แพทย์ชนบท-เครือข่ายฯ รดน้ำมนต์ล้างซวยไล่ผีป่า สธ.เตรียมถวายฎีกาป้อง “หมอศิริวัฒน์”

ม็อบหมอ-ผู้ป่วย-สหภาพรัฐวิสาหกิจ อภ.ขับไล่ไชยา ทำพิธีปัดรังควานขับไล่ผีป่าที่ครอบงำสธ. ด้าน “แพทยชนบท” ส่งตัวแทนถวายฎีกา รวบรวมรายชื่อกว่า 500 รายชื่อ ขอความเป็นธรรมให้ “หมอศิริวัฒน์” และทำซีแอลต่อไป ขณะที่เลขาฯอย.ได้กำลังใจเพียบ ซาบซึ้งใจ พร้อมสู้ตายให้ได้ความเป็นธรรม

เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (29 ก.พ.) ชมรมแพทย์ชนบท พร้อมด้วยสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรมและเครือข่ายผู้ป่วยโรคเรื้อรังกว่า 200 คน เดินทางมายังบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี บริเวณกระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำพิธีสักการะ โดยตัวแทนชมรมแพทย์ชนบทและตัวแทนผู้เรียกร้องได้ร่วมกันจุดไต้กว่า 30 อัน โดยมีพราหมณ์หญิงจาก จ.นนนทบุรี เป็นผู้นำพิธีปัดรังควานขับไล่ฝีป่าออไปจากสธ. โดยนำหม้อดินมีผ้ายันต์สีแดงปิดที่ปากหม้อ พร้อมด้วยน้ำมนต์ที่นำมาจากวัดเชตวัน กรุงสาวัตถี ประเทศอินเดีย หลังจากนั้นพราหมณ์ได้นำสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ และได้พรมน้ำมนต์ให้กับผู้มาร่วมพิธี

สำหรับบรรยากาศในการชุมนุมนั้น กลุ่มตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วย และสหภาพแรงงานฯได้ถือป้ายมีข้อความสนับสนุนการทำประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร(ซีแอล) และโจมตีการทำงานของนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข อาทิ
 
“สธ.ยุคนี้มืดจริงหนอ”
 
“หมอดีๆ ช่วยหายาดีราคาถูก แต่ไม่ถูกใจ”
 
“ยุคมารครองสธ.คนดีถูกรังแก”
 
“รมว.ทบทวนซีแอล เพื่อใคร”
 
นอกจากนี้ตัวแทนผู้มาร่วมงานได้ตะโกนพร้อมกันว่า “ไชยาออกไปๆ” และ "เอาหมอคืนมา เอาไชยาออกไป"

 
 


ถวายฏีกา 500 รายชื่อ

ภายหลังจากที่ทำพิธีกรรมเสร็จสิ้น นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท พร้อมคณะ จำนวน 10 รายเดินทางไปยังสำนักพระราชวังเพื่อถวายฎีกา นพ.พงษ์เทพ กล่าวว่า จะเดินทางไปถวายฎีกากรณีที่นายไชยามีคำสั่งโยกย่ายนพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขด้วยความไม่เป็นธรรมและประเด็นเรื่องซีแอลเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับคนไทย ควรดำเนินการซีแอลต่อไปเพื่อชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้มีผู้ร่วมลงรายชื่อถวายฎีกาแล้วมากกว่า 500 รายชื่อ และจะมีผู้ร่วมแสดงการเจตจำนงค์ในการถวายฎีกาเพิ่มขึ้นอีก

ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า นับว่าเป็นครั้งแรกที่ชมรมแพทย์ชนบทถวายฎีกาในเรื่องของความไม่ถูกต้องในการโยกย้ายนพ.ศิริวัฒน์ และกรณีการทำซีแอล ว่าเป็นเรื่องถูกต้องและเป็นประโยชน์ ทั้งนี้ชมรมฯมีไม้ตายอีก แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ตอนนี้ แต่เบื้องต้นนอกจากถวายฎีกาแล้ว ยังจะไปยื่นเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาพิจารณา ถ้าหากนายไชยาไม่ดำเนินการใดๆให้ดีขึ้นจะดำเนินการล่ารายชื่อ 2 หมื่นรายชื่อถอดถอนนายไชยาจากการเป็นรมว.สาธารณสุข แน่ใจว่าจะสามารถรวบรวมรายชื่อได้ครบ แต่จะเป็นผลหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง

