“สมชาย” ยาหอม กศน.พร้อมหนุนให้เป็นองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการหาทำได้ ด้านเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานการศึกษานอกโรงเรียน ยื่นหนังสือตั้งเป็นกรมเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน ขณะที่เลขา กศน.ขู่เล่นงาน ผอ. กศน.จังหวัด หากพบบังคับขายเข็ม-เครื่องแบบให้นักศึกษา
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ในการเปิดงานสัมมนาในหัวข้อ “เปิดฟ้าการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย” แก่ผู้บริหารจากทั่วประเทศประมาณ 1,200 คน ที่โรงแรมโลตัส ปางสวนแก้ว จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในเรื่องการศึกษาที่จะส่งเสริมการศึกษาทุกระบบ โดยเฉพาะ กศน.เพราะต้องการให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตและเข้าถึงการศึกษาโดยเท่าเทียมกัน และตั้งแต่นี้ต่อไปตนจะให้ความสนใจและความสำคัญอย่างจริงจัง โดยจะยกฐานะงาน กศน.และผลักดันงบประมาณที่มีความจำเป็นให้ทัดเทียมกับการจัดการศึกษาในระบบปกติ เพราะ กศน.มีความสำคัญมากในการพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกันก็จะดูแลบุคลากรของศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอัตราจ้างให้มีความมั่นคงในอาชีพการงานมากขึ้น เพราะถือได้ว่าเป็นผู้ที่เสียสละ
ขณะที่นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาและตามอัธยาศัย ให้นโยบายต่อผู้บริหารสถานศึกษาสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาและตามอัธยาศัย (กศน.) กล่าวว่า การดำรงตำแหน่งเลขาธิการของตนครั้งนี้ ขอให้ผู้บริหารทุกคนสบายใจได้ว่า ตนไม่ได้เป็นเด็กใครและเข้ามาทำอะไรเพื่อใคร แต่มาเพื่อทำงานให้ กศน.ทั้งนี้ นโยบายที่ตนอยากฝากให้ ผอ.กศน.จังหวัด และ ผอ.กศน.อำเภอดูแลคือ การรับนักศึกษา ปีการศึกษา 2551 ขอให้สถานศึกษารับนักศึกษาไม่มากกว่านักศึกษาที่จบการศึกษาในปีที่ผ่านมา หากมีผู้มาสมัครเกินให้เสนอเรื่องมาที่ส่วนกลาง เพื่อพิจารณาเป็นกรณีๆไป และจะต้องมีผู้เข้าสอบไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียน ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่าศูนย์การเรียนชุมชน (ศรช.) บางแห่งมีการนำเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักมาลงทะเบียนเป็นนักศึกษาเพื่อเพิ่มยอด โดยมีจำนวนผู้สมัคร 80-100 คน แต่มีผู้เข้าสอบเพียง 10-20 คนเท่านั้น และขอให้ดูแลเรื่องของเงินอุดหนุนไม่ให้มีบัญชีผี แม้ยอดตัวเลขนักศึกษาที่มาเรียนจะลดก็ไม่เป็นไรขอให้เป็นข้อมูลจริง ที่สำคัญ อย่าบังคับนักศึกษาให้ซื้อเครื่องแบบ เพราะไม่มีประเทศไหนที่นักศึกษานอกระบบบังคับให้นักศึกษานอกระบบแต่งเครื่องแบบมาเรียน แต่เท่าที่ทราบขณะนี้มีสำนักงาน กศน.อำเภอบางแห่งบังคับให้นักศึกษาซื้อกระดุมและเข็มขัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ หากมีสถานศึกษาใดกระทำการดังกล่าวตนจะเล่นงาน ผอ.กศน.จังหวัด และขอฝาก ผอ.กศน.อำเภอให้นิเทศก์ติดตามการทำงานรวมทั้งกิจกรรมพบกลุ่มของศูนย์การเรียนชุมชน (ศรช.) ไม่ใช่ทำงานตั้งรับแต่ในสำนักงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพิธีเปิดงานได้มีกลุ่มผู้บริหาร กศน.นำโดย นายวรพจน์ เตียวกุล ประธานชมรมเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานการศึกษานอกโรงเรียนแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือเรื่องขอแก้ไขพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 ในมาตรา 10 โดยขอให้เพิ่มเติมให้มีสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อจะได้มีฐานะเป็นนิติบุคคลแทนการเป็นสำนักในสังกัดสำนักงานปลัด ศธ.ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ด้วยตนเอง ทั้งการกำหนดนโยบาย แนวทางและยุทธศาสตร์ ตลอดจนสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัว ฉับไว เข้าถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง ไม่ต้องผูกติดกับสำนักงานปลัด ศธ.อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งนายสมชาย กล่าวว่า ตนรับข้อเสนอดังกล่าวไปให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาหากเห็นว่าสามารถทำได้ และหน่วยงานมีความพร้อมทั้งในเรื่องของบุคลากร และงบประมาณที่สามารถเป็นกรมหรือองค์กรหลักได้ ตนก็พร้อมที่จะส่งเสริมและสนับสนุนอยู่แล้ว