เผยคนไทยพุงปลิ้นเพราะชอบกินอาหารนอกบ้าน เฉลี่ย 1 สัปดาห์ไม่ต่ำกว่า 13 มื้อ ฝากท้องกับอาหารถุงทั้งมัน ทั้งหวาน แถมฮิตกินพิซซ่า-แฮมเบอร์เกอร์ เสียเงินค่าอาหารเดือนละ 927 บาทนักโภชนาการแนะไม่ห้ามแต่ต้องกินอย่างมีสติ เลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรีต่ำ รู้จักอิ่มรู้จักพอ เตือนชายกินไม่เกิน 2 พันแคลอรีต่อวัน ผู้หญิงอย่าสูงกว่า 1.5 พัน เตรียมจัดตลาดนัดลดพุง รับรีดไขมัน ประกวดเมนูลดพุง พร้อมตรวจสุขภาพ 2 ก.พ.นี้
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในการแถลงของเครือข่ายคนไทยไร้พุง เรื่อง “พุงปลิ้น เพราะกินอาหารนอกบ้าน” โดย ศ.นพ.สมิง เก่าเจริญ กรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรพบว่า คนไทยทานข้าวนอกบ้านอาทิตย์ละ 13 มื้อ คนกรุงเทพฯ ทานข้าวนอกบ้านบ่อยที่สุด ขณะที่คนอีสานนิยมทานอาหารที่ปรุงเองมากที่สุด โดยคนไทยจัดว่าทานอาหารนอกบ้านมากเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย คนไทยจ่ายเงินทานอาหารนอกบ้านเดือนละ 927 บาทต่อครัวเรือน
ศ.นพ.สมิง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ มูลค่าธุรกิจร้านอาหารในไทยปี 2551 สูงถึง 1 แสนล้านบาท ร้านอาหารประเภทบริการด่วน เป็นกลุ่มที่เติบโตสูงสุด ซึ่งร้านอาหารประเภทนี้เกือบ 90% เป็นแฟรนไชส์ประเภทฟาสต์ฟูด มีส่วนแบ่งตลาดเป็นไก่ 40% แฮมเบอร์เกอร์ 20% พิซซ่า 15% ไอศกรีม 10% และอื่นๆ ปัจจุบันมีสาขาร้านฟาสต์ฟูดในไทยกว่า 1,000 แห่ง
นพ.ฆนัท ครุธกูล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและโภชนวิทยาคลินิก โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า การทานนอกบ้านทำให้ได้แคลอรีสูงกว่าคนทำกับข้าวเองถึงวันละ 290 แคลอรี เพราะอาหารที่ร้านมักใช้น้ำมันมาก แถมมีเมนูอ้วนๆไม่รู้จบ หากทำเองจะจำกัดได้ว่า ควรทานอะไรใส่วัตถุดิบแค่ไหน ซึ่งอาหารจานด่วนที่มีแคลอรีสูง แต่คนไทยนิยมทาน 5 อันดับ คือ 1.พิชซ่า 315 กิโลแคลอรีต่อชิ้น 2.แฮมเบอร์เกอร์ชีส 410 แคลอรีต่อชิ้น 3.ไก่ทอด+ มันฝรั่ง+น้ำอัดลม 1 ชุดมี 1,025 แคลอรี 4.ผัดไท 700 แคลอรีต่อจาน 5.สลัด (พลังงานสูง) ประเภทน้ำข้น 580 แคลอรีต่อจาน ส่วนกลุ่มอาหารจานเดียวที่มีแคลอรีสูง แต่หากเลือกทานจะลดแคลอรีได้คือ 1.ข้าวขาหมูมีหนัง 610 ต่อจาน ไม่มีหนัง 470 ต่อจาน 2.ข้าวมันไก่ทอดมีหนัง 650 ต่อจาน ข้าวขาว ไม่มีหนัง 470 ต่อจาน 3.ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กต้มยำ 580 ต่อชาม ก๋วยเตี๋ยวเล็กน้ำ 340 ต่อชาม 4.ข้าวเหนียวส้มตำไก่ย่างมีหนัง 760 ต่อชุด ไก่ย่างไม่มีหนัง งดข้าวเหนียว 270 ต่อชุด 5.ขนมจีนน้ำยากะทิ 510 ต่อจาน น้ำยาป่า 350 ต่อจาน
นายสง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการสาธารณสุขระดับ 9 ด้านโภชนากการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้ชายควรได้รับแคลอรีไม่เกิน 1,800-2,000 แคลอรีต่อวัน ผู้หญิงไม่เกิน 1,200-1,500 แคลอรีต่อวัน โดยควรทานอาหารครบ 3 มื้อ และมีแคลอรีในแต่ละมื้อ ดังนี้ มื้อเช้า 360 แคลอรี มื้อกลางวัน 280 แคลอรี มื้อเย็น 360 แคลอรี ซึ่งวิธีการสังเกตอาหารที่ให้พลังงานสูงเกินไปหรือไม่ ดูได้จาก 1.ปริมาณหรือขนาดเยอะ 2.ปรุงด้วยวิธีการผัดหรือทอด ใช้น้ำมันเยอะ 3.มีส่วนผสมด้วยแป้งหรือข้าวในปริมาณสูง 4.มีรสหวาน มีส่วนผสมของน้ำตาลเยอะ
“การรับประทานอาหารนอกบ้านว่า ควรมี 4 สติ คือ 1.สติเสี่ยง คิดเสมอว่าการรับประทานอาหารนอกบ้านมีความเสี่ยงต่อการอ้วนพุงปลิ้น 2.สติเลือกร้านอาหาร โดยต้องมั่นใจว่ามีความสะอาดปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินอาหารและโรคมะเร็ง 3 สติเลือกเมนู เลือกอาหารที่มีแคลอรีต่ำ ถึงปานกลาง เน้นอาหารไทยประเภท ต้ม นึ่ง ย่าง ไม่ใส่กะทิ ยำ และน้ำพริก และ 4.สติกิน ไม่รับประทานจนมากเกินรู้จักอิ่มรู้จักพอ ไม่ต้องเสียดาย หากต้องการรับประทานของหวานควรรู้จักแบ่งท้อง ไม่รับประทานน้ำอัดลม” นายสง่า กล่าว
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ โรงพยาบาลรามาธิบดี เครือข่ายคนไทยไร้พุง กรมอนามัย และ สสส.จัดงานตลาดนัดลดพุงครั้งที่ 2 วันเสาร์ที่ 2 ก.พ.นี้ เวลา 12.00-15.00 น.ที่เวทีสุขภาพ ชั้น 6 โซนบีคอน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด พลาซ่า มีกิจกรรม เช่น ประกวดเมนูอาหารสุขภาพจากร้านอาหารภายในศูนย์การค้า เพื่อส่งเสริมให้ร้านอาหารใส่ใจสุขภาพผู้บริโภค และจะขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั้ง กทม.และต่างจังหวัด พร้อมทั้งตรวจสุขภาพฟรี วัดส่วนประกอบของร่างกายด้วยเครื่องมือทันสมัย “Inbody” และเผยเคล็ดลับลดน้ำหนักง่ายๆ ด้วยวิธี 3 อ.จากประสบการณ์จริงของผู้เคยร่วมโครงการ ผู้สนใจสมัครสมาชิกและลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ทาง www.raipoong.com ตั้งแต่บัดนี้