สหภาพองค์การค้าตบเท้าเข้าพบ “พงศกร” แฉการบริหารงานขององค์การค้าไม่ชอบมาพากล ร้องให้ สตง.เข้ามาตรวจสอบการบริหารงานเพื่อสร้างความโปร่งใส ด้าน “พงศกร” เตรียมตั้งคณะทำงานติดตามการบริหารงานของบอร์ดองค์การค้า ลั่น! หากพบมีการทำผิดจริงไม่เพียงแค่ไล่ออก แต่ต้องถูกดำเนินการจนถึงที่สุดด้วย
นายพงศกร อรรณนพพร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังนายอนันต์ นุชเทศ ประธานสหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาเข้าพบ พร้อมตัวแทนประมาณ 20 คนว่า สหภาพฯ ได้นำปัญหาและความคับแค้นใจเกี่ยวกับวิธีการบริงาน เพื่อขอให้ตนช่วยติดตามการทำงานให้องค์กรสามารถเดินหน้าไปในทางที่ดี ในฐานะที่ตนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เนื่องจากที่ผ่านมาองค์การค้าของ สกสค.ยังไม่มีการพัฒนาที่จะต่อสู้ในโลกเสรีทางการค้าได้ ทั้งนี้ ทางสหภาพฯ ยังได้เสนอให้งานพิมพ์ต่างๆ ภายในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นหน้าที่ขององค์การค้าฯ ที่จะรับดำเนินการ ซึ่งจะทำให้องค์การค้าฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถที่จะดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพครูได้ดีขึ้นด้วย
“นอกจากนี้ ทางสหภาพฯ ยังได้พูดถึงปัญหาความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และไม่มีหน่วยงานที่จะสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ มีเพียงการตรวจสอบกันเองขององค์กร ซึ่งได้มีการเสนอให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้ามาช่วยตรวจสอบ หากมีการสะสางและตรวจสอบอย่างละเอียด ทางสหภาพฯ ก็จะเกิดความสบายใจขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาว่าการจะให้ สตง.เข้ามานั้นเป็นอำนาจที่ทำได้หรือไม่ เนื่องจากองค์การค้าฯ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน่วยงานราชการ” นายพงศกร กล่าว
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ตนจะตั้งคณะทำงานที่มาจากหลายภาคส่วน โดยมาจากทั้งภายนอกและภายในองค์กร รวมทั้งจะให้ตัวแทนจากสหภาพแรงงานฯ ร่วมเป็นคณะทำงานด้วย เพื่อทำหน้าที่ติดตามและดูแลการบริหารงานของบอร์ดองค์การค้าฯ อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นนั้น ผู้ที่เป็นฝ่ายดำเนินการก็บอกว่า ตนเองทำถูกแล้ว ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิด ดังนั้นจึงควรมีคณะทำงานที่จะเข้ามาดูแล และตรวจสอบการบริหารงานขององค์การค้าฯ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความสบายใจของทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบและพบว่า มีการกระทำผิดจริงก็จะต้องไม่ลงโทษเพียงแค่ให้ออกจากราชการเท่านั้น เมื่อกระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินการอย่างถึงที่สุด
นายอนันต์ กล่าวว่า ตนพร้อมคณะได้รวบรวมปัญหาขององค์การค้าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่าน ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมนำเสนอต่อนายพงศกร เพื่อให้แก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน นอกจากนี้ อยากให้มีการตรวจสอบการบริหารงานขององค์การค้าฯ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานที่มาทำหน้าที่ดังกล่าว ขณะเดียวกัน องค์การค้าก็เกิดปัญหาหนี้สินมายาวนาน
นายพงศกร อรรณนพพร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังนายอนันต์ นุชเทศ ประธานสหภาพแรงงานองค์การค้าของคุรุสภาเข้าพบ พร้อมตัวแทนประมาณ 20 คนว่า สหภาพฯ ได้นำปัญหาและความคับแค้นใจเกี่ยวกับวิธีการบริงาน เพื่อขอให้ตนช่วยติดตามการทำงานให้องค์กรสามารถเดินหน้าไปในทางที่ดี ในฐานะที่ตนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เนื่องจากที่ผ่านมาองค์การค้าของ สกสค.ยังไม่มีการพัฒนาที่จะต่อสู้ในโลกเสรีทางการค้าได้ ทั้งนี้ ทางสหภาพฯ ยังได้เสนอให้งานพิมพ์ต่างๆ ภายในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นหน้าที่ขององค์การค้าฯ ที่จะรับดำเนินการ ซึ่งจะทำให้องค์การค้าฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถที่จะดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพครูได้ดีขึ้นด้วย
“นอกจากนี้ ทางสหภาพฯ ยังได้พูดถึงปัญหาความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และไม่มีหน่วยงานที่จะสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ มีเพียงการตรวจสอบกันเองขององค์กร ซึ่งได้มีการเสนอให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้ามาช่วยตรวจสอบ หากมีการสะสางและตรวจสอบอย่างละเอียด ทางสหภาพฯ ก็จะเกิดความสบายใจขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาว่าการจะให้ สตง.เข้ามานั้นเป็นอำนาจที่ทำได้หรือไม่ เนื่องจากองค์การค้าฯ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน่วยงานราชการ” นายพงศกร กล่าว
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ตนจะตั้งคณะทำงานที่มาจากหลายภาคส่วน โดยมาจากทั้งภายนอกและภายในองค์กร รวมทั้งจะให้ตัวแทนจากสหภาพแรงงานฯ ร่วมเป็นคณะทำงานด้วย เพื่อทำหน้าที่ติดตามและดูแลการบริหารงานของบอร์ดองค์การค้าฯ อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งความไม่ชอบมาพากลที่เกิดขึ้นนั้น ผู้ที่เป็นฝ่ายดำเนินการก็บอกว่า ตนเองทำถูกแล้ว ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าเป็นการกระทำที่ผิด ดังนั้นจึงควรมีคณะทำงานที่จะเข้ามาดูแล และตรวจสอบการบริหารงานขององค์การค้าฯ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความสบายใจของทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบและพบว่า มีการกระทำผิดจริงก็จะต้องไม่ลงโทษเพียงแค่ให้ออกจากราชการเท่านั้น เมื่อกระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินการอย่างถึงที่สุด
นายอนันต์ กล่าวว่า ตนพร้อมคณะได้รวบรวมปัญหาขององค์การค้าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่าน ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมนำเสนอต่อนายพงศกร เพื่อให้แก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน นอกจากนี้ อยากให้มีการตรวจสอบการบริหารงานขององค์การค้าฯ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีหน่วยงานที่มาทำหน้าที่ดังกล่าว ขณะเดียวกัน องค์การค้าก็เกิดปัญหาหนี้สินมายาวนาน
