คณะอนุกรรมการด้านการถ่ายโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีมติให้ อปท.ต่อสัญญาจ้างงานครูจาก สพฐ.ที่ถ่ายโอนไปสังกัด อปท.รุ่นแรก 45 คน ในอัตราเงินเดือนเดิมโดยไม่มีเงื่อนไข ส่วนการประเมินวิทยฐานะหากยื่นเรื่องประเมินก่อนถ่ายโอนให้ต้นสังกัดเดิมเป็นผู้พิจารณา แต่หากถ่ายโอนไปแล้วให้ยื่นประเมินต่อ อปท.
นายบุญรัตน์ วงศ์ใหญ่ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการถ่ายโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผู้แทนจากสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วมประชุม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงปัญหาพนักงานราชการที่ถ่ายโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมกับโรงเรียนที่ถ่ายโอนไป ซึ่งไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้าง หรือได้รับเงินเดือนลดลงกว่าที่เคยได้รับจากเดิมในสังกัด สพฐ.ซึ่งที่ประชุมมีมติให้พนักงานราชการที่ถ่ายโอนไปสังกัด อปท.รอบแรก จำนวน 45 คนได้รับการต่อสัญญาจ้างโดยไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งให้ยึดฐานเงินเดือนเดิม อย่างไรก็ตาม สถ.ได้แย้งว่าทาง อปท.ต้องการจะประเมินก่อนที่จะมีการต่อสัญญา ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการได้ชี้แจงว่าที่ผ่านมา สพฐ.ได้ประเมินพนักงานราชการดังกล่าวเป็นระยะก่อนต่อสัญญาอยู่แล้ว จึงขอให้ต่อสัญญาไปก่อน หากภายหลังพบว่าคุณภาพไม่ดีหรือพฤติกรรมไม่เหมาะสม อปท.ก็สามารถพิจารณาเลิกสัญญาได้ ทั้งนี้ ให้ยึดหลักการดังกล่าวกับการรับโอนพนักงานราชการในรุ่นต่อไปด้วย
“สำหรับการประเมินเพื่อเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูที่ถ่ายโอนนั้น หากขณะที่มีการถ่ายโอนยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอประเมินวิทยฐานะ ให้ไปยื่นที่โรงเรียนในสังกัด อปท.ส่วนผู้ที่ยื่นไปแล้วแต่ยังไม่มีการพิจารณาผลงานหรือขั้นตอนการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ ให้ต้นสังกัดเดิมพิจารณาจนกว่าจะแล้วเสร็จ แล้วส่งผลการพิจารณาให้ อปท.ดำเนินการแต่งตั้งตามขั้นตอนต่อไป ส่วนผู้ที่ได้รับการประเมินวิทยฐานะแล้วและจะได้รับเงินวิทยฐานะนั้น เนื่องจากทั้งกระทรวงศึกษาธิการและ อปท.ไม่ได้ตั้งงบประมาณรอไว้เพราะไม่ทราบว่าจะมีผู้ผ่านการประเมินจำนวนเท่าไหร่ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเป็นหน้าที่ของต้นสังกัดที่จะต้องตั้งเบิกโดยได้รับเงินย้อนหลังอยู่แล้ว”รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว
นายบุญรัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ขอให้ อปท.กำหนดตำแหน่งเพื่อรองรับการถ่ายโอนพนักงานบริการ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีอยู่ใน สพฐ.แต่ใน อปท.ไม่มีทำให้พนังงานบริการที่จะถ่ายโอนไปต้องไปรับเงินเดือนของลูกจ้างประจำ ซึ่งต่ำกว่าพนักงานบริการ 2 ขั้น อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถกำหนดตำแหน่งได้ทันให้ อปท.ขยายเพดานเงินเดือนลูกจ้างประจำไว้รองรับก่อน และกำหนดตำแหน่งตามภายหลัง
นายบุญรัตน์ วงศ์ใหญ่ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการถ่ายโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีผู้แทนจากสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าร่วมประชุม ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงปัญหาพนักงานราชการที่ถ่ายโอนไปสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมกับโรงเรียนที่ถ่ายโอนไป ซึ่งไม่ได้รับการต่อสัญญาจ้าง หรือได้รับเงินเดือนลดลงกว่าที่เคยได้รับจากเดิมในสังกัด สพฐ.ซึ่งที่ประชุมมีมติให้พนักงานราชการที่ถ่ายโอนไปสังกัด อปท.รอบแรก จำนวน 45 คนได้รับการต่อสัญญาจ้างโดยไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งให้ยึดฐานเงินเดือนเดิม อย่างไรก็ตาม สถ.ได้แย้งว่าทาง อปท.ต้องการจะประเมินก่อนที่จะมีการต่อสัญญา ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการได้ชี้แจงว่าที่ผ่านมา สพฐ.ได้ประเมินพนักงานราชการดังกล่าวเป็นระยะก่อนต่อสัญญาอยู่แล้ว จึงขอให้ต่อสัญญาไปก่อน หากภายหลังพบว่าคุณภาพไม่ดีหรือพฤติกรรมไม่เหมาะสม อปท.ก็สามารถพิจารณาเลิกสัญญาได้ ทั้งนี้ ให้ยึดหลักการดังกล่าวกับการรับโอนพนักงานราชการในรุ่นต่อไปด้วย
“สำหรับการประเมินเพื่อเลื่อนวิทยฐานะของข้าราชการครูที่ถ่ายโอนนั้น หากขณะที่มีการถ่ายโอนยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอประเมินวิทยฐานะ ให้ไปยื่นที่โรงเรียนในสังกัด อปท.ส่วนผู้ที่ยื่นไปแล้วแต่ยังไม่มีการพิจารณาผลงานหรือขั้นตอนการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ ให้ต้นสังกัดเดิมพิจารณาจนกว่าจะแล้วเสร็จ แล้วส่งผลการพิจารณาให้ อปท.ดำเนินการแต่งตั้งตามขั้นตอนต่อไป ส่วนผู้ที่ได้รับการประเมินวิทยฐานะแล้วและจะได้รับเงินวิทยฐานะนั้น เนื่องจากทั้งกระทรวงศึกษาธิการและ อปท.ไม่ได้ตั้งงบประมาณรอไว้เพราะไม่ทราบว่าจะมีผู้ผ่านการประเมินจำนวนเท่าไหร่ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเป็นหน้าที่ของต้นสังกัดที่จะต้องตั้งเบิกโดยได้รับเงินย้อนหลังอยู่แล้ว”รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว
นายบุญรัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ขอให้ อปท.กำหนดตำแหน่งเพื่อรองรับการถ่ายโอนพนักงานบริการ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีอยู่ใน สพฐ.แต่ใน อปท.ไม่มีทำให้พนังงานบริการที่จะถ่ายโอนไปต้องไปรับเงินเดือนของลูกจ้างประจำ ซึ่งต่ำกว่าพนักงานบริการ 2 ขั้น อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถกำหนดตำแหน่งได้ทันให้ อปท.ขยายเพดานเงินเดือนลูกจ้างประจำไว้รองรับก่อน และกำหนดตำแหน่งตามภายหลัง
