสร้างไม่ได้รับความเสียหาย ซึ่งอาคารแต่ละแห่งมีสัญญาณแจ้งเตือนภัย และมีการฝึกซ้อมหนีภัยเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว
นอกจากนี้กทม.มีมาตรการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนที่อยู่บนอาคารสูงมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการออกตรวจสภาพอาคารถึงมาตรฐานความมั่นคงแข็งแรง การออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารที่ต้องมีแบบที่ต้านแรงลมและแผ่นดินไหว ตามกฎกระทรวง เรื่องการกำหนดการรับน้ำหนักความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว พ.ศ.2550 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2550 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2550 ซึ่งตามกฎกระทรวงดังกล่าว กำหนดให้จังหวัดที่อยู่ในบริเวณที่ 1 ซึ่งเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายและต้องเฝ้าระวัง 5 จังหวัด ได้แก่ จ.กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ จ.สมุทรสาคร และ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นดินอ่อนมากที่อาจเกิดผลกระทบจากแผ่นดินไหวในระยะไกลได้
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้า กทม.จะเรียกประชุมเจ้าของอาคารทั้ง 9 ประเภท ที่ต้องเฝ้าระวังตามกฎหมาย อาทิ โรงพยาบาล อาคารเก็บวัตถุอันตราย อาคารสาธารณะที่มีผู้ใช้ตั้งแต่ 300 คนขึ้นไป เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงมหรสพ ห้องสมุด สถานีรถ หอประชุม สถานเลี้ยงเด็กอ่อนที่รับเด็กอ่อนตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป อาคารที่มีผู้ใช้อาคารตั้งแต่ 5,000 คนขึ้นไป อาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป สะพาน หรือทางยกระดับที่มีช่วงศูนย์กลางตอม่อยาวตั้งแต่ 10 เมตรขึ้นไป และเขื่อนเก็บกักน้ำ ฝายทดน้ำ เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงมาตรการการป้องกันภัยเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว นอกจากนนี้ กทม.จะทำโปสเตอร์และแผ่นพับประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการเตรียมการเมื่อเกิดแผ่นดินไหวให้ทันสมัยเพื่อเป็นคู่มือกับเจ้าของอาคารได้ศึกษาด้วย
นอกจากนี้ กทม.ได้ส่งสารแสดงความเสียใจไปยังเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนแล้ว นอกจากนี้ ในส่วนของความช่วยเหลือ กทม.ได้ประสานไปยังสภาการชาดไทย เพื่อให้ กทม.เป็นตัวกลางประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์พายุไซโคลนนาร์กีส ในสหภาพพม่า ซึ่งเลขาธิการการสภาการชาดไทย ได้ตอบตกลงให้ กทม.เป็นตัวกลางประสานความช่วยเหลือโดยรับบริจาคเงินช่วยเหลือจากประชาชนในพื้นที่ กทม.ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี สภากาชาดไทยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยประเทศพม่า สาขาสภากาชาดไทย ประเภทบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน เลขบัญชี 045-3-04285-5 หรือที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต