ผู้สมัครสอบ ตร.ชั้นประทวน โวย สอบ ตร.มีพิรุธ หลังประกาศผลสอบพบ ภาค 8-9 มีสอบได้เป็นร้อย พิลึกผลคะแนนทุกวิชาเหมือนกันอย่างกับแกะ แฉ มีขบวนการงาบหัวคิวสอบ ตร.2.5 แสน แถม ติวกันรอบนอก ใครจ่ายเงินก็ได้ติว
วันนี้ (14 มี.ค.) ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ รรท.ผบ.ตร.สั่งการให้ พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผบช.ศ.สอบสวนกรณีการณีการทุจริตโกงข้อสอบบรรจุเข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นประทวนจำนวน 2,000 ตำแหน่ง แบ่งเป็นกลุ่มสายป้องกันปราบปราม 1,500 อัตรา และกลุ่มงานอำนวยการและสนับสนุน 500 อัตรา โดยการทุจริตดังกล่าวเป็นไปในลักษณะข้อสอบรั่วนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนึ่งในผู้ที่ลงสมัครสอบในครั้งนี้ (ไม่ประสงค์ออกนาม) เปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ว่า การสอบดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา วิชาที่สอบ ประกอบด้วย ความสามารถทั่วไป ภาษาไทย คอมพิวเตอร์ งานสารบรรณ พ.ร.ฎ.บริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ร.บ.ตำรวจ และจริยธรรม โดยการประกาศผลคะแนนของผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ผ่านทางเว็บไซต์กองการสอบที่ http://rcm.edupolice.org นั้น แบ่งเป็นกลุ่มสายป้องกันปราบปราม 1,875 คน จากจำนวนผู้เข้าสอบ 3,790 คน และกลุ่มงานอำนวยการและสนับสนุน 625 คน จากจำนวนผู้เข้าสอบ 37,340 คน
ผู้สมัครสอบกล่าวต่อว่า การประกาศผลสอบในครั้งนี้ มีผู้สงสัยกับผลการสอบ โดยไปพบผลคะแนนสอบที่ค่อนข้างพิลึกอยู่ไม่น้อย ซึ่งมีข้อสังเกตที่เห็นชัด คือ หลังจากที่ประกาศผลสอบออกมาจะมีทั้งหมด 9 ภาค ให้สังเกตดูที่ ภาค 8 และ ภาค 9 เริ่มจาก ภาค 8 ไล่ตั้งแต่ลำดับที่ 343 จนถึงลำดับที่ 372 จะเห็นว่าคะแนนสอบที่ออกจะมีคะแนนเท่ากันทุกวิชา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ ที่สำคัญ กระดาษคำตอบที่ใช้ในการสอบนั้น ผู้ที่มีหมายเลขลงท้ายด้วยเลขคู่จะได้รับกระดาษคำตอบสีน้ำเงิน ความผิดปกติตรงนี้ใครจะเป็นผู้ให้คำตอบได้
ส่วนจุดสังเกตที่สอง ให้ดูที่ ภาค 9 ของผลคะแนนที่ประกาศไล่ตั้งแต่ลำดับที่ 374-404 จะคะแนนเท่ากันเหมือนกันทุกวิชา ที่สำคัญผู้ที่สอบได้จะมีรหัสลงท้ายด้วยเลขคู่ และได้กระดาษคำตอบสีน้ำเงิน ในขณะที่ข้อสังเกตจุดที่สาม ที่ภาค 9 ที่ได้คะแนนเท่ากันและลำดับติดกันหมดเริ่มตั้งแต่ลำดับที่ 374-404 โดยไม่เว้นช่องว่างให้ภาคอื่นเข้ามาแทรกบ้างเลย และคะแนนแต่ละวิชา ทุกคนได้เท่ากัน ภาค 8 ลำดับที่ 343-373 ได้คะแนนเท่ากันและลำดับติดกันหมด และคะแนนแต่ละวิชาทุกคนได้เท่ากัน และที่ภาค 5 เกิดลักษณะเดียวกัน คือ ได้คะแนนเท่ากันเป็นกลุ่ม และลำดับติดกันหมด และคะแนนแต่ละวิชาทุกคนได้เท่ากันทั้งหมด