“ที่ผ่านมาไม่เคยโกรธเคืองใดๆ และผมก็ไม่เคยเกรงกลัวใดๆ เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่ได้ดูหมิ่นใคร และผมก็ไม่ใช่หมอผี เพราะพราหมณ์เป็นผู้ทำพิธี และผมก็จบจากคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเชื่อเรื่องเวรกรรมมีจริง พระสยามเทวาธิราชมีจริงด้วยเช่นกัน และการมาทำบุญและมีการพรมน้ำมนต์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด และที่นายไชยาบอกว่ามีคนรักเป็นล้านนั้น รักไชยา มิตรชัยหรือไม่”นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว

หมอชนบท ไม่หวั่น ถูกคาดโทษ

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า อีกทั้งมาตรการตอบโต้ทางสังคมอาทิ การไม่ยกมือไหว้ ฯลฯ ตามระเบียบข้าราชการพลเรือนก็ไม่ได้ระบุไว้ ว่าห้ามกระด้างกระเดื่องกับผู้บังคับบัญชา และไม่กลัวการโยกย้าย เพราะปัจจุบันก็อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำสุดอยู่แล้ว และรมว.สาธารณสุขก็ย้ายตนเองไม่ได้ เพราะทุกอย่างทำตามกระบวนการอยู่แล้ว สิ่งที่เป็นรูปธรรมที่เกิดขึ้นแล้วในวันที่ 29 ก.พ.คือในงานติดตามการดำเนินการป้องกันโรคไข้เลือดออกโดยชุมชนมีส่วนร่วม โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา ซึ่งผู้อำนวยโรงพยาบาลชุมชนหลายแห่งและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว และได้แจ้งว่าจะไม่เข้าร่วมประชุมดังกล่าวกับนายไชยา

ทั้งนี้นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวได้กล่าวก่อนการสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ว่า ที่ผ่านมาสธ.มีเจ้ากระทรวงที่มาจากการเลือกตั้งหลายสมัย ซึ่งที่ผ่านมาก็ดำเนินการไปด้วยดี ประชาชนมีความสุข สุขภาพดีอย่างเสมอภาค แต่มีหลายยุคที่สธ.ต้องบอบช้ำ ตัวอย่างเหตุการณ์ทุจริตยา 1.4 พันล้านบาท และอีกหลายยุคที่ข้าราชการทางการเมืองไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก มาเพื่อกอบโกย หวังอำนาจซ่องสุ่มพลังส่วนตัว ในสิ่งที่เรารับไม่ได้ แสดงให้เห็นว่านักการเมืองท่านใดมีเจตนารมณ์พี่น้องประชาชนที่บริสุทธิ์พอ ไม่มุ่งตั้งใจที่ดูแลและมีนโยบายให้ประชาชนมีสุขภาพดี ไม่มุ่งหวังนำพาข้าราชการไปในทิศทางที่ถูกต้อง หากไม่สามารถที่จะกล้าหาญต่อสู้กับผู้มีผลประโยชน์ในทางที่ไม่ชอบ หรือแม้แต่ต่างชาติก็ตาม เราก็จะไม่ให้การยอมรับ

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ยุคสมัยที่เกิดขึ้นต่างๆเหล่านี้ เราถือว่าเป็นยุคมืดที่เกิดขึ้นกับสธ.และผลระทบต่อพี่น้องประชาชน วันนี้เราพบว่าเกิดปรากฏการณ์ครั้งนั้นขึ้นอีกครั้งจนกระทั่งพี่น้องมีความเห็นร่วมกันว่า เป็นภาวะที่ไม่อาจยอมรับได้ เป็นยุคมืดของกระทรวงที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจครอบงำของผู้มีอิทธิพล ที่มีอำนาจ และนำพาพี่น้องชาวสาธารณสุขให้เกิดความแตกแยก เกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้ประชาชนไม่ได้รับผลประโยชน์ที่ดี มีสุขภาพที่ดีเสมอภาคกัน ทำให้เกิดการแบ่งแยกชนชั้นในสธ.และในประเทศไทย

