สูติ-นรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำใช้น้ำเปล่าทำความสะอาด “จุดซ่อนเร้น” ของคุณสาวๆ จะเป็นการดีและปลอดภัยกว่า เนื่องจากการใช้สบู่ที่เป็นด่างอาจทำให้ภาวะความสมดุลของจุดซ่อนเร้นเสียไป แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับจุดซ่อนเร้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับบุคคล ต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน และระวังอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นได้
รศ.นพ.อภิธาน พวงศรีเจริญ สูติ-นรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลราชวิถี เปิดเผยถึงการดูแลสุขภาพอวัยวะสืบพันธ์เพศหญิงด้วยวิธีต่างๆ ว่า อวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงนั้นโดยปกติมีค่าเป็นกรดอ่อนๆ การใช้สบู่ที่เป็นด่างอาจทำให้ภาวะความสมดุลของจุดซ่อนเร้นเสียไป หรืออาจเกิดการติดเชื้อจากภายนอกได้ ดังนั้นการทำความสะอาด ควรล้างด้วยน้ำเปล่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้เฉพาะกับจุดซ่อนเร้น แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับจุดซ่อนเร้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับบุคคล เพราะบางคนก็แพ้สารประเภทนี้ได้ ทางที่ดีใช้น้ำเปล่าธรรมดาจะดีกว่า
ข้อควรพึงระวังอีกอย่างที่ผู้หญิงหลายคนมักมองข้ามและละเลยต่อการปฏิบัตินั้นคือ การซักและการตากชุดชั้นใน โดยควรจะตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ให้โดนลม โดนแดดบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ที่สำคัญไม่ควรตากไว้ในห้องน้ำ เพราะจะยิ่งทำให้เชื้อโรคสะสม ส่วนการซักก็ควรซักด้วยน้ำยาซักผ้าและล้างให้สะอาดก่อนเพื่อลดอาการคันหรือแพ้สารเคมีที่อยู่ในผงซักฟอก
สำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น รศ.นพ.อภิธาน แนะว่า จุดซ่อนเร้นของผู้หญิงเป็นสิ่งที่บอบบางการจะใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก็ต้องศึกษาให้ดีก่อน เพราะค่า ph ของอวัยวะสืบพันธ์กับผลิตภัณฑ์อาจแตกต่างกัน การล้างก็เช่นกันควรล้างแต่ภายนอก ไม่ควรล้างจนถึงภายในเพราะอาจทำให้ติดเชื้อโรคได้
ด้าน รศ.นพ.วีระพล จันทร์ดียิ่ง คณะแพทย์ศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ เปิดเผยถึงโรคที่มักเกิดกับอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงว่า ส่วนใหญ่ที่ผู้ป่วยมักเข้ามาปรึกษาแพทย์ก็คือ อาการตกขาว ทั้งก่อนมีประจำเดือนและหลังหมดประจำเดือนสูงถึงร้อยละ 70 ซึ่งลักษณะการตกขาวที่ผิดปกติมีอยู่ 3 ลักษณะ คือ 1.มีจำนวนมากกว่าปกติ 2.มีกลิ่นเหม็นน่ารังเกียจ 3.มีสีคล้ำและเป็นหนอง
อย่างไรก็ตาม อาการตกขาวเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงทุกคนจะต้องเจอ ทั้งนี้อาการตกขาว 30% ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ส่วนอีก 80% เมื่อเป็นแล้วมักจะหายเอง คนท้องหรือเพิ่งคลอดลูกก็จะมีอาการดังกล่าวมากกว่าคนปกติ
ส่วนโรคทางเพศสัมพันธ์ แนะนำให้รักษาทั้ง 2 ฝ่าย ไม่อย่างนั้นก็จะเหมือนกับการเล่นตีปิงปอง เพราะถ้ารักษาอีกฝ่ายหนึ่งหายแต่อีกฝ่ายยังเป็นต้นตอของโรคอยู่ก็จะทำให้ไม่หายขาด และเป็นอย่างนั้นอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นจึงควรรักษาให้หายขาดทั้ง สองฝ่ายจะเป็นดีที่สุด