ขรก.ตั้งสหภาพฯ สู้การเมืองล้วงลูก เร่งประสานสิบทิศหาแนวร่วม สหพันธ์ครู ตำรวจ และ อัยการทั่วประเทศเป็นแรงหนุน ตั้งเป้าเพื่อสร้างระบบคุณธรรม และ อำนาจต่อรอง สกัดกั้นการเมืองใช้ระบบอุปถัมภ์แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม คาด 1 ปี แล้วเสร็จ โดย กพ.เป็น เจ้าภาพหลัก เร่งยกร่างกม.ลูกรองรับ
นายจาดุร อธิชาตบุตร นายกสมาคมข้าราชการพลเรือนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภายใน 1 ปี จะมีการจัดตั้งสหภาพข้าราชการ โดยเป็นไปตามกฎหมาย พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2550 ซึ่งทางสำนักงานข้าราชการพลเรือน (กพ.) เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการร่างกฎหมายลูกและจัดตั้งโครงสร้างองค์กรรองรับตัวแทนข้าราชการจาก 20 กระทรวง และทางสมาคมฯได้เร่งประสานเพื่อรวมกลุ่มระหว่างข้าราชการพลเรือนที่อยู่ในความดูแลของ กพ. ประมาณ 3 แสนคน
"ภายใน 2 - 3 วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการสมาคมข้าราชการพลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งทางท่านปราโมช รัฐวินิจ อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งถูกโยกย้าย และเป็นหนึ่งในกรรมการสมาคมจะมาร่วมประชุมด้วย" นายกสมาคมฯ กล่าว
ทั้งนี้ได้ขยายการรวมกลุ่มไปยังข้าราชการครู ตำรวจ และ อัยการ รวมไปถึงองค์กรข้าราชการที่มีการรวมตัวกันอยู่เดิมแล้ว เช่น สหพันธ์ครู หรือ กลุ่มอดีตข้าราชการบำนาญที่มีจำนวนหลายแสนคน โดยคาดว่าจะสามารถรวมกลุ่มเป็นสหภาพข้าราชการที่จะมีสมาชิกได้ประมาณ 3 ล้านคน และจะมีการประสานกับเครือข่ายเพื่อทำงานร่วมกัน เช่น เครือข่ายสื่อมวลชน อาสาสมัคร ฝ่ายการเมือง และ องค์กรต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายต้องการสร้างระบบคุณธรรม และ สร้างอำนาจต่อรองขึ้นมาปกป้องการแทรกแซงทางการเมืองในการแต่งตั้งโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม
“เชื่อว่าข้าราชการจะสามารถรวมตัวกันได้เข้มแข็ง เพราะข้าราชการมีความอดทนจำกัด หากถูกใช้เป็นสมบัติส่วนตัว โดยไม่คิดว่า ข้าราชการเป็นสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งการจัดตั้งสหภาพก็เพื่อแสดงพลังคัดค้าน ไม่ให้การเมืองใช้อำนาจโดยไม่ชอบนำระบบข้าราชการไปใช้เป็นเครื่องมือ และตามรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ห้ามให้ข้าราชการตั้งสหภาพไม่ได้” นายกสมาคมฯ กล่าว
นายกสมาคมฯ กล่าวอีกว่า แม้ว่าการแต่งตั้งข้าราชการโดยใช้อำนาจฝ่ายการเมือง ซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย แต่จะต้องคำนึงถึงคุณธรรม เพราะข้าราชการประจำมีที่มาแตกต่างจากข้าราชการทางการเมืองที่ใช้ข้าราชการประจำขับเคลื่อนนโยบายทางการเมืองโดยใช้ข้าราชการเป็นเครื่องมือ แต่อย่าลืมว่า ข้าราชการประจำมีที่มาจากการคัดสรรตามคุณสมบัติและความรู้ความสามารถโดยจะอยู่ในตำแหน่งจนเกษียณอายุราชการ 60 ปี ดังนั้นระบบคุณธรรมจะต้องเข้ามากำกับ มิใช่ปล่อยให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาใช้ระบบอุปถัมภ์ในการแต่งตั้งโยกย้า
“เห็นได้ว่าฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงแต่งตั้งโยกย้าย ด้วยการโยกย้ายข้ามห้วย แต่ในขณะที่ข้าราชการจะมีสายการเติบโตแต่ต่างกัน เมื่อเจอโดยย้ายแบบนี้ก็ต้องรู้สึกน้อยใจ” นายกสมาคมฯ กล่าว
นายจาดุร กล่าวต่อว่า สหภาพที่เกิดขึ้นจะไม่ถูกนำมาใช้ปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มข้าราชการด้วยกัน แต่จะมีองค์กรจากภายนอกคอยตรวจสอบ เช่น ศาลปกครอง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ปปช.) และ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)คอยตรวจสอบอยู่ และ แม้การเมืองจะมีอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้าย แต่ควรระมัดระวังในการแต่งตั้ง ที่ไม่ควรจะใช้การแต่งตั้งโยกย้ายนอกฤดูกาลเอื้อประโยชน์ต่อตัวเองในการทำงาน
“สิ่งที่ผมออกมาสนับสนุนให้มีการรวมตัวสหภาพข้าราชการเพราะยึดคติว่า เวลาคนชั่วรวมตัวกันจะทำอะไรได้ดี เพราะคนดีรวมตัวกันไม่ได้ เพราะต่างคนต่างเก่ง จึงทำให้บ้านเมืองไทยเป็นอย่างนี้ ดังนั้น สหภาพจะเป็นแหล่งรวมคนดีเข้าด้วยกัน” นายกสมาคมฯ กล่าว