“เมื่อเกิดปรากฏการณ์ยุคมืดเช่นนี้ พวกเราในฐานะที่เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ประชาชนตาดำๆได้แต่หวังพึ่งขอพร ขอความเมตตา ขอบารมี ของสมเด็จพระบิดาและสมเด็จย่า เพื่อจะได้โปรดปกป้องคุ้มครองข้าราชการสธ. รวมทั้งประชาชนชาวไทย ทั้งอยากให้ดลบันดาลให้ข้าราชการและประชาชน ได้รวมตัวกันที่ปกป้องสุขภาพของพวกเรา ปกป้องความเป็นสิทธิมนุษยชนของเราด้วยเทอญ” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว

“หมอศิริวัฒน์” ซาบซึ้งกำลังใจเพียบ ประกาศสู้ตาย

หลังจากทำพิธีปัดรังควาญ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินแถวไปที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) โดย นพ.ศิริวัฒน์ พร้อมข้าราชการ อย. นับร้อยคน ได้ยืนรอต้อนรับและเชิญเข้าห้องประชุมใหญ่ โดยนพ.เกรียงศักดิ์ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการรวมตัวเดินทาง พร้อมให้กำลังใจ นพ.ศิริวัฒน์ ให้สู้กับความไม่ถูกต้องต่อไป และมอบองค์จตุคามรามเทพ ของโรงพยาบาลสิชล เพื่อให้ช่วยคุ้มครอง ปกปักษ์รักษา นพ.ศิริวัฒน์ และข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ข้าราชการ ทั้งแพทย์ เภสัชกร พยาบาล ประชาชน ในเครือข่ายผู้ได้รับความเสียหายทางการแพทย์ เครือข่ายผู้ป่วยโรคไต และเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี ได้ให้กำลังใจ เพราะถือว่าการโยกย้ายในครั้งนี้ ถือเป็นการลดตำแหน่ง ลดหน้าที่ ทั้งที่หน้าที่ เลขาฯ อย.ที่ผ่านมา ต้องทนแรงเสียดทานสูงเพราะมีผลประโยชน์ เมื่อเลขาฯ อย.ได้รับความไม่เป็นธรรม ก็เท่ากับประชาชนเสียประโยชน์ด้วย

ด้านข้าราชการสังกัดอย. ก็ได้ร่วมแต่งกลอนให้กำลังใจนพ.ศิริวัฒน์ ภายใต้ชื่อบทกลอนว่า "ไม่ลืมศิริวัฒน์" ว่า
 

หน้าที่อย่างอย.นั้นเอายาก
คนโดยมากคิดว่าไม่หนักหนา
แต่ความจริงถ้าได้เห็นกับตา
จะรู้ว่ายากเย็นแสนเข็ญจริง

สิ่งที่ทำมักไปย่ำสะดุด
ถูกยื้อยุดฉุดกระแทกสะบัดกลิ้ง
ต้องอาศัยคนซื่อคนตรงจริง
ไม่ต้องวิ่งทำให้ถูกจะได้ไว

นำองค์กรมุ่งงานไม่หย่อนหยุด
มีเหตุรุดนำหน้าก่อนใครไหน
จันทร์-อังคาร วันอาทิตย์ไม่หย่อนใจ
ที่พอได้ตีปิงปองจ้องตบกัน

วุ่นกับการรับภาระหน้าที่หนัก
เพื่อพิทักษ์ผู้บริโภคแสนขยัน
มอบอาหาร-ยาต่างๆ สารพัน
ทั้งเธอ-ฉันได้ของดีและปลอดภัย

ไม่รู้จักลิ้นเลียทำให้ถูก
ไม่เคยผูกสัมพันธ์อำนาจไหน
ไม่ว่าใหญ่คับฟ้าหรือเป็นใคร
ไม่เคยไต่ตำแหน่งแบบนี้เลย

เป็นคนที่ใจซื่อมือสะอาด
แสนล้านบาทไม่สะดุ้งท่านเฉยๆ
อย่าคิดใช้ง้างถูกผิดท่านไม่เคย
หลบไปเลย แบบนี้อย่ามาลอง

