รมว.พาณิชย์ ยันแนวทางถกแก้ปัญหา CL ยึดหลักดูแลสุขภาพประชาชน โดยไม่กระทบการค้าระหว่าง ปท.คาดได้ข้อสรุปร่วม 3 กระทรวง ภายใน 1-2 สัปดาห์ ก่อนชงนายกฯ เซ็นอนุมัติ
วันนี้ (15 ก.พ.) แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำข้อมูลทุกด้านของแต่ละฝ่ายมาหารือถึงข้อดีข้อเสียของการประกาศบังคับใช้สิทธิ์ผลิต หรือนำเข้ายาที่มีสิทธิบัตร (CL) ในยารักษามะเร็ง 4 ชนิด
โดยกระทรวงพาณิชย์ เห็นว่า การใช้ CL น่าจะเป็นหนทางสุดท้ายที่จะดำเนินการ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยา เพราะยังสามารถใช้แนวทางอื่นๆ ได้อีก เช่น ใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าในกรณีที่ผู้นำเข้ายามีอำนาจเหนือตลาด และผูกขาดเพียงผู้เดียว หรืออาจใช้กลไกของคณะทำงานกำหนดราคายากลางของกรมการค้าภายใน เป็นต้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า จากการหารือร่วมกันของปลัด 3 กระทรวง ได้พิจารณาถึงผลดีและผลเสียของการใช้ CL อย่างละเอียด ทั้งด้านการเข้าถึงยา, การประหยัดเงินตราที่จะนำเข้ายาจากเจ้าของสิทธิบัตร, การที่สหรัฐฯอยู่ระหว่างการทบทวนสถานะของไทยด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตามมาตรา 310 พิเศษ กฎหมายการค้าสหรัฐฯ ที่อาจมีผลทำให้ไทยถูกจัดอันดับให้อยู่บัญชีประเทศที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาขั้นรุนแรง (PFC) ซึ่งอาจส่งผลต่อเนื่องให้สหรัฐฯ ใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า เช่น การตัด GSP สินค้าไทย
ทั้งนี้ เมื่อหาข้อเท็จจริงด้านต่างๆ ได้แล้ว จะต้องสรุปทางเลือกในการแก้ปัญหาให้กับรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงได้พิจารณาต่อไป
ด้าน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คาดว่า ใน 1-2 สัปดาห์นี้ รัฐมนตรีของทั้ง 3 กระทรวงที่เกี่ยวข้องจะได้หารือร่วมกันถึงการหาทางออก หลังจากกระทรวงสาธารณสุขไทยได้ประกาศใช้ CL ในยารักษาโรคมะเร็งไปตั้งแต่สมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยรัฐบาลยืนยันว่า จะดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างทั่วถึง ขณะเดียวกัน ก็จะไม่ให้เกิดกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศด้วย
“ปลัด 3 กระทรวงได้นำข้อมูลในทุกด้านมาหารือกันถึงผลดี และผลเสีย เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะนำเสนอต่อรัฐมนตรีของ 3 กระทรวงให้พิจารณาต่อ คาดว่า จะประชุมปลายสัปดาห์หน้าหรือต้นสัปดาห์ถัดไป ซึ่งที่ประชุมระดับรัฐมนตรีจะต้องมีความชัดเจนในทุกๆ ด้าน จากนั้นจะสรุปเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อเป็นขั้นตอนสุดท้าย” นายมิ่งขวัญ กล่าวสรุปทิ้งท้าย