สธ.ถกเครียด ก่อนมีมติร่วมกันทำซีแอลถูกต้อง พร้อมปรับฐานข้อมูลยามะเร็ง ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย สรุปให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนเสนอ “ไชยา” เข้า ครม.เอ็นจีโอจวกประชุมปลัด 3 กระทรวงเล่นซ่อนหา ปลัดปัดไม่ตอบ โยนรองปลัดตั้งเป็นมิสเตอร์ซีแอล
เวลา 15.15 น.วันนี้ (15 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมคณะทำงานด้านซีแอลของกระทรวงสาธารณสุข ร่วมด้วยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และเครือข่ายภาคประชาชน ประกอบด้วย เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์/เอชไอวีแห่งประเทศไทย เครือข่ายผู้ป่วยเรื้อรัง โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต จำนวน 10 คน ร่วมให้ข้อมูล เพื่อประมวลฐานข้อมูลของการใช้ซีแอลยารักษาโรคมะเร็ง 4 รายการ ประกอบด้วย 1.ยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งทางเดินอาหาร อิมาทินิป 2.ยารักษาโรคมะเร็งปอดและโรคมะเร็งเต้านม โดซีแท็กเซล 3.ยารักษาโรคมะเร็งปอด เออโลทินิป และ 4.ยารักษาโรคมะเร็งเต้านม เล็กโทรโซล เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และได้รับการยอมรับ เป็นไปด้วยความโปร่งใส โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2.30 ชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่ถกเถียงกันในเรื่องของข้อมูลจำนวนผู้ป่วยมะเร็งว่ามากน้อยแค่ไหน
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุม มีข้อสรุปร่วมกันเห็นชอบให้ผู้ป่วยทุกรายในระบบประกันสุขภาพทุกคน เข้าถึงยารักษามะเร็งที่มีคุณภาพ ซึ่งที่ประชุมทราบขั้นตอนของการทำซีแอล มีการเจรจาต่อรองกับบริษัทยาถูกต้อง พร้อมกันนี้ ได้ตั้งคณะทำงาน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย สปสช. ทำหน้าประมวลข้อมูลค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่อยู่ในระบบกระทรวงสาธารณสุขโดยสถาบันมะเร็งซึ่งดูแลมาตรฐานรักษารักษา และเครือข่ายผู้ป่วยโดยจะมีการปรับข้อมูลให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนนำเสนอข้อมูลให้ฝ่ายนโยบาย ทั้งนี้ หากเสร็จไม่ทันเวลาก็จะนำข้อมูลเก่านำเสนอไปก่อน
ด้านนายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า เมื่อการทำซีแอลถูกต้อง มีการประชุมร่วมกันระหว่าง 3 กระทรวง คือ สธ.พาณิชย์ ต่างประเทศ ชัดเจน เพียงแต่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่นำมาสู่การปฏิบัติ และเมื่อไม่สามารถล้มซีแอลได้ก็จ้องที่จะชะลอไว้ก่อน เนื่องจากลัวผลกระทบที่ตามมาด้านเศรษฐกิจ จึงขอเรียกร้องให้ทั้ง 3 กระทรวงหารือกัน และแถลงความจริงออกมา ทั้งนี้พวกเราขอตำหนิที่หนีย้ายการประชุม แทนที่จะร่วมกันหาทางออกร่วมกัน
นายจอน อึ๊งภากรณ์ ประธานมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า จริงๆ แล้วควรจะพิจารณาว่าจริงๆ การทำซีแอลถูกต้องหรือไม่ และเมื่อเข้าใจร่วมกันว่าซีแอลทำถูกต้องตามขั้นตอนทุกกระบวนการ ก็ไม่ควรต้องถกเถียงกันเกี่ยวกับตัวเลขว่า ผู้ป่วยจะได้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด เพราะไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญ ส่วนกรณีการถูกตัดจีเอสพีนั้น ควรจะตรวจสอบตัวเลขที่มีการเผยแพร่ออกไปมากที่สุดว่าจริงเท็จอย่างไร เนื่องจากสหรัฐจะลดจีเอสพีกับไทยอยู่แล้ว หากจำนวนการผลิตในสินค้าหลายๆ ชนิดเกินจำนวนที่มีการกำหนดกรอบสินค้าที่ได้รับจีเอสพี ดังนั้นตัวเลขจริงๆ จึงกระทบไม่มาก
“นอกจากนี้ สถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐฯ ซึ่งกำลังมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี เป็นไปได้สูงที่จะมาจากพรรคเดโมแครต โดยเฉพาะ บิล คลินตัน ที่ให้การสนับสนุนการเข้าถึงยา และการทำซีแอล ทางการเมืองจึงไม่น่าจะกระทบมาก”
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามใดๆ กับผู้สื่อข่าว ระบุเพียงว่า “ผมไม่ตอบแล้ว” โดยได้มอบหมายให้ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นมิสเตอร์ซีแอล รวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
ด้าน นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า การประชุมระดับปลัดกระทรวงเรื่องซีแอล ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป และขณะนี้ยังไม่มีการนัดหมายในการหารือรอบใหม่ อย่างไรก็ตามขอให้ทุกคนสบายใจ เพราะแนวโน้มของการทำซีแอลในเชิงนโยบาย รมว.สธ.ไม่มีเจตนาที่จะยกเลิกซีแอล ทั้งรัฐมนตรีเก่าและใหม่มีความเห็นตรงกันที่อยากให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาที่มีคุณภาพมาตรฐาน