xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยา” พลิกลิ้นกล่อมเอ็นจีโอ โยน ครม.ตัดสินเลิกซีแอลมะเร็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ไชยา” พลิกลิ้นกลับใจ ใช้ไม้อ่อนกล่อมเอ็นจีโอ ทำหน้าที่ รมว.สธ.เคียงข้างประชาชน โยน ครม.ตัดสินใจเลิกซีแอลยามะเร็งเดตไลน์ 30 มีนาคม ก่อนระทึกลุ้นผลขยับขึ้นบัญชีพีเอฟซี มั่นใจผลออกมาวิน-วิน


วันนี้ (11 ก.พ.) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่าจะทบทวนการประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) นั้น ถือเป็นการคุยกันนอกรอบเท่านั้น เพราะขณะนี้ตนยังไม่ได้เป็น รมว.สาธารณสุข อย่างสมบูรณ์ ดังนั้น คงต้องรอให้มีการประกาศนโยบายของรัฐบาลก่อน จากนั้นจึงจะมีความชัดเจน โดยจะขอความเห็นจากคณะรัฐมนตรีในวันที่ 12 ก.พ.หากไม่ทันก็จะนำเข้าในวันที่ 19 ก.พ.นี้ ทั้งนี้ จะต้องรีบตัดสินใจภายในวันที่ 30 มีนาคมนี้ ตามกำหนดกรอบเวลาที่สหรัฐอเมริกาให้ไว้ เนื่องจากวันที่ 30 เมษายน สมาคมผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (ยูเอสทีอาร์) จะมีการประกาศรายชื่อประเทศที่ถูกจับตามองเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรเป็นพิเศษ (พีดับบลิวแอล) และประเทศที่มีการละเมิดสิทธิบัตรขั้นรุนแรง (พีเอฟซี)

“ยังไม่เคยบอกใครว่าจะเลิกทำซีแอล พูดเพียงการทบทวน และบอกสาเหตุที่ต้องทบทวนมาจากอะไรเท่านั้น ซึ่งคงต้องหาสาเหตุที่อดีต รมว.สธ.เร่งลงนามประกาศซีแอล และทำให้เป็นภาระกับผู้ที่จะเข้ามาทำงานต่อ ซึ่งการทำซีแอล รัฐบาลเก่าได้ดำเนินการไว้ แล้วส่งผลกระทบกับการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ อดีต รมว.พาณิชย์ จึงได้ส่งหนังสือมาให้รัฐบาลใหม่เป็นผู้พิจารณา โดยยืนยันว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งหาก ครม.มีมติยกเลิกการทำซีแอล รัฐบาลก็ต้องมีทางออกในการแก้ไขในการเข้าถึงยาแพงให้ผู้ป่วยว่า สธ.จะทำอย่างไร ซึ่งสิ่งที่ผู้ป่วยกลัวที่สุด คือ การเข้าไม่ถึงยา แต่เราก็ยืนยันว่า เมื่อดูตัวเลขจำนวนตัวเลขผู้ที่เข้าถึง และไม่เข้าถึงยาก็ไม่ใช่เงินจำนวนมากเท่าใดนัก คุยกันใน ครม.ด้วยเหตุด้วยผล เราอาจจะได้มากกว่าการไปประกาศซีแอลอีก” นายไชยา กล่าว

นายไชยา กล่าวด้วยว่า ตนเห็นด้วยกับการทำซีแอลในระดับหนึ่ง ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย เพราะจะได้มีอำนาจในการพูดคุย ประเทศอย่างเราก็มีหัวใจ อยู่ๆ จะเห็นว่าไทยเป็นประเทศเล็กๆ และจะหาเรื่องก็ไม่ใช่ เราก็มีความรู้สึกของความเป็นคนเหมือนกัน พอเราประกาศซีแอลเขาอาจจะเห็นคุณค่าว่าเราไม่กลัวนะ ซึ่งเมื่อประกาศก็ต้องเตรียมใจว่าอะไรเกิดมันต้องเกิด อย่างไรก็ดี คงต้องทำให้ทุกฝ่ายวินวินทั้งคู่ ไม่ให้ข้างใดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ยืนยันว่า ตนเป็น รมว.สาธารณสุข ก็มีหน้าที่ต้องดูแลสุขภาพของประชาชน

“แต่วันนี้ยังไม่เห็นว่าการทบทวนการทำซีแอลจะกระทบกับผู้ป่วย หรือมีผู้ป่วยมะเร็งที่ไหนที่นอนพะงาบๆ จากการเข้าไม่ถึงยาหรือการทบทวนซีแอล เพราะผู้ป่วยยังได้รับการรักษายามะเร็ง ถ้าผมทบทวนซีแอลแล้ว มีผู้ป่วยเสียชีวิต ผมก็จะถูกตำหนิได้ แต่ตอนนี้ยังปกติอยู่ ส่วนเงินที่ประหยัดได้จากการทำซีแอลยามะเร็งจำนวน 500 ล้านบาท ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากเลย ดังนั้น ถ้าวันนี้เรามีปัญหาด้านการค้า แล้วเข้าไปหารือกับสำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก็ต้องเพิ่มงบประมาณให้เรา เมื่อยังมีผู้ป่วยยังไม่สามารถเข้าถึงยา” นายไชยา กล่าว

นายไชยา กล่าวอีกว่า เมื่อเรามาจากการเลือกตั้งมีประชาธิปไตย สหรัฐฯ ก็ให้การสนับสนุนกองทัพ จึงเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ อย่างการที่ สธ.ยกเลิกการเก็บเงินค่าธรรมเนียมจำนวน 30 บาท ในโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตนเองก็ไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวมาคิดทบทวนแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องที่ทำเพื่อคนในชาติได้อยู่แล้ว แต่เมื่อสิ่งที่ทำมีผลข้างเคียงก็ควรนำมาพิจารณาให้รอบคอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำอย่างไรให้ภาคประชาชนยอมรับ เพราะหากยกเลิกซีแอลก็จะมีการประท้วงใหญ่ นายไชยา กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ในการดูแลผู้เจ็บไข้ได้ป่วย ก็จะต้องสู้เพื่อสธ.แต่หากกระทรวงอื่น บอกว่า การที่ สธ.ทำเช่นนี้เกิดผลกระทบก็ต้องไปหารือกันที่ ครม.ถ้าถามตัวเองว่าอยากยกเลิกซีแอลหรือไม่นั้น ก็คงตอบว่าไม่ทำแน่ เพราะทุกคนที่ออกนโยบายมาต้องมีเหตุและผล แต่อยู่บนพื้นฐานความถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และที่สำคัญต้องอยู่ภายใต้กฎหมายสิทธิบัตร ซึ่งต้องดูต่อไป มิฉะนั้นการมีกรมทรัพย์สินทางปัญญามาก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร

กำลังโหลดความคิดเห็น