เมื่อมีเหตุพายุโหมพัดกระหน้ำ
ทำลายธรรมซ้ำขยี้หัวใจหมอง
การโยกย้ายไม่เป็นตามครรลอง
ปวงชนร้องว่า "ยี้" แย่จริงๆ

เอ็นจีโอ มูลนิธิ ผู้บริโภค
ย่องโขยกกลุ่มผู้ป่วยไม่อยู่นิ่ง
เพื่อนเพื่อนจากมหิดลพวกคนจริง
ร้องหาสิ่งยุติธรรมตามวิธี

ผู้ประกอบการค้าเอากระเช้ามอบ
ไร้คำตอบเหตุไฉนถูกย้ายไหน
แฟกซ์ไหลหลั่น เอสเอ็มเอส ทุกนาที
บางคนมี อตุส่าห์มา ด้วยอาลัย

แม้ว่าท่านจากไปในคราวนี้
ประชาชีไม่ลืมท่านยังจำได้
คนทำงานเพื่อชาติประชาไท
ต้องไว้ลาย "ศิริวัฒน์" นักพัฒนา

ด้าน นพ.ศิริวัฒน์ ได้กล่าวกับผู้เดินทางมาให้กำลังใจว่า ซีแอลนั้น เป็นเครื่องมือในการสร้างอำนาจการต่อรอง เพราะที่ผ่านมา บริษัทยาได้เอาเปรียบประเทศที่กำลังพัฒนา โดยการกำหนดราคายาแพงเกินจำเป็น ทำให้ประเทศที่รายได้น้อยไม่สามารถเข้าถึงยา ซีแลจึงเป็นเครื่องมือ ให้ประเทศสามารถซื้อยาได้อย่างสมเหตุสมผล ที่ผ่านมาเฉพาะยามะเร็งมาการเจรจา 13 ครั้ง และมีการเจรจา ยาต้านไวรัส และ โรคหัวใจ รวมแล้วกว่า 20 ครั้ง และระหว่างนั้น ได้ทำงานร่วมกับ องค์การเภสัชกรรม ในการเดินทางไปประเทศอินเดีย เพื่อหายาที่ได้คุณภาพจริงๆ แม้จะต้องลำบากในการเดินทาง ได้รับความกดดันในการต่อรอง แต่ในที่สุดก็ได้ผลการเจรจาที่ดี สามารถลดราคายาลงได้ เช่น โคลพิโดเกรล จากราคา 90-120 ต่อเม็ด บริษัทยาต้นตำรับลดให้เหลือเพียง 7.50 บาท ขณะที่บริษัทยาสามัญลดให้เหลือ 1.50 บาท

“ที่เล่าให้ฟังเพื่อให้เห็นความแตกต่างว่าบริษัทยาเอาเปรียบมากแค่ไหน ที่สำคัญ ตนคงไม่ต้องบอกตรงๆ ว่าการโยกย้ายครั้งนี้เกี่ยวกับซีแอลหรือไม่ พูดเพียงเท่านี้น่าจะสามารถเชื่อมโยงได้ และรู้สึกทราบซึ้งใจ ไม่คิดว่าจะมีผู้เดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ซึ่งก่อนหน้าที่ มีข้าราชการจำนวนหนึ่ง มาให้กำลังใจ ซึ่งผมยังแซวว่าไม่กลัวเดือดร้อนหรือ นอกจากนี้ยังได้แต่งกลอนให้ตน มีทั้งเอสเอ็มเอส แฟ็กซ์ โทรศัพท์ มาให้กำลังใจ ซึ่งขอยันยันว่า ตนพร้อมสู้ตาย”นพ.ศิริวัฒน์ กล่าว

จากนั้น นพ.ศิริวัฒน์ ได้ออกจากห้องประชุม เพื่อพูดคุยกับผู้ที่เดินทางมาให้กำลังใจบริเวณหน้าอาคาร ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำรถเครื่องขยายเสียงมาด้วย โดย นายบุญมา ป๋งมา รองเลขาธิการผ่ายปฏิบัติการ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ได้ประกาศว่า จะยืนหยัดเคียงข้าง นพ.ศิริวัฒน์ รวมถึงช่วยรวบรวมรายชื่อในการถวายฎีกา และมีการตะโกนเป็นระยะว่า “เอาหมอคืนมา เอาไชยาออกไป”

ชมรมเพื่อนมหิดล ให้กำลังใจหมอ ศิริวัฒน์

เวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)นพ.กุศล ประวิชไพบูลย์ กรรมการชมรมเพื่อนมหิดล พร้อมด้วยสมาชิกประมาณ 10 คน มอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจนพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ภายหลังถูกโยกย้ายจากตำแหน่งเลขาธิการ อย. ไปเป็นผู้ตรวจราชการ ซึ่งนพ.ศิริวัฒน์ ลงมารับกระเช้าดอกไม้ด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ชมรมเพื่อนมหิดล ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2551 เรื่อง คัดค้านการโย้กย้ายนพ.ศิริวัฒน์ โดยขอให้นายไชยา ยกเลิกการโยกย้ายดังกล่าวโดยทันที โดยแถลงการณ์มีใจความว่า คำสั่งโยกย้ายไม่มีการชี้แจงเหตุผลใดใดต่อที่ประชุมครม. แต่ต่อมาได้ออกมาให้เหตุผลว่าเพราะมีการร้องเรียนเรื่องเครื่องดื่มชูกำลัง และเครื่องในหมู แต่อย. ไม่มีการรายงายผลให้ทราบ ถือว่ายังขาดคำอธิบายที่ดีพอทั้งต่อระบบราชการและสังคมว่า มีเหตุผลกฎเกณฑ์ในการโยกย้ายอย่างไร เป็นผลให้เกิดการวิพากวิจารณ์ในสังคม ตลอดจนทำลายขวัญและกำลังใจของข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข

“สันนิษฐานได้ว่าการโยกย้ายดังกล่าวเป็นการำทลายระบบคุณธรรมในระบบราชการ เป็นการใช้อำนาจของนักการเมืองรักแกข้าราชการประจำเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ให้กับตนและหมู่พวกร่วมประโยชน์ ทำให้เกิดความไม่ยอมรับในหมู่ประชาชนและจำเป็นต้องมีการแสดงออกเพื่อพิทักษ์ความถูกต้องในการส่งเสริมคนดีซื่อสัตย์ที่มีความสามารถในการทำประโยชน์เพื่อสาธารณะ ซึ่งชมรมเพื่อนมหิดล ในฐานะกลุ่มบุคลากรสาธารณสุขขอต่อต้านความไม่ชอบธรรมและใช้อำนาจไม่ถูกต้อง ขอให้ยกเลิกคำสั่งโยกย้ายดังกล่าวโดยด่วน”

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า นพ.ศิริวัฒน์เป็นบุคคลที่มีประวัติดีงามทำประโยชน์เพื่อสาธารณะทั้งเรื่องการดำเนินงานบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรโดยรัฐ(ซีแอล) ที่เป็นผู้เจรจาต่อรองราคาทำให้ผู้ป่วยทั้งประเทศเข้าถึงยา เป็นแพทย์ที่มีประวัติดีงามตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นแพทย์ชนบทที่เป็นแบบอย่างของแพทย์รุ่นน้อง มีประวัติรับราชการที่สุจริต ไม่คดโกง ไม่น้อมหัวให้กับผู้มีอิทธิพล ผู้มีประโยชน์และนักการเมืองที่ทำไม่ถูกต้อง

น.พ.กุศล กล่าวภายหลังว่า การสนับสนุนครั้งนี้ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยจะขอดูท่าทีของนายไชยาว่าจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของชมรมเพื่อนมหิดลหรือไม่ หากไม่แก้ไขคำสั่งโยกย้ายดังกล่าวก็จะมีการเคลื่อนไหวโดยร่วมกับเครือข่าย องค์กรที่เห็นด้วยกับการคัดค้านการกระทำที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวของนายไชยาด้วยการเปิดโปง สื่อสารต่อสาธารณะเรื่องความไม่ชอบธรรมดังกล่าวทุกรูปแบบเพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องของนักการเมืองไม่ให้ลุกลามเป็นมะเร็งร้ายและเกิดผลเสียหายต่อสังคมไทยต่อไป

