xs
xsm
sm
md
lg

องค์การค้าฯหาเงินไม่เป็น ขอเงินภาษี 300 ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

องค์การค้าฯ เล็งใช้เงินภาษีประชาชนแก้ปัญหาหนี้สินองค์กร เข็นแผนหารือ “พงศกร” ของบประมาณให้เปล่าจากรัฐบาล 300 ล้าน เพื่อให้พนักงานอายุ 50 ปี เออลีรีไทร์ เชื่อจะสามารถแก้ไขปัญหาได้

ดร.จรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ สกสค.เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแผนการบริหารองค์การค้า ของ สกสค.ซึ่งหากพิจารณาศักยภาพขององค์การค้าฯในปัจจุบัน โดยไม่รวมหนี้สินที่เกิดจากการบริหารงานผิดพลาดในอดีตที่ทำให้มีหนี้สินค้างอยู่ประมาณ 2,300 ล้านบาท และต้องชำระดอกเบี้ยปีละ 160 ล้านบาทแล้ว องค์การค้าฯ จะมีเงินกำไรเหลือประมาณ 250 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม กรรมการ สกสค.ก็ยังไม่พอใจ เพราะต้องรับผิดชอบหนี้สินเดิมที่มีอยู่ ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้ นายบำเรอ ภานุวงค์ ผอ.องค์การค้าฯ ไปทำแผนพัฒนาองค์การค้าฯ โดยให้ยึดแนวทางที่ ดร.นิพนธ์ สุรพงษ์รักเจริญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้เสนอไว้ โดยใช้แผนหยุดเลือด คือหยุดหนี้โดยไม่ก่อภาระหนี้ผูกพันในอนาคตเพิ่มเติม และลดเจ้าหน้าที่ โดยนำโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด หรือ เออลีรีไทร์ มาใช้

ดร.จรวยพร กล่าวอีกว่า สกสค.จะนำแนวทางการลดเจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ โดยนำโครงการเออลีรีไทร์มาใช้ เข้าหารือกับ นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ ก่อน เพราะการให้เจ้าหน้าที่องค์การค้าฯ ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเข้าร่วมโครงการ โดยจ่ายเงินชดเชยจำนวน 15 เท่าของเงินเดือน เพื่อหยุดเลือดทันที ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่องค์การค้าฯ ไม่มีเงินในส่วนนี้ จึงต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณแบบให้เปล่าจากรัฐบาล โดยคณะกรรมการ สกสค.ชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ และในระหว่างนี้กำลังสรรหากรรมการชุดใหม่ ซึ่งคาดว่า จะได้บอร์ด สกสค.ชุดใหม่ในวันที่ 20 เมษายนนี้ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติให้จ้างบริษัทภายนอกมาประเมินประสิทธิภาพองค์กร เพื่อให้บอร์ดชุดใหม่ได้ใช้เป็นข้อมูลในการปรับประสิทธิภาพ ทั้งในส่วนของ สกสค.และองค์การค้าฯ

ด้าน นายบำเรอ กล่าวว่า องค์การค้าฯมีแผนจะชำระหนี้ในอดีตให้เจ้าหนี้แต่ละราย โดยจะเชิญเจ้าหนี้แต่ละคนมาหารือเพื่อร่วมกันทำแผนชำระหนี้ ซึ่งคาดว่าแผนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ส่วนการลดอัตราบุคลากรนั้น ที่ผ่านมาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยทำการวิจัยว่าองค์กรขนาดใหญ่อย่างองค์การค้าฯ ต้องใช้บุคลากรประมาณ 1,600 คน แต่เรามีบุคลากรอยู่ถึง 2,058 คน ดังนั้น หากสามารถให้ผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปสมัครใจเออลีรีไทร์ได้ก็จะหยุดเลือดได้ทันที แต่หากไม่ทำโครงการดังกล่าวและไม่รับคนใหม่เข้าก็จะมีคนเกษียณ และทยอยออกจนเหลือตามกรอบ 1,600-1,700 คน ในปี 2555 แต่องค์การค้าฯ ต้องแบกรับภาระเงินเดือนบุคลากรไปอีก 5 ปี แต่หากรัฐบาลให้งบมาเพื่อดำเนินโครงการเออลีรีไทร์ก็จะหยุดเลือดองค์การค้าฯได้ทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น