“สมัคร” ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุ และการบูรณะราชรถ ราชยาน และพระยานมาศ ฟุ้งประสบการณ์สัมผัสงานออกพระเมรุให้ข้าราชการ และสื่อมวลชนฟัง เผยมาดูพื้นที่จริงก่อนถวายงานพระราชพิธี ด้าน “อนุสรณ์” ระบุหากพบปัญหาสามารถรายงานถึงนายกฯ ได้ทันที
เมื่อเวลา 11.30 วันที่ 13 ก.พ. นายสมัคร สนุทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังโรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อติดความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุ และการบูรณะราชรถ ราชยาน และพระยานมาศ โดยมีนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม (วธ.) น.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานออกแบบและจัดสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัด วธ.นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร รายงานความคืบหน้าให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างติดตามความคืบหน้า นายสมัคร ได้ให้ความสนใจราชรถทุกองค์ และอธิบายถึงที่มา ตลอดจนวิธีการใช้งานราชรถในพระราชประเพณีให้ข้าราชการและสื่อมวลชนได้ฟังอย่างละเอียด จากนั้นได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุ บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศใต้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอาคารขยายแบบ อาคารสร้างพระโกศจันทน์ และอาคารปั้นหล่อ
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามนายสมัครหลังการติดตามความคืบหน้าการบูรณะซ่อมแซมราชรถ ราชยาน และพื้นที่การก่อสร้างพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่สนามหลวงฝั่งทิศใต้เรียบร้อยแล้ว ว่า นายกรัฐมนตรีพอใจการดำเนินงานของ วธ.มากน้อยแค่ไหน
นายสมัคร กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์เรื่องการทำงานต่างๆ เพราะมาดูเป็นการส่วนตัว เพราะก่อนที่ตนจะเข้าถวายงานในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ จะต้องมาศึกษาข้อมูล และดูงานในพื้นที่จริงก่อน ซึ่งรายละเอียดของการทำงานต่างๆ ต้องถาม รมว.วัฒนธรรม น่าจะรู้ดีที่สุด
นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องการลงพื้นที่เพื่อรับทราบความคืบหน้าในการทำงาน เพื่อจะได้มีความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งไม่มีการมอบโยบายให้แก่ วธ.เป็นพิเศษ ทั้งนี้ ตนคิดว่า เมื่อการจัดสร้างพระเมรุ และการบูรณะราชรถ ราชยาน มีความคืบหน้า วธ.ก็จะนำเสนอข้อมูลรายงานไปยังที่ประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุ และที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และหากมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก็สามารถรายงานต่อนายกรัฐมนตรีได้ทันที
ส่วนการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึกงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ตนเป็นประธานนั้น คาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะเริ่มประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการทำงานต่อไป
ด้านนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีตรวจความคืบหน้าการบูรณะราชรถ ทั้งพระมหาพิชัยราชรถ พระเวชยันตราชรถ พระยานมาศสามลำคาน และราชรถน้อย ซึ่งตนได้รายงานถึงแผนปฏิบัติงานการก่อสร้างพระเมรุ และอาคารประกอบ การซ่อมราชรถ ราชยาน ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ให้ท่านได้รับทราบคร่าวๆ อาทิ การออกแบบพระเมรุ เครื่องประกอบพระเมรุ เขียนแบบสถาปัตยกรรม และวิศวกรรม ได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม การซ่อมราชรถราชยานต่างๆ เริ่มมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ คาดว่า จะแล้วภายใน 4 เดือน การก่อสร้างพระเมรุ จะเริ่มตั้งแต่มีนาคม-ตุลาคม เป็นต้น
โดยนายกรัฐมนตรีไม่ได้แนะนำอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ได้อธิบายถึงความเป็นมาของราชรถ ให้เหล่าข้าราชการ รวมถึงสื่อมวลชนได้รับทราบ ตลอดจนได้เล่าประสบการณ์ที่ได้สัมผัสงานออกพระเมรุมาศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชินี ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และงานออกพระเมรุมาศ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้ฟังอีกด้วย ส่วนรั้วสังกะสีสีเขียวที่ป้องกันพื้นที่โดยรอบสนามหลวงด้านทิศใต้ ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“นายจุลยุทธ์ หิรัญวิศิษฐ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมศิลปากร รวบรวมความคืบหน้าในส่วนงานที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการอำนวยการ 2 ส่วน ได้แก่ การจัดสร้างพระเมรุ และการบูรณะราชรถ ราชยาน และพระยานมาศ และการจัดทำจดหมายเหตุพระราชพิธี และหนังสือที่ระลึก เสนอไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมนำรายงานต่อคณะกรรมการอำนวยการที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานด้วย ” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว