"พงศกร"กำชับผู้บริหารสถานศึกษาห้ามออกหนังสือรับรองเงินเดือนและรายได้ให้ครู เพื่อนำไปยื่นกู้ใหม่ หากใครทำหนังสือรับรองรายได้ให้ครูก่อหนี้จะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย เตรียมเรียกคณะทำงานประชุมร่วมกับธนาคารหลายแห่ง
นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาได้หารือถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยได้มีการพูดถึงปัญหาและหาแนวทางที่จะไปแก้ปัญหาหนี้สินครู ซึ่งในเบื้องต้นเห็นว่า ควรจะต้องเข้าไปจัดการหนี้สินของครูที่มีอยู่ โดยให้ธนาคารเข้ามาเป็นเจ้าหนี้แทนเจ้าหนี้เดิม และให้ครูผ่อนชำระต่อเดือนน้อยลง และชำระในระยะยาว เนื่องจากปัจจุบันครูต้องชำระหนี้สินต่อเดือนสูง เช่น การชำระหนี้สินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมีระยะเวลาผ่อนชำระน้อยทำให้ต้องจ่ายเงินต่อเดือนเยอะ
ทั้งนี้ เมื่อสามารถช่วยเหลือครูให้ชำระหนี้สินต่อเดือนน้อยลงแล้ว และในขั้นตอนต่อไป ศธ.จะต้องออกมาตรการควบคุมไม่ให้ครูเพิ่มหนี้สินด้วยการไปกู้เงินเพิ่มอีก ซึ่งจะต้องมีการกำชับผู้บริหารสถานศึกษาไม่ให้ออกหนังสือรับรองเงินเดือนและรายได้ให้ครูนำไปกู้เงินได้อีกไม่เช่นนั้นจะสร้างหนี้สินให้ครูอีก โดยผู้บริหารสถานศึกษาที่รู้ว่าครูมีหนี้สินอยู่แล้วและยังออกหนังสือรับรองเงินเดือนและรายได้ให้จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้และจะต้องมีความผิดด้วย
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามภายในสัปดาห์หน้าตนจะประชุมคณะทำงานด้านแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งจะมีที่ปรึกษาที่เป็นผู้บริหารจากธนาคารกรุงไทย ธนาคาร ออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เข้าร่วมด้วย เพื่อหารือกันว่าน่าจะใช้แนวทางและวิธีการใดบ้างในการเข้ามาแก้ไขหนี้สินครู
นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาได้หารือถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยได้มีการพูดถึงปัญหาและหาแนวทางที่จะไปแก้ปัญหาหนี้สินครู ซึ่งในเบื้องต้นเห็นว่า ควรจะต้องเข้าไปจัดการหนี้สินของครูที่มีอยู่ โดยให้ธนาคารเข้ามาเป็นเจ้าหนี้แทนเจ้าหนี้เดิม และให้ครูผ่อนชำระต่อเดือนน้อยลง และชำระในระยะยาว เนื่องจากปัจจุบันครูต้องชำระหนี้สินต่อเดือนสูง เช่น การชำระหนี้สินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูมีระยะเวลาผ่อนชำระน้อยทำให้ต้องจ่ายเงินต่อเดือนเยอะ
ทั้งนี้ เมื่อสามารถช่วยเหลือครูให้ชำระหนี้สินต่อเดือนน้อยลงแล้ว และในขั้นตอนต่อไป ศธ.จะต้องออกมาตรการควบคุมไม่ให้ครูเพิ่มหนี้สินด้วยการไปกู้เงินเพิ่มอีก ซึ่งจะต้องมีการกำชับผู้บริหารสถานศึกษาไม่ให้ออกหนังสือรับรองเงินเดือนและรายได้ให้ครูนำไปกู้เงินได้อีกไม่เช่นนั้นจะสร้างหนี้สินให้ครูอีก โดยผู้บริหารสถานศึกษาที่รู้ว่าครูมีหนี้สินอยู่แล้วและยังออกหนังสือรับรองเงินเดือนและรายได้ให้จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้และจะต้องมีความผิดด้วย
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามภายในสัปดาห์หน้าตนจะประชุมคณะทำงานด้านแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ซึ่งจะมีที่ปรึกษาที่เป็นผู้บริหารจากธนาคารกรุงไทย ธนาคาร ออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เข้าร่วมด้วย เพื่อหารือกันว่าน่าจะใช้แนวทางและวิธีการใดบ้างในการเข้ามาแก้ไขหนี้สินครู