xs
xsm
sm
md
lg

สทศ.เช็กผลโอเน็ต 6 เมษา เตรียมออกกฎ ห้ามนำมือถือ-นาฬิกาเข้าห้องสอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สทศ.ออกกฎเหล็กโอเน็ต ประจำปีการศึกษาหน้า ห้ามนำมือถือ-นาฬิกา เข้าห้องสอบ และผู้เข้าสอบต้องอยู่ในห้องสอบจนหมดเวลา ข่าวดีเลื่อนประกาศผลโอเน็ตเร็วขึ้น 6 เมษายน “บุญลือ” เตรียมประสานกระทรวงไอซีที แก้ปัญหาเว็บล่ม ส่วนคดีโกงสอบ เด็กเผยแม่อยากให้เข้าจุฬาฯ หากเข้าได้จะได้รางวัลเป็นหลักแสน และแม่เป็นคนจ่ายค่าจ้างให้กับคนที่ส่งข้อความมาให้ด้วยเงินหลักแสนเช่นกัน

นางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยภายหลัง นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยม สทศ.ว่า สทศ.ตรวจข้อสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ประจำปีการศึกษา 2550 ในชั้น ม.6 จำนวน 356,843 คน จาก 3,796 โรงเรียน ได้เสร็จ 90% แล้ว เหลือเพียงการแก้ไขชื่อ และนามสกุล ที่นักเรียนได้มีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ซึ่งมีจำนวนกว่า 1,000 คน คาดว่า จะประกาศผลคะแนนโอเน็ตทางเว็บไซต์ สทศ.www.niets.or.th ได้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 6 เมษายน จากกำหนดเดิมวันที่ 10 เมษายน ซึ่ง นายบุญลือ รับจะช่วยประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อป้องกันปัญหาเว็บไซต์ล่ม เพราะจะมีนักเรียนกว่า 3 แสนคนเข้าเว็บพร้อมกัน

ส่วนผลคะแนนโอเน็ต ชั้น ป.6 คาดจะประกาศได้ในวันที่ 3-4 เมษายน ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเช่นกัน หลังจากประกาศผลโอเน็ต ถ้านักเรียนสงสัย ก็สามารถยื่นเรื่องขอดูกระดาษคำตอบได้ภายใน 3 วันหลังประกาศผล จากนั้นจะกำหนดวันเวลาให้มาดูที่ สทศ.ส่วนเด็กต่างจังหวัด ถ้าไม่สะดวกมาที่ สทศ.จะสแกนกระดาษคำตอบส่งไปให้ศูนย์สอบ แต่ต้องยื่นความจำนงมาก่อน ทั้งนี้ จะมีการสรุปผลโอเน็ตนักเรียน ม.6ส่งไปให้โรงเรียนเป็นรายโรง พร้อมกับค่าสถิติ ค่าเฉลี่ย

นอกจากนี้ จะนำคะแนนโอเน็ตมาจัดลำดับภายในกลุ่มจำนวน 8-10 กลุ่ม โดยพิจาณาตามปัจจัยขนาดโรงเรียน ความพร้อมของครูและนักเรียน สถานที่ตั้งโรงเรียน เป็นต้น เพื่อความยุติธรรม ตลอดจนจะนำคะแนนโอเน็ต ม.6 มาเปรียบเทียบในช่วง 3 ปีที่ได้สอบไป เพื่อให้เห็นการพัฒนา คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2551 เพื่อโรงเรียนจะได้นำผลไปปรับปรุงและวางแผนการเรียนการสอนต่อไป

นางอุทุมพร กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีนักเรียนโกงสอบโอเน็ตด้วยการใช้นาฬิกาที่เป็นโทรศัพท์มือถือซึ่งถูกปรับตกไปทุกวิชาแล้วนั้น ตรวจแล้วพบว่านักเรียนคนดังกล่าวฝนคำตอบตรงกับข้อความที่ส่งมาทางนาฬิกามือถือทุกข้อทุกวิชา ยกเว้นวิชาสังคมศึกษาที่ไม่ตรงกัน โดยทั้ง 5 วิชาที่เด็กสอบ ได้คะแนนเฉลี่ย 50-70 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ได้ 70 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้เกิดจากข้อสอบรั่วแน่นอน เพราะข้อความเข้ามาในช่วงครึ่งชั่วโมงหลังก่อนหมดเวลาสอบ เพราะเรากำหนดให้นักเรียนอยู่ในห้องสอบไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที ถึงจะออกจากห้องสอบได้ ฉะนั้น เป็นไปได้ว่านักเรียนที่เข้าสอบเป็นผู้จำคำตอบไปข้อความบอก โดยอาจจะทำกันหลายคน โดยช่วยกันจำ

