xs
xsm
sm
md
lg

สทศ.เชือด นร.โกงสอบโอเน็ต ปรับตกทุกวิชา!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บอร์ด สทศ.ลงดาบนักเรียนโกงสอบโอเน็ต สั่งปรับตกทุกวิชา เชื่อทำกันเป็นขบวนการ ต้องให้มืออาชีพเข้ามาสืบสวน ส่วนผู้ที่ขาดสอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย และชื่อตกหล่น ให้โอกาสได้สอบใหม่ แต่ต้องมีหลักฐานมาแสดง “อุทุมพร” วอนนักเรียนอย่าทุจริต เพราะสังคมไทยไม่ต้องการคนมีปัญญา แต่ไม่มีศีลธรรม

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2551 ที่โรงแรมเซ็นจูรี่ปาร์ค นายสงบ ลักษณะ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร สทศ.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการลงโทษนักเรียนที่ทุจริตการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ชั้น ม.6 ซึ่งขณะนี้ สทศ.ได้รับรายงานจากศูนย์สอบ 10 ศูนย์จาก 18 ศูนย์ทั่วประเทศ พบว่า ศูนย์สอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีผู้ทุจริต 6 ราย ใน 4 กรณี โดยกรณีที่นักเรียน 2 คนเขียนคำตอบวิชาภาษาอังกฤษใส่ยางลบ ส่งให้กันในห้องน้ำ และกรณีที่นักเรียนคนแรกทำข้อสอบเสร็จก่อนแล้วส่งคำตอบให้คนที่ 2 ผ่านโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ระหว่างขาในวิชาภาษาอังกฤษ ที่ประชุมมีมติให้ปรับตกในวิชาภาษาอังกฤษ ส่วนกรณีที่เปิดมือถือไว้แล้วมีผู้โทรศัพท์เข้ามาในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ที่ประชุมมีมติให้ปรับตกในวิชาคณิตศาสตร์

“กรณีสุดท้ายนักเรียนใช้นาฬิกามือถือเป็นเครื่องมือทุจริต ที่ประชุมมีมติให้ปรับตกทั้ง 6 วิชา เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำทุจริตที่มีการวางแผนมาล่วงหน้า และมีการทุจริตมาตั้งแต่การสอบวิชาแรกแล้ว”นายสงบ กล่าว

นายสงบ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการพิจารณากรณีผู้ประสบเหตุสุดวิสัย ไม่สามารถเข้าสอบโอเน็ต ม.6 ได้มีมติให้จัดสอบโอเน็ตใหม่ให้กับนักเรียนที่ยื่นเรื่องขอสอบมาที่ สทศ.ซึ่งได้แจ้งเหตุผล และส่งหลักฐานการขาดสอบมา ทั้งสิ้นจำนวน 78 ราย อาทิ เจ็บป่วยโดยมีใบรับรองแพทย์ ประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น ส่วนนักเรียนชั้น ม.6 ที่มีรายชื่อตกหล่นเนื่องจากไม่มีรายชื่อเข้าสอบจำนวน 724 ราย และนักเรียนเทียบเท่าชั้น ม.6 จำนวน 375 รายนั้น ที่ประชุมเห็นว่าไม่ใช่ความผิดของนักเรียน และคงเป็นความเข้าใจผิด จึงให้สอบใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับกลุ่มผู้ที่ขาดสอบโอเน็ตด้วยเหตุสุดวิสัยในปีการศึกษา 2549 ซึ่งยื่นเรื่องขอสอบมาจำนวน 22 รายนั้น หากมีหลักฐานหรือใบรับรองแพทย์ที่แสดงให้เห็นว่าประสบเหตุวิสัยจริงก็จะจัดสอบให้เช่นกัน ทั้งนี้ เด็กในกลุ่มผู้ประสบเหตุสุดวิสัย และรายชื่อตกหล่น จะต้องสมัครสอบโอเน็ตใหม่ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ www.niets.or.th ซึ่งจะเริ่มรับสมัครในวันที่ 8 มี.ค.2551 คาดว่า จะสามารถจัดสอบได้ประมาณปลายเดือน มี.ค.และจะประกาศผลประมาณกลางเดือน เม.ย.นี้ สำหรับข้อสอบที่จะใช้สอบนั้นจะเป็นข้อสอบชุดใหม่ทั้งหมด ส่วนศูนย์สอบจะใช้ศูนย์สอบที่มหาวิทยาลัย ซึ่งมีทั้งสิ้น 12 ศูนย์ แบ่งเป็น กทม.1 ศูนย์ และภูมิภาค 11 ศูนย์

ด้านนางอุทุมพร จามนมาน ผอ.สทศ.กล่าวว่า หลังจากนี้ สทศ.จะทำหนังสือถึงโรงเรียนของเด็กที่กระทำการทุจริตทั้ง 6 ราย เพื่อให้ทราบว่านักเรียนของโรงเรียนมีพฤติกรรมอย่างไร และถูกปรับตกในรายวิชาใดบ้าง นอกจากนี้ จะทำหนังสือส่งไปถึงมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้มหาวิทยาลัยพิจารณาว่า จะรับเด็กที่กระทำการทุจริตทั้ง 6 รายเข้าเรียนต่อหรือไม่ หากเด็กได้รับโควตา หรือสอบผ่านการรับตรงไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าการดำเนินการในกรณีนักเรียนทุจริตโดยใช้โทรศัพท์มือถือนั้น ขณะนี้ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งในเรื่องนี้ที่ประชุมเชื่อว่าอาจกระทำเป็นเครือข่าย หรือขบวนการ ดังนั้น จึงต้องให้มืออาชีพเข้ามาดำเนินการสืบสวนต่อไป

ผอ.สทศ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง (เอเน็ต) ซึ่งจะมีการจัดสอบในวันที่ 8-9 มี.ค.นี้นั้น อยากฝากเตือนนักเรียนทุกคน ว่า อย่ากระทำการทุจริตใดๆ สังคมไทยไม่ต้องการคนที่มีปัญญา แต่ไม่มีคุณธรรม อยากให้ทุกคนทำข้อสอบด้วยความสามารถของตนเอง ทั้งนี้ ในการสอบโอเน็ตหากเด็กคนใดพบเห็นว่ามีเพื่อนกระทำทุจริต สามารถแจ้งผ่านเว็บไซต์ www.niets.or.th ได้ ส่วนการสอบโอเน็ตในปีต่อไปนั้น คงจะต้องมีการประกาศให้ชัดเจน และให้เด็กทราบล่วงหน้าว่าหากเด็กมีการทุจริตจะต้องถูกลงโทษด้วยการปรับตกทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น