สพฐ.คัดหัวหน้าห้อง ม.1-ม.5 เขตพื้นที่ละ 1 คน เป็นแกนนำลดความรุนแรงในสถานศึกษา หนุนงบจัดกิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน หลังประสบความสำเร็จ เพื่อนช่วยเพื่อนไม่ให้ติดบุหรี่
นายโรจนะ กฤษเจริญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหาร สพฐ. โดยมีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณอยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) เป็นประธาน ว่าเลขาฯ สพฐ.ได้มอบให้ไปสอบถามเด็กที่บ้านเมตตา พบมีเด็กนักเรียนอยู่ประมาณ 10 คน จากยอดเด็กที่ก่อเหตุทั้งหมด 78 คน
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงสาเหตุทราบว่าเด็กที่มีปัญหาเนื่องจากพ่อแม่ไม่มีเวลาให้กับลูก หรือเป็นเด็กมาจากครอบครัวที่พ่อแม่หาเช้ากินค่ำจึงทำให้เด็กขาดเพื่อนที่ดี ดังนั้น เลขาฯ กพฐ.จึงให้นโยบายว่าควรจะไปประมวลดูว่าปัญหาที่เด็กต้องการนั้นคืออะไรบ้าง ปรากฏว่าเด็กต้องการให้เพื่อนช่วยเพื่อน จึงมีแนวคิดว่าจะนำเด็กมาร่วมกลุ่มกันและตั้งเป็นโครงการ “สภานักเรียนไทย หัวใจสมานฉันท์ ยึดมั่นธรรมมาภิบาล” อันที่จริงโครงการนี้มีอยู่แล้ว เพียงแต่จะเพิ่มหลักสูตรลดความรุนแรงในโรงเรียน หลักสูตรพัฒนาองค์กร และสร้างเครือข่ายสภานักเรียน
โดย สพฐ.จะคัดเด็ก ม.1-5 ที่เป็นหัวหน้าห้องเรียน มาเป็นตัวแทนเขตพื้นที่การศึกษา เขตการศึกษาละ 1 คน จำนวน 178 เขต รวมทั้งตัวแทนนักเรียนพิการอีก 5 คน และตัวแทนจากสภานักเรียนเก่า มาร่วมเป็นพี่เลี้ยงและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน จ.นครปฐม เป็นสถานที่ประชุมของเด็กเหล่านี้ คาดว่าจะวันที่ 25-29 มีนาคมนี้ โดยวันสุดท้ายของการประชุมเราจะนำเด็กทั้งหมดนี้ได้เข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ขณะนี้ได้ประสานกับหลายหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาเงินมาสนับสนุนให้เด็กไปสร้างเครือข่ายลดความรุนแรงในเขตของตัวเอง แต่เบื้องต้น สพฐ.จะให้งบเขตละ 2 หมื่นบาท และหากได้งบสนับสนุนมาเพิ่มได้น่าจะให้เขตละ 7 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้การประชุมครั้งนี้สูญเปล่า สพฐ.จะให้เด็กคิดโครงการเสนอมา 5 โครงการ เช่น จิตรอาสา, พัฒนาโรงเรียน และการลดความรุนแรง โดยจะให้เด็กๆ ช่วยกันคิดและทำโครงการเอง เนื่องจากผลการประเมินการตักเตือนของครู เด็กมักไม่ค่อยรับฟัง แต่หากเพื่อนตักเตือนเด็กมักจะฟังมากกว่า และพบว่าจากการประเมินผลการทำกิจกรรมของเด็กในปีที่ผ่านมาได้ผลมาก อย่างเช่น โครงการเพื่อนช่วยเพื่อนไม่ให้ติดบุหรี่ ฯลฯ
นายโรจนะ กฤษเจริญ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหาร สพฐ. โดยมีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณอยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) เป็นประธาน ว่าเลขาฯ สพฐ.ได้มอบให้ไปสอบถามเด็กที่บ้านเมตตา พบมีเด็กนักเรียนอยู่ประมาณ 10 คน จากยอดเด็กที่ก่อเหตุทั้งหมด 78 คน
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงสาเหตุทราบว่าเด็กที่มีปัญหาเนื่องจากพ่อแม่ไม่มีเวลาให้กับลูก หรือเป็นเด็กมาจากครอบครัวที่พ่อแม่หาเช้ากินค่ำจึงทำให้เด็กขาดเพื่อนที่ดี ดังนั้น เลขาฯ กพฐ.จึงให้นโยบายว่าควรจะไปประมวลดูว่าปัญหาที่เด็กต้องการนั้นคืออะไรบ้าง ปรากฏว่าเด็กต้องการให้เพื่อนช่วยเพื่อน จึงมีแนวคิดว่าจะนำเด็กมาร่วมกลุ่มกันและตั้งเป็นโครงการ “สภานักเรียนไทย หัวใจสมานฉันท์ ยึดมั่นธรรมมาภิบาล” อันที่จริงโครงการนี้มีอยู่แล้ว เพียงแต่จะเพิ่มหลักสูตรลดความรุนแรงในโรงเรียน หลักสูตรพัฒนาองค์กร และสร้างเครือข่ายสภานักเรียน
โดย สพฐ.จะคัดเด็ก ม.1-5 ที่เป็นหัวหน้าห้องเรียน มาเป็นตัวแทนเขตพื้นที่การศึกษา เขตการศึกษาละ 1 คน จำนวน 178 เขต รวมทั้งตัวแทนนักเรียนพิการอีก 5 คน และตัวแทนจากสภานักเรียนเก่า มาร่วมเป็นพี่เลี้ยงและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน จ.นครปฐม เป็นสถานที่ประชุมของเด็กเหล่านี้ คาดว่าจะวันที่ 25-29 มีนาคมนี้ โดยวันสุดท้ายของการประชุมเราจะนำเด็กทั้งหมดนี้ได้เข้าพบนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ขณะนี้ได้ประสานกับหลายหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาเงินมาสนับสนุนให้เด็กไปสร้างเครือข่ายลดความรุนแรงในเขตของตัวเอง แต่เบื้องต้น สพฐ.จะให้งบเขตละ 2 หมื่นบาท และหากได้งบสนับสนุนมาเพิ่มได้น่าจะให้เขตละ 7 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้การประชุมครั้งนี้สูญเปล่า สพฐ.จะให้เด็กคิดโครงการเสนอมา 5 โครงการ เช่น จิตรอาสา, พัฒนาโรงเรียน และการลดความรุนแรง โดยจะให้เด็กๆ ช่วยกันคิดและทำโครงการเอง เนื่องจากผลการประเมินการตักเตือนของครู เด็กมักไม่ค่อยรับฟัง แต่หากเพื่อนตักเตือนเด็กมักจะฟังมากกว่า และพบว่าจากการประเมินผลการทำกิจกรรมของเด็กในปีที่ผ่านมาได้ผลมาก อย่างเช่น โครงการเพื่อนช่วยเพื่อนไม่ให้ติดบุหรี่ ฯลฯ