นางอุทุมพร กล่าวอีกว่า ตำรวจขยายผลกับคดีนี้ไม่ได้มากนัก รู้แต่ระบบส่ง-รับ คือ ทรู กับ เอไอเอส ซึ่งใช้ระบบบัตรเติมเงินที่ไม่มีการจดทะเบียน และจากการส่งเจ้าหน้าที่ไปคุยกับเด็ก ก็ไม่ยอมซัดทอดว่าเป็นใคร อ้างว่า ถูกลงโทษไปแล้วเรื่องอะไรจะบอกชื่อรุ่นพี่ แต่การสอบโอเน็ต ม.6 นั้น ผู้เข้าสอบได้จะต้องเป็นนักเรียนชั้น ม.6 หรือเทียบเท่าที่จบในปีการศึกษานั้นๆ ฉะนั้น จึงเป็นไปได้ว่ารุ่นพี่ที่นักเรียนพูดถึง จะเป็นผู้ที่มาเรียนในระบบการศึกษานอกโรงเรียน นอกจากนี้ จากการพูดคุยพบว่าเด็กยอมเสี่ยงทุจริต เพราะแม่อยากให้เข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และถ้าเข้าได้จะเงินรางวัลเป็นหลักแสนบาท และแม่เป็นผู้ออกค่าจ้างให้กับรุ่นพี่ดังกล่าวเป็นหลักแสนด้วย

ผอ.สทศ.กล่าวด้วยว่า ส่วนการจัดสอบโอเน็ต ม.6 รอบพิเศษสำหรับผู้ที่มีเหตุสุดวิสัย ไม่อาจสอบรอบแรกได้นั้น จะมีผู้เข้าสอบ 750 คน ระหว่างวันที่ 29-30 มีนาคม ใน 5 ศูนย์สอบใน กทม.ซึ่งจะกำชับไปยังประธานศูนย์สอบทุกแห่งให้ดูแลระมัดระวังเป็นพิเศษเรื่องนาฬิกาที่เป็นมือถือ เพื่อป้องกันการทุจริต และสำหรับการสอบโอเน็ต ม.6 ประจำปีการศึกษา 2551 เป็นต้นไป จะกำหนดมาตรการคุมสอบที่เข้มงวดมากขึ้น โดยจะห้ามใส่นาฬิกาเข้าห้องสอบ ห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบ ถ้าพบจะปรับตกในวิชานั้นๆ ทันที โดย สทศ.จะจัดนาฬิกาไปให้แทนหากห้องสอบนั้นไม่มี

ที่สำคัญ จะให้อยู่ในห้องสอบจนครบเวลาสอบ ซึ่งแต่ละวิชาจัดสอบประมาณ 2-3 ชั่วโมง แม้จะสอบเสร็จก่อน ก็ต้องอยู่ในห้องจนหมดเวลา จากเดิมที่เราอนุญาตให้นำนาฬิกาเข้าห้องสอบได้ และกรณีนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบนั้น จะต้องปิดโทรศัพท์ รวมถึงถ้าสอบเสร็จก่อนเวลา ก็ให้อยู่ในห้องสอบจนถึง 1 ชั่วโมงครึ่งแล้วจึงออกจากห้องสอบได้ การกำหนดมาตรการเพิ่มดังกล่าว ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิเพราะตอนสอบห้ามติดต่อสื่อสารอยู่แล้ว จากมาตรการเดิมกำหนดเพียงแค่ถ้าไปผิดสนามสอบ หรือไปล่าช้ากว่าครึ่งชั่วโมง จะไม่ให้เข้าสอบ และหากไม่มีเลขที่นั่งสอบ ไม่มีหลักฐานบัตรประชาชนที่มีรูป จะไม่ให้เข้าสอบ”ผอ.สทศ.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น