โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
ถ้าพูดถึง "ตลาด" ขึ้นมา หลายคนคงนึกภาพของตลาดสดที่มีความจอแจ ผู้คนพลุกพล่านเดินเลือกหาซื้อของให้ช่องทางเดินแคบๆ มีเสียงพ่อค้าแม่ค้าเรียกความสนใจจากลูกค้าให้มาซื้อของ ซึ่งก็ถือเป็นตลาดที่มีสีสันไปอีกแบบหนึ่ง แต่หากใครได้มาเดินซื้อของที่ "ตลาดบองมาร์เช่" ในย่านประชานิเวศน์ คงจะลืมภาพตลาดแบบที่ฉันว่ามาในตอนแรกไปเลย
ตลาดบองมาร์เช่ที่มีพื้นที่กว้าง 17 ไร่นี้ ที่ว่านี้ นอกจากจะเป็นตลาดที่ฉีกแนวตลาดอื่นๆ ออกไปแล้ว ก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อีกด้วย เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ และโครงการบองมาร์เช่ก็ได้เช่าที่ดินจากพระองค์เพื่อสร้างเป็นตลาดขึ้น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ก็เคยเสด็จมายังตลาดแห่งนี้หลายๆ ครั้งด้วยเช่นกัน
สำหรับความต่างของตลาดบองมาร์เช่กับตลาดอื่นๆ นั้น เดี๋ยวฉันจะพาเข้าไปชมกัน แต่ก่อนอื่นมารู้ความหมายของชื่อตลาดกันก่อนดีกว่า คำว่าบองมาร์เช่ (Bon Marche) นั้น เป็นภาษาฝรั่งเศส โดยความหมายก็คือตลาดที่ดี นั่นเอง นอกจากนั้นแนวคิดของการสร้างตลาดก็ยังเป็นแนวคิดที่ดีอีกด้วย เพราะทางโครงการคิดว่าตลาดถือเป็นสัญลักษณ์ของสังคมไทย คนจะยากดีมีจนอย่างไรก็ต้องกินต้องใช้ อีกทั้งหากสร้างตลาดขึ้นมาก็จะเป็นประโยชน์กับผู้ตกงานจำนวนมหาศาล คนเกษียณก่อนอายุ และคนด้อยโอกาสให้มีที่ทำกิน
บรรยากาศของตลาดบองมาร์เช่ในวันนี้ก็ยังคงมีกลิ่นอายความเศร้าสร้อยจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยด้านหน้าทางเข้าตลาดนั้นก็ยังได้ประดับพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ไว้เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยถวายแด่พระองค์ อีกทั้งพ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่มาซื้อของส่วนใหญ่ยังคงแต่งกายด้วยชุดสีดำ
เมื่อย่างเท้าเข้าไปภายในตลาดปุ๊บ ฉันก็มุ่งตรงไปยัง "ศูนย์อาหารบอง" ก่อนเลย เพราะหิวท้องกิ่วมาทั้งวันแล้ว อีกอย่างหนึ่งก็อยากจะมาลิ้มลองรสชาติอาหารของที่นี่ด้วย เพราะได้ข่าวมานานว่ามีแต่ของอร่อยเด็ดทั้งนั้น พอเข้ามาถึงก็ได้เห็นว่าที่นี่เขามีเมนูให้เลือกหลากหลาย ล้วนแต่น่าอร่อยเสียด้วยสิ ไม่ว่าจะเป็นข้าวห่อใบบัว ขนมจีนน้ำยา ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด หรือจะเป็นบะหมี่หมูแดง ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น อาหารอีสาน อาหารเวียดนามก็ยังมี อิ่มกับของคาวแล้วก็ต่อด้วยของหวานอย่างไอศกรีมโฮมเมด ข้าวเหนียวมะม่วง หวานเย็นน้ำแข็งใส เป็นอันครบเครื่องเรื่องอร่อย
หรือถ้าใครมีเงินถุงเงินถัง อยากจะลิ้มรสชาติอาหารในร้านหรูๆ ที่ตลาดบองมาร์เช่ก็มีร้านน่านั่งหลายร้านด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารจีน อาหารอิตาเลียน ฝรั่งเศส ร้านสุกี้ญี่ปุ่น หรือร้านกาแฟ เบเกอรี่ก็มีให้เลือกกินมากมาย
หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารที่ว่าแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาชมตลาด หรือที่เรียกว่าเป็นโซน "ตลาดบอง" กันเสียที ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณศูนย์อาหารนั่นเอง ในส่วนของตลาดบองนี้ก็เป็นพื้นที่ของตลาดสด ขายสินค้าประเภทผักสด ผลไม้สด วัตถุดิบสดๆ อย่างเนื้อหมูเนื้อไก่ก็มีเช่นกัน นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีพวกอาหารสำเร็จรูปขายให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านก็ได้ด้วย
ตรงส่วนของตลาดสดนี้เองที่ฉันบอกว่ามีความแตกต่างกับตลาดที่อื่นๆ ตรงที่ความสะอาดและความโปร่งโล่งของพื้นที่ เพราะโรงเรือนตลาดนี้สร้างไว้ให้มีหลังคาที่สูงทำให้อากาศถ่ายเทสะดวกไม่อึดอัด พื้นไม่มีน้ำนองเฉอะแฉะกระเด็นติดขา และแผงขายของแต่ละแผงก็มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะทางตลาดได้จัดพื้นที่แผงขายของต่างๆ ให้อยู่เป็นล็อกๆ ของใครของมัน จัดแบ่งโซนตามประเภทสินค้าที่จำหน่าย ดังนั้นคนที่มาจับจ่ายซื้อของจึงเดินเลือกชมข้าวของต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
จากโซนตลาด ฉันเดินกินลมชมวิวของบึงน้ำและน้ำพุเพื่อข้ามมาอีกฝั่งหนึ่งที่ดูหน้าตาของตึกแล้วคล้ายจะเป็นห้างสรรพสินค้าย่อมๆ แห่งหนึ่ง ตรงหน้าตึกมีตัวอักษรตัวใหญ่ติดไว้ว่าเป็น "บองพลาซ่า" บริเวณอาคารนี้ตรงชั้น 1 และชั้น 2 จะเป็นส่วนที่ขายสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายต่างๆ ทั้งเสื้อผ้าวัยรุ่น เสื้อผ้าเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ร้านกิฟท์ช็อป ของตกแต่งบ้าน มาที่บองพลาซ่าที่นี่ที่เดียวมีหมด
ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นส่วนบรรดาโรงเรียนต่างๆ เช่น โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ สอนศิลปะ สอนดนตรี สอนทำอาหารด้วยอีกต่างหาก และยังมีแกลอรี่ศิลปะ ร้านเสริมสวย และร้านนวดไทยสำหรับคนที่เดินช้อปจนเมื่อยอีกด้วย ส่วนชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดนั้นเป็นฟิตเนส หากใครบ้านใกล้เรือนเคียงตลาดแห่งนี้ก็สามารถมาออกกำลังกันได้
ส่วนอีกตึกหนึ่งที่ตั้งเป็นมุมฉากกับบองพลาซ่านั้น ก็เป็นส่วนของ "บองอัญมณี" ขายสินค้าประเภทอัญมณีแพรวพรายทั้งหลาย ทั้งเพชรพลอย อัญมณี ไข่มุก ทองรูปพรรณต่างๆ สังเกตได้ว่ามุมนี้จะมีคนเดินน้อยเป็นพิเศษ เป็นเพราะคนส่วนมากทนแสงวูบวาบกันไม่ค่อยจะได้หรือยังไงก็ไม่ทราบ
นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีส่วนของ "บองบริการ" มีผู้ให้บริการต่างๆ มาเปิดร้านเพื่อความสะดวกของลูกค้า เช่น ธนาคาร บริษัททัวร์ บริษัทขาย-ซ่อมโทรศัพท์ ร้านรับซ่อมเสื้อผ้า ซ่อมรองเท้า ทำกุญแจ เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวก็ทำทุกอย่างได้ครบ ทั้งกิน เที่ยว ช้อป แถมทำธุระต่างๆ ได้อีกต่างหาก
นอกจากนั้นแล้ว ที่ตลาดบองมาร์เช่นี้ก็ยังมีร้านค้าของโครงการในพระราชดำริและร้านค้าของมูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์อยู่หลายร้านด้วยกัน ทั้งร้านค้าของโครงการหลวง ร้านสายใจไทย ร้านภูฟ้า ร้านดอยตุง อีกด้วย ใครที่อยากสนับสนุนสินค้าจากโครงการเหล่านี้ก็ไปซื้อหาได้ที่ตลาดบองมาร์เช่
