ศธ.ขอให้นักเรียนทุนเฉลิมพระเกียรติ ยึดแนวทางการปฏิบัติของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เรื่องกตัญญูต่อพ่อแม่ผู้มีพระคุณ ใฝ่การเรียนรู้ เมตตาต่อผู้อื่น และไม่ฟุ่มเฟื่อย
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จ.นครปฐม นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมแนะแนวการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาและปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ แก่นักเรียนทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 48 พรรษา เมื่อปี 2546 และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2546 เพื่อให้มีการจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีอัตราการเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ต่ำ ซึ่งนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับทุนนี้จะได้รับต่อเนื่องตั้งแต่ระดับม.ปลายจนถึงระดับอุดมศึกษา (ปริญญาตรี) เป็นระยะเวลา 10 ปี (ระหว่างปี 2547-2562) ปีละ 480 ทุน โดยจะมีผู้รับทุนทั้งสิ้น 4,800 ทุน ใช้งบประมาณจำนวน 528 ล้านบาท สำหรับอัตราการให้ทุน ม.ปลายและหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปีละ 10,000 บาทต่อคน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับอุดมศึกษา ปีละ 20,000 บาท ทั้งนี้ทุนดังกล่าวดำเนินการมาแล้ว 4 ปีมีนักเรียน นักศึกษา รวมถึงสามเณร ที่รับทุนแล้วทั้งสิ้น 1,920 คน
ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ให้โอวาทนักเรียนทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารีในโครงการอบรมแนะแนวการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา และปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ว่า เนื่องในวโรกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงขอให้นักเรียนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี น้อมนำพระจริยวัตรของสมเด็จพระเทพฯ มาเป็นแนวทางปฏิบัติในชีวิต อย่างเช่น ความสนใจใฝ่เรียนรู้ ขอให้นักเรียนสนใจในเรื่องราวรอบด้าน สิ่งรอบตัว ทั้งเรื่องทีเกิดขึ้นในชุมชนและทั่วโลก
ส่วนเรื่องความประหยัดมัธยัสถ์ หากสังเกตจะเห็นว่าพระองค์ไม่ค่อยตัดฉลองพระองค์ใหม่ รวมถึงรองพระบาท พระองค์จะใส่ประจำจนกว่าฉลองพระองค์นั้นจะชำรุด เพราะฉะนั้น ขอให้นักเรียนทุกคนไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยตามคนอื่น ให้ซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น จะได้ไม่มีหนี้สิน
พร้อมกันนี้ สมเด็จพระเทพฯให้ความสำคัญเรื่องความกตัญญู มากที่สุด จะเห็นได้จากที่พระองค์ทรงแสดงความกตัญญูต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่นเดียวกันนักเรียนควรกตัญญูต่อพ่อแม่ ครู อาจารย์ ด้วย เชื่อว่าผลจากความกตัญญูจะส่งผลให้นักเรียนประสบความสำเร็จ
เรี่องความเมตตา ขอให้นักเรียนมีความเมตตาต่อผู้อื่น ถึงแม้นักเรียนจะไม่มีเงินทอง แต่ก็ช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ได้ อย่างเช่น ช่วยสอนนักเรียน ให้คำปรึกษาคนที่มีปัญหา หากนักเรียนเมตตาปีละคน
สุดท้าย สมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นแบบอย่างการใช้ภาษาไทย ซึ่งเราจะพบว่า พระองค์เสด็จไปที่ไหนจะเห็นภาพพระองค์ถือสมุดเล่มโต และจดบันทึกทุกครั้ง และหลังจากนั้นไม่นานจะเขียนหนังสือพระราชนิพนธ์ จึงขอให้นักเรียนอ่านพระราชนิพนธ์ของพระองค์ที่มีทุกเล่ม เพื่อจะได้นำมาเป็นแบบอย่างการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง
“อยากฝากเรื่องการใช้ชีวิต อยากให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สร้างภูมิกันให้แก่ตนเอง เพราะ ขณะนี้เยาวชนมี ปัญหาตั้งท้องโดยไม่พึงประสงค์ ร้อยละ 13 แต่สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันได้โดยไม่ปล่อยตัวให้เหงาและว้าเหว่ ส่วนเด็กผู้ชายพบว่าเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ร้อยละ 40 ปัญหาสูบบุหรี่ ร้อยละ 30 เพื่อความปลอดภัยจึงขอให้ทุกคนใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท คนใดไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ก็อย่าเข้าไปลองเพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องโก้เก๋”
คุณหญิงกษมา กล่าวด้วยว่า อยากฝากไปยังสถานศึกษาที่รับนักเรียนทุนว่า อย่าเห็นว่านักเรียนเหล่านี้ได้รับทุนแล้วมาเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ แก่นักเรียนอีก ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้เป็นเด็กด้อยโอกาส อยากให้เขาได้รับการศึกษาดีๆ นอกจากนี้ ยังขอให้ดูแลการหารายได้เสริมกับนักเรียน และดูแลสุขภาพอนามัย ความเป็นอยู่ของเด็กๆ ด้วย
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่โรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จ.นครปฐม นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมแนะแนวการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาและปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ แก่นักเรียนทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมายุ 48 พรรษา เมื่อปี 2546 และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2546 เพื่อให้มีการจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีอัตราการเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ต่ำ ซึ่งนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับทุนนี้จะได้รับต่อเนื่องตั้งแต่ระดับม.ปลายจนถึงระดับอุดมศึกษา (ปริญญาตรี) เป็นระยะเวลา 10 ปี (ระหว่างปี 2547-2562) ปีละ 480 ทุน โดยจะมีผู้รับทุนทั้งสิ้น 4,800 ทุน ใช้งบประมาณจำนวน 528 ล้านบาท สำหรับอัตราการให้ทุน ม.ปลายและหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ปีละ 10,000 บาทต่อคน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับอุดมศึกษา ปีละ 20,000 บาท ทั้งนี้ทุนดังกล่าวดำเนินการมาแล้ว 4 ปีมีนักเรียน นักศึกษา รวมถึงสามเณร ที่รับทุนแล้วทั้งสิ้น 1,920 คน
ด้านคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ให้โอวาทนักเรียนทุนการศึกษาเฉลิมราชกุมารีในโครงการอบรมแนะแนวการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา และปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ว่า เนื่องในวโรกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงขอให้นักเรียนการศึกษาเฉลิมราชกุมารี น้อมนำพระจริยวัตรของสมเด็จพระเทพฯ มาเป็นแนวทางปฏิบัติในชีวิต อย่างเช่น ความสนใจใฝ่เรียนรู้ ขอให้นักเรียนสนใจในเรื่องราวรอบด้าน สิ่งรอบตัว ทั้งเรื่องทีเกิดขึ้นในชุมชนและทั่วโลก
ส่วนเรื่องความประหยัดมัธยัสถ์ หากสังเกตจะเห็นว่าพระองค์ไม่ค่อยตัดฉลองพระองค์ใหม่ รวมถึงรองพระบาท พระองค์จะใส่ประจำจนกว่าฉลองพระองค์นั้นจะชำรุด เพราะฉะนั้น ขอให้นักเรียนทุกคนไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือยตามคนอื่น ให้ซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น จะได้ไม่มีหนี้สิน
พร้อมกันนี้ สมเด็จพระเทพฯให้ความสำคัญเรื่องความกตัญญู มากที่สุด จะเห็นได้จากที่พระองค์ทรงแสดงความกตัญญูต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่นเดียวกันนักเรียนควรกตัญญูต่อพ่อแม่ ครู อาจารย์ ด้วย เชื่อว่าผลจากความกตัญญูจะส่งผลให้นักเรียนประสบความสำเร็จ
เรี่องความเมตตา ขอให้นักเรียนมีความเมตตาต่อผู้อื่น ถึงแม้นักเรียนจะไม่มีเงินทอง แต่ก็ช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ได้ อย่างเช่น ช่วยสอนนักเรียน ให้คำปรึกษาคนที่มีปัญหา หากนักเรียนเมตตาปีละคน
สุดท้าย สมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นแบบอย่างการใช้ภาษาไทย ซึ่งเราจะพบว่า พระองค์เสด็จไปที่ไหนจะเห็นภาพพระองค์ถือสมุดเล่มโต และจดบันทึกทุกครั้ง และหลังจากนั้นไม่นานจะเขียนหนังสือพระราชนิพนธ์ จึงขอให้นักเรียนอ่านพระราชนิพนธ์ของพระองค์ที่มีทุกเล่ม เพื่อจะได้นำมาเป็นแบบอย่างการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง
“อยากฝากเรื่องการใช้ชีวิต อยากให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สร้างภูมิกันให้แก่ตนเอง เพราะ ขณะนี้เยาวชนมี ปัญหาตั้งท้องโดยไม่พึงประสงค์ ร้อยละ 13 แต่สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันได้โดยไม่ปล่อยตัวให้เหงาและว้าเหว่ ส่วนเด็กผู้ชายพบว่าเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ร้อยละ 40 ปัญหาสูบบุหรี่ ร้อยละ 30 เพื่อความปลอดภัยจึงขอให้ทุกคนใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท คนใดไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ก็อย่าเข้าไปลองเพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องโก้เก๋”
คุณหญิงกษมา กล่าวด้วยว่า อยากฝากไปยังสถานศึกษาที่รับนักเรียนทุนว่า อย่าเห็นว่านักเรียนเหล่านี้ได้รับทุนแล้วมาเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ แก่นักเรียนอีก ซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้เป็นเด็กด้อยโอกาส อยากให้เขาได้รับการศึกษาดีๆ นอกจากนี้ ยังขอให้ดูแลการหารายได้เสริมกับนักเรียน และดูแลสุขภาพอนามัย ความเป็นอยู่ของเด็กๆ ด้วย