“ไหนจะมีข้อสงสัยต่างๆที่มีประชาชนยังมีข้อสงสัยอีกมากมาย แสดงความคิดเห็นเข้ามายังเว็บไซต์ดังกล่าว อย่างเช่น การสอบคัดเลือกที่ภาค 7 มีคนสอบร่วมหมื่น แต่สอบได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น คะแนนส่วนใหญ่ผู้ที่สอบได้จะไปจุกอยู่ที่ ภาค 8-9 ส่วนทางภาค 7 เองก็มีการจับทุจริตการสอบได้ถึง 20 ราย แต่กลับไม่มีข่าวเงียบเฉยซะอย่างนั้น ที่มากไปกว่านั้น มีรายงานเชื่อว่า การสอบที่ภาค 8-9 มีการใช้เงินซื้อตำแหน่งหัวละ 250,000 บาท คิดดูเสียว่าทั้งสองภาค ที่มีผู้ที่สอบได้กว่าร้อยคนจะเป็นเงินมหาศาลขนาดไหน” ผู้สมัครเข้าสอบครั้งนี้ตั้งข้อสังเกต
ผู้สมัครสอบอีกราย กล่าวว่า การสอบคัดเลือกครั้งนี้เป็นระบบโควต้าแน่นอน ผู้ที่สอบเข้ามาส่วนใหญ่จะมาจากตรงนี้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สอบได้จริงๆ ซึ่งระบบนี้มีมาตั้งนานแล้ว นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับผู้สมัครสอบด้วยกันว่าต้องเสียเงิน กว่า 2-3 แสน ในการวิ่งเต้นการสอบครั้งนี้
“มีคนมารับไปติว แล้วแต่จะมีการจ่ายเงินก่อนหน้านี้แล้ว ใครที่จะจ่ายเงินก็มีการนัดไปติวกัน วันที่สอบจะมากันเป็นทีม และอาจจะมาส่งด้วย” ผู้สมัครสอบกล่าว
ผู้สมัครสอบอีกผู้หนึ่ง กล่าวว่า การสอบคัดเลือกผู้จบปริญญาตรี เข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นประทวนในครั้งนี้ เปิดรับสมัครมาตั้งแต่วันที่ 1-15 ก.พ.แถมวิธีการรับสมัครเองนั้นแสนจะทรมาน แม้วิธีการหรือขั้นตอนจะไม่ยุ่งยาก แต่ก็เป็นเพราะความไม่พร้อมของสถานที่ ประกอบกับจัดเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ผู้สมัครเสียเวลาเกือบครึ่งวันไปเต็มๆ แถมวันสอบสนามสอบก็ไกล โดยเฉพาะส่วนกลางสนามสอบที่ ม.ราม 2 แค่เดินทางไปสอบก็ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ไหนจะต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคปัญหารถติดอีก ประกอบกับมาเจอขั้นตอนการสอบที่เข้มงวดสุดๆ โดยเฉพาะผู้สอบชายต้องดึงขากางเกงขึ้นเหนือหัวเข่า ถุงเท้าก็ต้องถอด ห้ามมีสิ่งของอะไรติดตัว นอกจากปากกา ดินสอ ยางลบ บัตรประชาชน บัตรที่นั่งสอบ อย่างอื่นให้เอาไว้นอกตัว
“ขั้นตอนนี่เข้มสุดๆ แต่พอมีข่าวเรื่องทุจริตออกมาแบบนี้ คนที่ไปสอบถึงกับเซ็ง มาตราการต่างๆที่ทำมานี่จะทำไว้ทำไม สุดท้ายแค่การสอบตำรวจระดับชั้นประทวนจิ๊บจ๋อย ยังมีกลโกงแบบนี้ แล้วจะเอาอะไรไปหวังพึ่งกับตำรวจได้ เรื่องนี้ประชาชนกำลังรอคำตอบให้หายข้อสงสัย คนที่มีความรู้ความสามารถพร้อมที่จะเป็นตำรวจที่ดี แต่ต้องมาเจอกลโกงแบบนี้” ผู้สมัครสอบรายนี้ระบายความในใจ
