“ไชยา” พร้อมหารือรัฐมนตรี 3 กระทรวง ประกาศอย่างเป็นทางการเดินหน้าซีแอล ขณะที่ปลัด สธ.สั่งตั้งคณะทำงานรวบรวมข้อมูลคอมพ์ 900 ล้าน สู้พีสแควร์ ด้าน “สารี” ขู่หากประชุมซีแอลรัฐมนตรี 3 กระทรวง พลิก หรือ ไม่ชอบมาพากล เจอดีแน่ พร้อมแวะเยี่ยมการประชุมเสมอ แถมชวนมางานผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ประสบปัญหาซีแอลมาระบาย วันที่ 15 มี.ค.นี้
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการนัดประชุมรัฐมนตรี 3 กระทรวงในกรณีการใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบการนัดหมาย และยังไม่มีการประสานมาจากทางกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้คุยกับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ไปครั้งหนึ่งแล้วว่า กระทรวงสาธารณสุข จะเดินหน้านโยบายการประกาศสิทธิเหนือสิทธิบัตรยา หรือซีแอล ยามะเร็งต่อไป ซึ่งท่านก็เห็นด้วย ส่วน นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ก็ไม่ว่าอะไร ส่วนหากจะมีการเชิญหารือร่วมกันระหว่าง 3 กระทรวง เพื่อสรุปแนวทางการดำเนินงานอย่างเป็นทางการ ก็จะเข้าประชุมด้วย ซึ่งเมื่อทุกฝ่ายมองไปในทิศทางเดียวกัน ครม.ก็จะสามารถตั้งรับได้ ทราบว่าอะไรเป็นอะไร
ต่อข้อถามว่า ในการหารือร่วมกันเพื่อประกาศเดินหน้าทำซีแอลอย่างเป็นทางการ เฉพาะกรณียามะเร็ง 3 รายการ เท่านั้น หรือไม่ หรือยังเปิดช่องเพื่อทำซีแอลยาตัวอื่นๆ ที่มีความจำเป็นด้วย นายไชยา กล่าวว่า แนวทางขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์ ว่า สามารถเจรจาต่อรองราคายาได้หรือไม่ ซึ่งอำนาจการต่อรองของกระทรวงพาณิชย์น่าจะมีมากกว่า เนื่องจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นผู้ทำหน้าที่รับจดสิทธิบัตร ซึ่งหลังจากจดสิทธิบัตรจึงจะมาขอขึ้นทะเบียนยากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
สำหรับเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรม นพ.ชาตรี นั้น นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคสุวะพลา อธิบดีกรมอนามัย ในฐานะคณะทำงานรวมรวมข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการจัดซื้อและติดตั้งคอมพิวเตอร์ประมวลผล มูลค่า 900 ล้าน กล่าวว่า คณะทำงานชุดนี้มี พญ.ศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานคณะทำงาน โดย นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.ตั้งขึ้นเพื่อให้รวมรวบข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดส่งให้กับอัยการเพื่อต่อสู้คดี เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถูกบริษัท พีสแควร์ ไทยคอม ฟ้องศาลปกครอง เป็นจำเลย ที่ 1 เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย 1,200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คณะทำงานชุดดังกล่าวเพิ่งมีการตั้งขึ้น จึงยังไม่มีการประชุมแต่อย่างใด ดังนั้น แนวทางการทำงานโดยหลักการ จะต้องมีการหารือร่วมกันก่อนว่าจะนำข้อมูลมาจากส่วนใดบ้าง โดยคณะทำงานชุดนี้ ไม่มีหน้าที่ในการสอบสวนชี้ผิดชี้ถูก จึงไม่เกี่ยวข้องกับ นพ.ชาตรี แต่อย่างใด ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดอื่นนอกเหนือจากนี้หรือไม่ นั้นไม่มีข้อมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นพ.ชาตรี บานชื่น อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ 1 ใน 4 ผู้ที่ถูกคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง กรณีคอมพิวเตอร์ฉาว 900 ล้าน ได้ลาพักร้อนโดยเดินทางไปต่างประเทศ จนถึงสิ้นเดือนนี้
ด้าน น.ส.สารี อ่องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ในการประชุมวันที่ 17 มี.ค.ที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ (พณ.) ที่จะเรียกหารือ 3 กระทรวง ทั้ง กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงการต่างประเทศ หารือกันระดับรัฐมนตรีในเรื่องของการประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) หากมีการพลิกล็อก หรือไม่ชอบมาพากล โดยไม่เป็นไปตามที่ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สธ.ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเดินหน้าซีแอลยารักษาโรคมะเร็งคงได้เจอกันแน่ ทั้งนี้ คาดว่า ทุกคนพร้อมจะแวะไปเยี่ยมและเกาะติดการประชุมนี้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะประชุมที่ใดก็ตาม
“ครั้งก่อนก็บอกว่าจะประชุมกันที่พาณิชย์แล้วก็แอบไปประชุมที่ สธ.และในที่สุดก็ย้ายไปประชุมที่ต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องน่าอาย หวังว่า การประชุมครั้งนี้คงไม่ทำเช่นนั้นอีก ซึ่งทางมูลนิธิ และเครือข่ายผู้ป่วยโรคเรื้อรังจะแวะไปเยี่ยมการประชุมครั้งนี้อย่างแน่นอน ครั้งก่อนยังรอได้นานตั้งหลายชั่วโมง ครั้งนี้หากเป็นนานเป็นวันจะเป็นอะไรไป แต่อยากบอกว่าขณะนี้หมดเวลาที่จะยื้อเวลาต่อไปแล้ว”น.ส.สารี กล่าว
น.ส.สารี กล่าวว่า ยืนยันว่า การล่ารายชื่อถอดถอนนายไชยา ออกจากตำแหน่งนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดพลาดแต่อย่างใด เพราะวันนี้รัฐบาลยังลังเลเรื่องซีแอล จึงไม่อยากเห็นรัฐบาลทำเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ว่า ให้หลุดจากความรับผิดชอบของกระทรวงนั้น มาเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงนี้ เหมือนอย่างเรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หลุดจากการดูแลของ สธ.แต่เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีลงมาจัดการแทน เรื่องเหล่านี้เป็นการนำมาเป็นประเด็นการเมืองที่ไม่เกิดประโยชน์กับสังคมโดยรวมเลย อยากให้รัฐบาลจริงจังในการทำเรื่องนี้เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงยาราคาที่เหมาะสม
“ขอเชิญชวน รมว.ทั้ง 3 หน่วยงานมาเข้ารับฟังปัญหาของผู้ป่วยในงานสภาผู้ป่วยเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง ที่จัดขึ้นในวันที่ 15 มี.ค.เวลา 11.30-17.00 น.ที่โรงภาพยนตร์ เดอะเซ็นจูรี่มูฟวี่พลาซ่า โรงที่ 4 โดยจะเปิดเวทีสาธารณะให้ผู้ป่วยที่ประสบปัญหาการเข้าไม่ถึงยาได้แสดงความคิดเห็นด้วย ซึ่งหากพวกท่านมารับฟังก็คงเป็นประโยชน์ต่อนโยบายในการทำซีแอลต่อไป”น.ส.สารี กล่าว
