ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยยอดทารกที่มีอาการแพ้นมวัวกว่า 2 หมื่นคนต่อปี จากเด็กที่คลอดปีละ 8 แสนคน ระบุหากหันมากินนมเนื้อไก่มีโอกาสหายสูง
ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า จากการสำรวจพบสถิติเด็กไทยที่คลอดกว่า 8 แสนคนต่อปี มีเพียงแค่ร้อยละ 20 ที่สามารถเลี้ยงดูด้วยนมแม่ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 เดือน นอกนั้นเลี้ยงด้วยนมวัวประมาณ 6 แสนคน และในจำนวนนี้ทารกจะมีอาการแพ้ร้อยละ 3 หรือเกิดขึ้นประมาณ 20,000 คนต่อปี หากดูจากสถิติโรคแพ้โปรตีนนมวัวในเด็กมีแนวโน้มสูงมากขึ้น และกำลังเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขของทุกประเทศ และในตอนนี้มีเด็กที่เป็นโรคแพ้โปรตีนจากนมวัวเข้ารับการรักษากว่า 100 คน ซึ่งหากไม่กินนมจากเนื้อไก่ผู้ปกครองต้องซื้อนมจากกรดอะมิโน แต่ปัญหาของนมชนิดนี้นั้นคือมีราคาแพง โดยค่าใช้จ่ายในการซื้อต่อเดือนจะตกที่หลายหมื่นบาท และเมื่อเทียบกับนมจากเนื้อไก่แล้วนั้นจะมีราคาที่ถูกกว่า และยังได้คุณค่าทางอาหารที่มากกว่าหลายเท่า
“ในตอนนี้นมจากเนื้อไก่จะหาซื้อได้ที่โรงพยาบาลศิริราชเพียงแห่งเดียว ซึ่งทางภาควิชาฯ มีกำลังการผลิตนมจากเนื้อไก่อยู่ที่ 1,000 ลิตรต่อเดือน และราคาจะอยู่ที่กระป๋องละ 50-60 บาท นอกจากนี้ยังมีบริการส่งฟรีถึงบ้านเพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทางคณะแพทย์ยังได้มีการติดตามผลอย่างใกล้ชิดทุกๆ 3 เดือน โดยจะดูในส่วนของน้ำหนัก และส่วนสูงของเด็กเป็นสำคัญ นอกจากนี้ก็ยังดูในภาพรวมของพัฒนาการในเด็กทั่วไป” ศ.นพ.พิภพ กล่าว
ศ.นพ.พิภพ ฝากคำแนะนำถึงผู้ปกครองว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นจะดีที่สุด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือแม่ไม่มีเวลาให้นมลูก และด้วยความสะดวกสบายจึงนิยมเลี้ยงลูกด้วยนมวัว หรือนมสำเร็จรูปต่างๆ ตรงจุดนี้เป็นสาเหตุให้พบปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น อาการที่จะสามารถสังเกตได้ว่าทารกในช่วง 2-3 เดือนแพ้นมหรือไม่นั้นมีอยู่ 3 อาการหลัก คือ 1. อาการทางด้านทางเดินหายใจ มีเสมหะเรื้อรัง 2. อาการทางด้านผิวหนัง มีผื่นขึ้นอย่างเรื้อรัง และ 3. อาการทางด้านลำไส้ หรือมีอาการท้องเสีย ซึ่งหากให้เด็กที่แพ้นมวัวรับประทานนมจากเนื้อไก่นั้นเมื่อเด็กมีอายุเกิน 1 ขวบขึ้นไปจะมีโอกาสหายกว่า 70% เมื่อรับประทานจนถึงอายุ 2 ขวบโอกาสหายเพิ่มเป็น 80% และหลังจากรับประทานมาได้จนถึง 3 ขวบโอกาสหายก็จะเพิ่มขึ้นจนถึง 90% หรือหายขาดและ ไม่แพ้อาหารอีก
ด้านนางกมลรัตน์ สิลพัทธ์กุล ซึ่งเป็นแม่ของ ด.ญ.รินรดา พูลเจริญ อายุ 3 ขวบ ที่มีปัญหาในเรื่องของการแพ้นมวัว กล่าวว่า อาการเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อลูกอายุได้เพียงแค่ 2 เดือน คือมีอาการเป็นหวัดมีเสมหะเยอะมาก ทำให้ลูกหายใจไม่สะดวก และมีการอาเจียนมาเป็นเสมหะเป็นส่วนใหญ่ ทั้งๆที่เลี้ยงด้วยนมแม่ แต่เมื่อสอบถามทางแพทย์กลับพบว่า หากแม่กินนมวัวในขณะที่ให้นมลูกด้วยนั้นลูกก็จะได้แพ้นมวัวได้เช่นกัน จากคำแนะนำของแพทย์เบื้องต้นนั้นแพทย์แนะนำให้เปลี่ยนนมมาเป็นนมถั่วเหลือง หรือนมวัวที่ย่อยแล้ว แต่ลูกก็ยังแพ้อยู่
“ตอนแรกนึกว่าลูกเป็นภูมิแพ้ แต่เมื่อไปหาหมอกลับไม่ใช่และหมอบอกว่าลูกแพ้นมวัว ทำให้ได้เข้ามารักษาและเข้าร่วมโครงการที่ศิริราช หลังจากเริ่มกินอาการกลับดีขึ้น ในช่วงทดลองประมาณ 1 เดือนแรก อาการหายเป็นปกติ ตอนนี้ลูกก็ยังกินอยู่จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้อายุ 3 ขวบกว่าแล้วก็กินมาโดยตลอด” นางกมลรัตน์ กล่าว