“จรวยพร” เผยเตรียมรายงานสรุปผลการดำเนินงานเด็ก 1 ทุน 1 อ. ให้ “น้องเขยแม้ว” ก่อนเดินหน้ารุ่น 3 ด้าน “สุเมธ” ปิ๊งไอเดียหนุนเด็กทุนเรียนต่อโท-เอก ผ่านทุนพัฒนาอาจารย์ ภายใต้เงื่อนไขจบแล้วกลับมาทำงานในมหาวิทยาลัย ขณะที่ “อภิสิทธิ์” สอน รมว.ศธ.มีทุนการศึกษาโดยไม่ต้องพึ่งทุนหวย
นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ สำนักงานปลัด ศธ.ไปศึกษารายละเอียดการดำเนินการโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ทั้ง 2 รุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาปรับปรุงแล้วนำมาใช้ในรุ่นที่ 3 นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มีแนวคิดว่าจะให้นักเรียนทุนที่จบการศึกษาในสาขาที่ขาดแคลนและมีผลการเรียนดีมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย และ สกอ.จะให้ทุนศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก
ดังนั้น ทางคณะทำงานจะทำข้อมูลรายละเอียดว่า รุ่นที่ 1 และ 2 เป็นรายบุคคลว่ากำลังเรียนอยู่ที่ไหน สาขาอะไร
“เรื่องนี้จะประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตว่านักเรียนทุนรุ่นที่ 1-2 กำลังเรียนอยู่ที่ไหน สาขาอะไร และผลการเรียนเป็นเช่นไรบ้าง ซึ่งรุ่นที่ 2 เด็กกำลังเรียนภาษาแต่จะดูพัฒนาการด้านภาษามีความก้าวหน้ามากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้แนะนำว่าควรเรียนต่อในมหาวิทยาลัยแห่งใด อีกทั้งมีแผนจะให้นักเรียนทุนได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ส่วนนักเรียนทุนคนไหนมีปัญหาจะประสานกับ สกอ.ให้มหาวิทยาลัยเอกชนรองรับให้แก่นักเรียนด้วย”
สำหรับนักเรียนทุนรุ่นที่ 3 นั้น นางจรวยพร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีจำนวนกี่ทุน แต่ 2 รุ่นที่ผ่านมามีรุ่นละ 925 ทุน ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับ รมว.ศธ.ว่าจะมีจำนวนทุนเท่าเดิมหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี ในรุ่นที่ 3 จะขอทุนสำหรับเด็กอาชีวศึกษา 76 ทุน โดยเด็กจะต้องเป็นนักเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และนักเรียนจะต้องเลือกเรียนในสาขาอุตสาหกรรม เทคโนโลยี โลจิสติก ปิโตรเคมี ยกเว้นสายพาณิชย์ เช่น การตลาด บัญชี ส่วนที่เหลืออีก 819 ทุนจะเป็นทุนสำหรับนักเรียนสายสามัญ จะให้เรียนในสาขาวิชาที่ขาดแคลน และประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ จะเสนอที่ประชุมว่านักเรียนทุนรุ่นที่ 3 ให้มีการเตรียมเรียนภาษาในประเทศก่อนเดินทางไปเรียนต่ออย่างน้อย 1 ปีหรือจนกว่ามหาวิทยาลัยในต่างประเทศตอบรับ เหตุผลที่ให้เน้นเตรียมความพร้อมด้านภาษาให้แก่เด็ก เวลาไปเรียนยังต่างประเทศจะได้ไม่มีปัญหาด้านการสื่อสารในและการเรียนในชั้นเรียน
ด้าน ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เล่าให้ฟังว่า ตนไปเจอนักเรียนในโครงการ 1 อ. 1 ทุนที่ประเทศฝรั่งเศสคนหนึ่ง ผลการเรียนดีมากและเด็กคนนี้เรียนจบปริญญาตรีแล้ว จึงมีแนวคิดจะส่งเสริมเด็กทุนที่เก่งๆ เช่นนี้เรียนต่อจนจบปริญญาโทและปริญญาเอก แล้วกลับมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยของประเทศไทย หากเรามีเด็กเก่งๆ จำนวนมากมาเป็นอาจารย์สอนจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาไทย จึงได้เสนอ รมว.ศธ.ว่าควรจะสนับสนุนให้เด็กเก่งเรียนต่อปริญญาโทและเอก แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการติดตามผลการเรียนของเด็ก จึงขอให้การตรวจสอบผลการเรียนของเด็กทุนทุกคนว่ามีผลการเรียนเช่นไร หากพบว่าเป็นเด็กเก่งก็จะเสนอให้ทุนเรียนต่อระดับปริญญาโทและเอก เพียงแต่มีเงื่อนไขว่าต้องกลับมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยในไทยภายหลังเรียนจบแล้ว
“จริงๆ แล้ว สกอ.และมหาวิทยาลัยมีทุนพัฒนาอาจารย์ เพื่อส่งเสริมให้เรียนต่อในระดับที่สูงอยู่แล้ว หากเราได้นักเรียนที่เก่งแล้วส่งเสริมให้เขาเรียนต่อปริญญาโทและเอก ในสาขาที่ขาดแคลน เมื่อเด็กรียนจบแล้วให้กลับมาเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยที่เซ็นสัญญาให้ทุนไว้ ส่วนเรื่องที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยแห่งไหน แต่อยากให้เด็กทุนเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเกรดเอ มากกว่าเกรดบี และซี โดย สกอ.จะประสานกับสถานเอกอัครราชทูต เพื่อขอคำแนะนำว่าควรเลือกเรียนมหาวิทยาลัยแห่งใด และการเสนอทุนให้เด็กเรียนต่อปริญญาโทและเอก ตนจะเสนอ รมว.ศธ.ปลายเดือน มี.ค.นี้” เลขาธิการ กกอ. กล่าว
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในฐานะ รมว.ศธ.(เงา)กล่าวว่า นายสมชายควรจะกลับมาทบทวนหากจะนำเงินหวยบนดินมาสนับสนุนเรื่องทุนการศึกษาเพราะขณะนี้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และรมว.คลัง กำลังโดนตรวจเกี่ยวกับคดีหวยบนดินที่เกิดขึ้นในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
“ขอถามนายสมชายว่าจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องฟื้นเรื่องหวยบนดินขึ้นมา ความจริงเงินที่ใช้หนุนเรื่องทุนการศึกษาสามารถหาได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินจากหวย เพราะงบประมาณไม่เยอะขนาดนั้น ผมมีความรู้สึกว่ารัฐบาลพยายามนำเรื่องทุนไปผูกกับการฟื้นหวยบนดินขึ้นมา ที่สำคัญไม่อยากให้นักเรียนคิดว่าที่ได้ทุนเพราะมีหวยบนดิน” นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย