xs
xsm
sm
md
lg

สทศ.เจอโกงโอเน็ตอีก 1 ที่ศูนย์สอบ มอ.สั่งปรับตกวิชาที่สอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผอ.สทศ.ได้รับรายงานล่าสุดพบทุจริตโอเน็ตเพิ่มอีก 1 ราย ที่ศูนย์สอบ มอ.เปิดมือถือไว้มีสายโทร.เข้าถือว่าส่อทุจริต ปรับตกวิชานั้นทันที ส่วนการทุจริตสอบโดยใช้นาฬิกาสื่อสาร มั่นใจสาวถึงต้นตอ เตรียมมาตรการรับเครื่องมือไฮเทคทุจริตสอบปีหน้า

ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับผลการจัดทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) จำนวน 17 ศูนย์สอบ จากทั้งหมด 18 ศูนย์ คาดว่า วันนี้จะเข้ามาครบทั้งหมด และมีรายงานทุจริตการสอบ 2 ศูนย์ โดยนอกจากศูนย์สอบจุฬาฯ ที่พบการทุจริต 6 รายแล้ว ล่าสุดพบอีก 1 ราย ที่ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) พบพฤติกรรมเปิดโทรศัพท์เคลื่อนที่ (มือถือ) ไว้แล้วมีสายโทร.เข้ามา ถือว่าส่อทุจริต เพราะก่อนสอบทุกวิชา ผู้คุมสอบจะประกาศให้ปิดมือถือแล้ววางบนหรือใต้โต๊ะ ซึ่งผู้คุมสอบได้ปรับตกวิชาที่สอบทันที

สำหรับการทุจริตสอบโดยใช้นาฬิกาสื่อสาร ซึ่ง นายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า มีนิสิตและนักศึกษาจากคณะของมหาวิทยาลัยชื่อดังร่วมขบวนการรับงานทุจริตสอบโอเน็ต คิดค่าจ้างหลักแสนนั้น ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวว่า ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพมาสอบสวนหาต้นตอการทุจริตด้วยการใช้นาฬิกาสื่อสารแล้ว ตนมอบเอกสารทั้งหมด 15 หน้าที่ศูนย์สอบจุฬาฯ รายงานมา ประกอบด้วย คณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้น ตัวรายงาน คำซักถามสอบสวนเด็ก ซึ่งเด็กที่ทุจริต ยืนยันว่า ไม่เคยทราบมาก่อนว่าในนาฬิกาจะมีการส่งข้อความอะไรมาให้ ซึ่งกรรมการเห็นว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ดังนั้น เอกสารเหล่านี้ผู้เชี่ยวชาญจะได้นำไปดำเนินการ และคาดว่าน่าจะหาที่มาได้

“เพราะมีเบอร์โชว์ที่น่าจะเช็กได้ ระยะเวลาที่โทร.มา กรรมการเขียนเอาไว้ว่ากี่โมงถึงกี่โมง ตอนนี้เรารู้ว่าอยู่ในเครือข่ายอะไร และความเป็นมืออาชีพของกรรมการสอบฯ เขาน่าจะบอกเราได้ว่า โทร.ที่ตำแหน่งใดในเวลานั้น และต้องมีเทคนิคทางไอซีทีที่เข้ามาจัดการเช็กได้ ยังคาดว่าจะหาคนส่งให้ได้ เพราะต้องมีคนส่งแน่นอน แต่ไม่รู้ใคร ตอนแรกยังเดาว่าเป็นเด็กในห้องที่ทำเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง 30 นาที คนที่ส่งข้อความถ้าไม่ได้อยู่ในห้องสอบคงไม่น่าจะเห็นข้อสอบ ไม่น่าจะมาข้อสอบรั่วไหล เว้นแต่จะมีซองข้อสอบสำรองจะถูกเปิด ซึ่งสอบถามแล้วก็ไม่มี เพราะมีการกำกับหลายชั้นในกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน”

ผู้อำนวยการ สทศ.กล่าวว่า สทศ.ได้ทำจดหมายถึงผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีเด็กทำทุจริตและปรับให้ตกได้ทราบเรื่องแล้ว โดยเป็นเอกสารลับ แต่ไม่ได้แจ้งชื่อไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอื่นที่ไม่ได้ใช้คะแนนโอเน็ตพิจารณา

ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวด้วยว่า ยังไม่อยากจะสรุปว่าขบวนการทุจริตสอบโอเน็ตมาจากที่ไหน เมื่อมีข่าวนี้มาจะแจ้งข้อมูลให้กรรมการสอบฯ ทราบ รวมทั้งจะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก นายสมพงษ์ เพื่อให้การสอบไปได้ถูกทาง ยอมรับว่า การพบทุจริตด้วยวิธีสื่อสารไฮเทคทำให้ตื่นตัวว่าปีหน้าจะมีมาตรการอะไรออกมาคุมระหว่างสอบบ้าง ซึ่งต้องคุยหลายฝ่ายทั้งผู้ชำนาญการคุมสอบการจัดสอบ เทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) และคุยกับบริษัทผลิตของเหล่านี้ว่าเตรียมเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ ออกมา จากนั้น สทศ.คงต้องจัดทำเป็นคู่มือคุมสอบกำกับ และประชาสัมพันธ์ว่าจะมีเทคนิคการทุจริตสอบอะไรใหม่ๆ บ้าง โดยมีเป็นตัวอย่างรูปภาพให้เห็นชัดเจน ส่วนการห้ามนำมือถือเข้าไปในห้องสอบคิดว่าไม่น่าจะทำ แต่ต้องให้ปิดมือถือ ถ้ามีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นต้องถือว่าส่อทุจริต อย่างไรก็ตาม สทศ.จะพยายามไม่ทำให้คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้คิดทุจริตสอบต้องเดือดร้อน และไม่ทำในลักษณะขี่ช้างจับตั๊กแตน
กำลังโหลดความคิดเห็น