กศน.เตรียมออกหนังสือเวียนแจ้งศูนย์การเรียนทั่วประเทศ ครู 1 คน เปิดสอนและเบิกค่าสอนเพียงมีนักเรียนครบ 40 คน แทนจากเดิม 80 คน ครูไม่ต้องแต่งบัญชีผีมาเบิกงบ แต่จะต้องมีผู้เข้าสอบเกินร้อยละ 60 ถ้าไม่ครบ ครูต้องชี้แจงว่า นักศึกษาหายไปไหน ด้าน ปลัด ศธ.ล้อมคอกเด็กผี เปลี่ยนใช้เลข 13 หลักลงทะเบียนแทน
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กล่าวยอมรับว่า มีครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน (ศรช.) บางแห่ง ไปชักชวนให้ชาวบ้าน คนรู้จัก หรือคนที่เคยเรียนกับ กศน.แล้ว มาลงทะเทียนเรียนกับ ศรช.เพื่อให้ผู้มาเรียนถึง 80 คน ตามข้อกำหนด ครู ศรช.1 คน ต้องรับผิดชอบเด็ก 80 คน เมื่อมีนักศึกษามาลงทะเบียนเรียนกับ ศรช.ครบ 80 คน จึงจะเปิดสอนและเบิกค่าจ้างสอนได้ หากมีไม่ถึง 80 คน ก็ไม่สามารถเปิดสอนและเบิกค่าจ้างสอนได้
ดังนั้น ครู ศรช.จำเป็นต้องหาคนรู้จักมาลงทะเบียนเรียน ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้คิดจะเรียน คนเหล่านี้ลงทะเบียนไปแล้ว ก็จะไม่มาเรียนและไม่มาสอบ บางศูนย์ลงทะเบียน 120 คน มาสอบไม่ถึง 30 คน จึงเกิดการสูญเปล่าทางงบประมาณ
“กศน.จะหารือกับกระทรวงการคลังขอแก้ไขระเบียบให้ ครู 1 คน รับผิดชอบนักศึกษาแค่ 40 คน และเบิกค่าจ้างสอนได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังแล้ว กศน.เตรียมทำหนังสือเวียนแจ้งทั่วประเทศ เพื่อให้แต่ละศูนย์มีการกลั่นกรองนักศึกษาที่ตั้งใจมาเรียนจริง ขณะเดียวกัน กศน.จะกำหนดไว้เลยว่า ต้องมีเข้าสอบไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของผู้ลงทะเบียน หากมีผู้เข้าสอบน้อยกว่านั้น ต้องมีการสอบสวนและครูประจำศูนย์ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมนักศึกษาที่ลงทะเบียนไว้ถึงไม่มาเข้าสอบและก่อนสอบมาเรียนบางรึเปล่า”
นายอภิชาติ ตอกย้ำว่า ครูประจำศูนย์ไม่เคยตอบได้เลยว่า นักศึกษาของตัวเองหายไปไหน ทำไมจึงไม่มาเรียนหรือมาสอบ ต่อไปครูจะต้องชี้แจ้งได้ เช่น นักศึกษาติดงาน ลางานมาสอบในวันนั้นได้ หรือนักศึกษาไม่มาสอบ เพราะลาออกโดยทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ก็ไม่เป็นไร ถ้าชี้แจ้งไม่ได้ แล้วมีแนวโน้มว่า ครูขอให้ชาวบ้านมาลงทะเบียนเพราะหวังทำยอด จะต้องถูกลงโทษ แต่คงไม่สามารถลงโทษอะไรได้มาก เพราะครู ศรช.ไม่ใช่ข้าราชการ อย่างมากก็เลิกจ้าง หรือถ้ามีหลักฐานว่ามีการทุจริตก็สามารถแจ้งความดำเนินคดี แต่ไม่เอาผิดทางวินัยได้
ด้านนางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเสริมว่า จะให้นักศึกษาใช้เลข 13 หลัก ในการลงทะเบียนเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้มีรายชื่อนักศึกษาซ้ำซ้อนตามศูนย์ต่าง ๆ เมื่อลงทะเบียนไปแล้ว 15 วัน จะให้ทางศูนย์ยืนยันยอดกลับมาอีกครั้ง พร้อมมอบให้ ผอ.กศน.อำเภอ ผอ.กศน.จังหวัด ไปคอยนิเทศ ติดตามดูการสอนด้วย
“กศน. มีการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยตามห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ด้วย โดยห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ จะได้รับการสนับสนุนงบรายหัวตามจำนวนผู้มาใช้บริการหัวละ 100 บาท เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีบัญชีผีขึ้นมาอีก จะให้ผู้มาใช้บริการลงทะเบียนโดยใช้เลข 13 หลักเช่นเดียวกัน”
นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กล่าวยอมรับว่า มีครูประจำศูนย์การเรียนชุมชน (ศรช.) บางแห่ง ไปชักชวนให้ชาวบ้าน คนรู้จัก หรือคนที่เคยเรียนกับ กศน.แล้ว มาลงทะเทียนเรียนกับ ศรช.เพื่อให้ผู้มาเรียนถึง 80 คน ตามข้อกำหนด ครู ศรช.1 คน ต้องรับผิดชอบเด็ก 80 คน เมื่อมีนักศึกษามาลงทะเบียนเรียนกับ ศรช.ครบ 80 คน จึงจะเปิดสอนและเบิกค่าจ้างสอนได้ หากมีไม่ถึง 80 คน ก็ไม่สามารถเปิดสอนและเบิกค่าจ้างสอนได้
ดังนั้น ครู ศรช.จำเป็นต้องหาคนรู้จักมาลงทะเบียนเรียน ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้คิดจะเรียน คนเหล่านี้ลงทะเบียนไปแล้ว ก็จะไม่มาเรียนและไม่มาสอบ บางศูนย์ลงทะเบียน 120 คน มาสอบไม่ถึง 30 คน จึงเกิดการสูญเปล่าทางงบประมาณ
“กศน.จะหารือกับกระทรวงการคลังขอแก้ไขระเบียบให้ ครู 1 คน รับผิดชอบนักศึกษาแค่ 40 คน และเบิกค่าจ้างสอนได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังแล้ว กศน.เตรียมทำหนังสือเวียนแจ้งทั่วประเทศ เพื่อให้แต่ละศูนย์มีการกลั่นกรองนักศึกษาที่ตั้งใจมาเรียนจริง ขณะเดียวกัน กศน.จะกำหนดไว้เลยว่า ต้องมีเข้าสอบไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของผู้ลงทะเบียน หากมีผู้เข้าสอบน้อยกว่านั้น ต้องมีการสอบสวนและครูประจำศูนย์ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมนักศึกษาที่ลงทะเบียนไว้ถึงไม่มาเข้าสอบและก่อนสอบมาเรียนบางรึเปล่า”
นายอภิชาติ ตอกย้ำว่า ครูประจำศูนย์ไม่เคยตอบได้เลยว่า นักศึกษาของตัวเองหายไปไหน ทำไมจึงไม่มาเรียนหรือมาสอบ ต่อไปครูจะต้องชี้แจ้งได้ เช่น นักศึกษาติดงาน ลางานมาสอบในวันนั้นได้ หรือนักศึกษาไม่มาสอบ เพราะลาออกโดยทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ก็ไม่เป็นไร ถ้าชี้แจ้งไม่ได้ แล้วมีแนวโน้มว่า ครูขอให้ชาวบ้านมาลงทะเบียนเพราะหวังทำยอด จะต้องถูกลงโทษ แต่คงไม่สามารถลงโทษอะไรได้มาก เพราะครู ศรช.ไม่ใช่ข้าราชการ อย่างมากก็เลิกจ้าง หรือถ้ามีหลักฐานว่ามีการทุจริตก็สามารถแจ้งความดำเนินคดี แต่ไม่เอาผิดทางวินัยได้
ด้านนางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเสริมว่า จะให้นักศึกษาใช้เลข 13 หลัก ในการลงทะเบียนเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้มีรายชื่อนักศึกษาซ้ำซ้อนตามศูนย์ต่าง ๆ เมื่อลงทะเบียนไปแล้ว 15 วัน จะให้ทางศูนย์ยืนยันยอดกลับมาอีกครั้ง พร้อมมอบให้ ผอ.กศน.อำเภอ ผอ.กศน.จังหวัด ไปคอยนิเทศ ติดตามดูการสอนด้วย
“กศน. มีการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยตามห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ด้วย โดยห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ จะได้รับการสนับสนุนงบรายหัวตามจำนวนผู้มาใช้บริการหัวละ 100 บาท เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีบัญชีผีขึ้นมาอีก จะให้ผู้มาใช้บริการลงทะเบียนโดยใช้เลข 13 หลักเช่นเดียวกัน”