“ในอนาคตคุณไชยาต้องมีภารกิจ มีหน้าที่ทำงานอย่างหนัก จึงขอให้คิดว่าเรามาช่วยท่านทำงาน ตามธรรมชาติปุถุชนธรรมดาไม่จำเป็นต้องตัดสินใจอะไรถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อผิดพลาดไปแล้วก็สามารถแก้ไขได้ ส่วนเรื่องซีแอล เป็นเรื่องที่ดีที่ควรทำต่อ ซึ่งนพ.ศิริวัฒน์ เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมีความรู้ความสามารถ และเห็นว่าตำแหน่งการเจรจาต่อรองราคายาควรจะเป็นของเลขาธิการ อย. เพราะมีอำนาจในการต่อรองมากว่าตำแหน่งอื่น การโย้กย้ายของนพ.ศิริวัฒน์ เปรียบเสมือนคนที่กำลังขับรถยนต์ส่วนตัวใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางอยู่แล้ว แต่คุณไชยามาสั่งให้ลงจากรถแล้วไปขึ้นรถเมล์แทน ซึ่งทำให้ไปถึงที่หมายช้าลงกว่าเดิม”นพ.กุศลระบุ

นพ.กุศลกล่าวต่อว่า หากนายไชยา ต้องการข้อมูลเรื่องการทำซีแอล ทางชมรมเพื่อนมหิดล ยินดีจะเข้าพบ ซึ่งเรื่องซีแอลเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งประเทศ โดยเฉพาะคนยากจน สธ. และรัฐบาลควรจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

“หมอศิริวัฒน์” ขอบคุณที่ให้กำลังใจ


ด้านนพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้รับหนังสือคำสั่งโยกย้ายเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ตนยังไมได้เซ็นรับหนังสือดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตนจะเซ็นรับหรือไม่ก็ไม่มีผลต่อการโยกย้าย เพราะหนังสือดังกล่าวเป็นเพียงการแจ้งให้ทราบว่าถูกโยกย้ายตำแหน่งแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ตลอดสัปดาห์หน้า คือตั้งแต่วันที่ 3- 7 มีนาคมนี้ ตนได้ลาพักร้อนแล้ว ซึ่งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ต้องขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจตนเป็นจำนวนมากทั้งทางจดหมาย โทรศัพท์ และเอสเอ็มเอส

ผู้สื่อข่าวถามว่า การโยกย้ายครั้งนี้มีความผิดปกติหรือไม่ นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็น แต่ปกติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 จะต้องมีการโปรดเกล้าฯ ก่อนจากนั้นจึงจะนำเข้าครม. แต่ครั้งนี้ครม. เห็นชอบโดยยังไม่ผ่านการโปรดเกล้าฯ แต่อย่างใด

ข้อถามที่ว่า รัฐมนตรีจะมีคำสั่งให้ทำหน้าที่ประธานเจรจาต่อรองราคายาต่อ นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ขอดูหนังสือที่เป็นลายลักษณ์อักษรก่อน อย่างไรก็ตาม หากมีคำสั่งมาเมื่อไรก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง ตนเป็นเพียงข้าราชการผู้น้อย ถือว่าได้รับเกียรติอย่างมาก

เมื่อถามว่า หากประธานเจรจาต่อรองราคายาเป็นแค่ผู้ตรวจราชการจะมีผลต่อการดำเนินการซีแอลหรือไม่ นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า หน้าที่ในการต่อรองราคาหากเป็นของเลขาธิการ อย. จะมีผลดี เพราะอย. มีหน้าที่กำกับดูแลยาในด้านอื่นๆ อีก เช่น การขึ้นทะเบียนยา การควบคุมคุณภาพยา การจัดทำบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งจะต้องดูเรื่องคุณภาพเป็นหลักและมีราคาที่เหมาะสม ซึ่งการทำซีแอล จะต้องมีบุคคลที่มีหน้าที่สอดประสานกัน เช่น อย. องค์การเภสัชกรรม(อภ.) จะต้องร่วมดันดูแลและคุดเลื่อกบริษัทยาสามัญที่มีคุณภาพดีร่วมกันด้วย