“สมชาย” ย้ำไม่ได้จับผิดโรงเรียนไม่ผ่านการประเมิน สมศ.พร้อมเร่งให้ดูว่าไม่ผ่านเพราะสาเหตุใด ตัวบุคคลหรือระบบ หากเกิดจากบุคคล ให้ไปเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาตนเอง เพื่อให้ทำงานได้ตามปกติ หากเกิดจากระบบต้องยกเครื่องใหม่ทุกส่วน พร้อมแย้มงบประมาณที่จัดสรรให้โรงเรียนส่วนใหญ่ถูกจ่ายเป็นเงินเดือนเหลือมาใช้พัฒนาเพียงหยิบมือ
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงผลการประเมินโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ผ่านการประเมิน รอบ 2 จำนวน 3,400 โรง ของ สมศ.ว่า การประเมินไม่ได้ไปจับผิดหรือไปมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับผู้ที่ไม่ผ่านการประเมิน เพราะการประเมินเป็นวิธีการหนึ่งที่จะต้องการให้โรงเรียนเกิดความตื่นตัวตลอดเวลาแล้วปรับปรุงตัวเอง ส่วนโรงเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินนั้น มาดูเหตุผลว่าไม่ผ่านการประเมินเพราะสาเหตุใด อย่างเช่น อาจารย์ไม่เพียงพอ โรงเรียนมีปัญหา อย่างไรก็ดี เราพบว่าโรงเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก หรือขาดแคลนทรัพยากร ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากความบกพร่องของโรงเรียน และระบบบริหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ศธ.จะต้องไปแยกแยะเป็นรายกรณี
“จริงๆ แล้วตนไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปลงโทษโรงเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน เพียงแต่อยากให้ทุกหน่วยงานตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ส่วนโรงเรียนที่ผ่านการประเมินอาจจะได้รับการพิจารณาความดีความชอบไปก่อน ขณะที่โรงเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินต้องเร่งปรับปรุงแก้ไข โดยดูว่าไม่ผ่านเพราอะไรแล้วนำมาปรับปรุง ที่สำคัญการศึกษาต้องยกเครื่องใหม่อยู่ตลอดเวลา พัฒนาอย่างต่อเนื่อง”
นายสมชาย ยังระบุด้วยว่า โรงเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน หากเกิดจากตัวบุคคล ศธ.จะให้กลับเข้ามารับการอบรมสัมมนา หรือปรับโยกย้ายไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ทำงานได้ตามปกติ ถ้าเกิดจากระบบ ต้องดำเนินการแก้ไขที่ระบบ และดูข้อผิดพลาด คงต้องดูแลทุกส่วน โดยยกเครื่องใหม่อยู่ตลอดเวลา สำหรับงบประมาณของ ศธ.นั้นมีงบประมาณมาก แต่งบส่วนใหญ่เป็นงบประจำ เช่น งบประมาณเงินเดือน จึงเหลือมาที่จะพัฒนาโรงเรียนน้อย เรื่องนี้ กำลังดูว่าจะดึงภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในบางส่วนได้หรือไม่