กศน.ขานรับกระแสพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ ยกเครื่องหลักสูตรให้เหมาะกับผู้ใหญ่ เน้นให้ผู้เรียนแสดงความจำนงว่าอยากเรียนอะไร แย้มวัยทำงานขอเรียนภาษาจีนเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เผยเร่งพัฒนาห้องสมุด ให้เป็นห้องสมุดมีชีวิตตั้งเป้าปีนี้ 50 แห่ง
นายสมบัติ สุวรรณพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) กล่าวว่า จากการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริให้ กศน.ปรับแบบการเรียนการสอนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับผู้เรียน ซึ่งอยู่ระหว่างอายุ 15-59 ปี โดยเน้นเนื้อหาวิชาการและหลักสูตรที่ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันนั้น ขณะนี้ กศน.ทุกแห่งทั่วประเทศดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว
กล่าวคือ สำหรับการเรียนการสอนผู้ใหญ่ นอกเหนือจะให้อ่านออกเขียนได้คล่องแล้ว ยังใช้วิธีการให้ผู้เรียนเสนอศูนย์ กศน.ที่ต้องการเรียนด้วยว่า สนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ จากนั้นทางศูนย์จะหาวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านนั้นๆ มาสอน
นอกจากนี้ ในปัจจุบันนี้พบว่าคนวัยทำงานแจ้งว่าต้องการเรียนภาษาจีน ดังนั้น กศน.จึงได้จัดการเรียนการสอนเพื่อสนองความต้องการดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการสื่อสารภาษาจีนในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกัน เพื่อรองรับผู้เรียนที่นับวันจะมาเรียนภาษาจีนเพิ่มขึ้น จึงมีแนวคิดจัดหลักสูตรสอนทางไกลผ่านดาวเทียมด้วย
“ผู้เรียนต้องการเรียนเพื่อปรับวุฒิการศึกษา ผู้สอนนอกจากจะให้ความรู้ด้านวิชาการ ยังนำสิ่งใกล้ตัวมาเป็นสื่อการเรียนด้วย บางทีก็หยิบเรื่องที่น่าสนใจจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร และแห่งเรียนรู้ต่างๆ นำมาพูดคุยกันในชั้นเรียน เพื่อสร้างบรรยากาศให้เป็นกันเอง พร้อมกับเปิดโลกกว้างให้ผู้เรียนมีความรู้รอบตัวเพิ่มขึ้น วิธีนี้อาจต่อยอดให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้จากสิ่งที่เขาสนใจและศึกษาเรื่องนั้นอย่างจริงจัง”
นายสมบัติ กล่าวต่อว่า กศน.ยังทำหน้าที่สอนวิชาชีพอีกด้วยโดยแต่ละศูนย์อาจจะเปิดสอนวิชาชีพต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้เรียนอยากเรียนอะไร ซึ่งเขาจะรวมกลุ่มกันมาแล้วมาบอกกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ หรือ ศูนย์ปิดประกาศว่าจะสอนอะไร เพื่อให้ผู้สนใจมาสมัครเรียน
“วิชาชีพ กศน.มีความหลากหลายมาก บางทีก็ขึ้นอยู่กับกระแสนิยมช่วงนั้นๆ อย่างประดิษฐ์เครื่องประดับ ร้อยลูกปัด ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก โดยผู้สอนต้องกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลาต้องไปดูว่าแฟชั่นเครื่องประดับวันนี้มีลักษณะอย่างไร เขาจะมาสอนให้ผู้เรียน ทั้งนี้ผู้เรียนสามารถทำออกมาแล้วสามารถนำมาขายได้”
“เคยคิดว่าช่างเสริมสวย ตัดผมจะตกยุค แต่ปรากฏว่า ได้รับการขานรับจากผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง โดยผู้สอนมักจะปรับหลักสูตรให้อินเทรนด์ ที่สำคัญผู้เรียนเรียนจบหลักสูตรแล้วสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพสร้างรายได้เลี้ยงตัวเอง”
นายสมบัติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้จัดสรรงบประมาณแห่งละ 1-2 แสนบาท ให้แก่ห้องสมุด กศน. 848 แห่งทั่วประเทศ เพื่อนำไปพัฒนาเป็นห้องสมุดมีชีวิต และระหว่างนี้กำลังจัดตั้งคณะกรรมการ เพื่อมาประเมินห้องสมุดให้ได้มาตรฐาน ห้องสมุดดีและดีมาก ทั้งนี้จะเริ่มประเมินระหว่างเดือน มี.ค.ถึง เม.ย.นี้
“งบในการพัฒนาห้องสมุดให้เป็นห้องสมุดมีชีวิตนั้น ส่วนหนึ่งเป็นงบของ กศน.อีกส่วนจะขอสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น โดยปี 2551 ตั้งเป้าพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตไว้ 50 แห่ง” นายสมบัติ กล่าว
