บ่ายวันนี้ (8 ก.พ.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และตัวแทนกลุ่มเครือข่ายโรคเรื้อรัง มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และคณะกรรมการองค์กรพัฒนาด้านเอดส์ (กพอ.) ประมาณ 50 คน เข้าพบนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือเจตนารมณ์การเข้าถึงยาของผู้ป่วยเรื้อรัง หลังจากที่นายแพทย์มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศมาตรการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาโดยรัฐ ยารักษาโรคมะเร็ง 4 ชนิด เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2551 ได้แก่ ยารักษาโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งทางเดินอาหาร และมะเร็งเม็ดเลือดขาว เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสในการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ในหนังสือเจตนารมณ์ดังกล่าว กลุ่มเครือข่ายฯ ได้แสดงความกังวลและความคิดเห็น 3 ประการ ดังนี้คือ 1.ไม่ควรยกเลิกการใช้ซีแอลยารักษาโรคมะเร็งที่ได้ประกาศไปแล้ว ถ้ายังไม่สามารถมีช่องทางใดๆ ที่ดีกว่า 2.การจะหามาตรการอื่นมาทดแทนนั้น ควรเป็นกระบวนการที่ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมตัดสินใจ และ 3.การประกาศหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพิจารณาอย่างรอบด้าน และมีข้อมูลที่ครอบคลุมครบถ้วน ก่อนประกาศหรือแถลงนโยบายใดๆ
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องซีแอล ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนเก่าทำมาแล้วนั้น จัดว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงยารักษาโรคที่จำเป็น ขอยืนยันจุดยืนว่า ยังไม่ยกเลิกซีแอลยามะเร็ง 4 ชนิด และจะพิจารณาต่อด้วยความรอบคอบที่สุด โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือด้วย เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม ในช่วงนี้จะทำในกรอบนี้ก่อน ขอให้ทุกฝ่ายอย่าหวั่นวิตก โดยจะยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ทางใดที่ถูกต้องจะดำเนินการตามกฎหมาย และใช้สันติวิธีคุยกัน
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องซีแอล ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนเก่าทำมาแล้วนั้น จัดว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงยารักษาโรคที่จำเป็น ขอยืนยันจุดยืนว่า ยังไม่ยกเลิกซีแอลยามะเร็ง 4 ชนิด และจะพิจารณาต่อด้วยความรอบคอบที่สุด โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือด้วย เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม ในช่วงนี้จะทำในกรอบนี้ก่อน ขอให้ทุกฝ่ายอย่าหวั่นวิตก โดยจะยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ทางใดที่ถูกต้องจะดำเนินการตามกฎหมาย และใช้สันติวิธีคุยกัน