และหลังจากช้อปปิ้งกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมแวะเวียนไปเยี่ยมชมสวนหย่อมเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตลาดบองมาร์เช่ บริเวณด้านหลังตึกที่จอดรถ หากดูจากภายนอกสวนหย่อมแห่งนี้ก็นับเป็นสวนเล็กๆ ธรรมดาๆ ที่เอาไว้ให้ใช้พักผ่อนในพื้นที่สีเขียว แต่หากมองให้ดีๆ จะเห็นว่า บนสนามหญ้าริมทางเดินในสวนนี้ จะมีแผ่นอิฐแผ่นใหญ่สีขาวมีป้ายชื่อติดอยู่ด้านบน วางอยู่หลายสิบแผ่นด้วยกัน เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่แถวนั้นดู ฉันจึงได้รู้ว่าสวนแห่งนี้เป็น "สุสานสุนัขทรงเลี้ยง" ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นั่นเอง
สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพสุนัขของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กว่า 50 สุนัขด้วยกัน โดยเมื่อสุนัขของพระองค์เสียชีวิตลง ก็จะโปรดให้นำมาฝังไว้ที่นี่ เช่นสุนัขที่ชื่อโท เปตอง ดิกบี้ โตตัส แตง ดอยปุย อ่างทอง ทิมพู ฯลฯ จะมีก็แต่สุนัขที่ชื่อสิบสาม ซึ่งเป็นสุนัขทรงเลี้ยงตัวโปรดของพระองค์ ที่มีสุสานอยู่ในวังเลอดิส
ตลาดบองมาร์เช่นี้จึงถือเป็นตลาดอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะฉันได้ทั้งมากิน มาช้อปปิ้ง และเดินดูข้าวของน่าสนใจต่างๆ และยังได้มาเยี่ยมเยือนสุสานสุนัขทรงเลี้ยงของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อีกต่างหาก นับว่าตลาดแห่งนี้ถือเป็นแหล่งพักผ่อนในวันหยุดของคนกรุงเทพฯ ได้อย่างดีทีเดียว
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ตลาดบองมาร์เช่ ตั้งอยู่ที่ ถนนเทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ การเดินทาง หากมาทางถนนวิภาวดีรังสิต ให้วิ่งเข้ามาตามป้ายที่เขียนว่าวัดเสมียนนารี เมื่อข้ามทางรถไฟมาแล้วให้วิ่งตรงมาอีกประมาณ 500 เมตร และจะเห็นตลาดบองมาร์เช่อยู่ทางซ้ายมือ มีที่จอดรถสะดวกสบาย เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. สอบถามโทร.0-2953-8980 ถึง 1
ถ้าพูดถึง "ตลาด" ขึ้นมา หลายคนคงนึกภาพของตลาดสดที่มีความจอแจ ผู้คนพลุกพล่านเดินเลือกหาซื้อของให้ช่องทางเดินแคบๆ มีเสียงพ่อค้าแม่ค้าเรียกความสนใจจากลูกค้าให้มาซื้อของ ซึ่งก็ถือเป็นตลาดที่มีสีสันไปอีกแบบหนึ่ง แต่หากใครได้มาเดินซื้อของที่ "ตลาดบองมาร์เช่" ในย่านประชานิเวศน์ คงจะลืมภาพตลาดแบบที่ฉันว่ามาในตอนแรกไปเลย
ตลาดบองมาร์เช่ที่มีพื้นที่กว้าง 17 ไร่นี้ ที่ว่านี้ นอกจากจะเป็นตลาดที่ฉีกแนวตลาดอื่นๆ ออกไปแล้ว ก็ยังมีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อีกด้วย เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ และโครงการบองมาร์เช่ก็ได้เช่าที่ดินจากพระองค์เพื่อสร้างเป็นตลาดขึ้น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ก็เคยเสด็จมายังตลาดแห่งนี้หลายๆ ครั้งด้วยเช่นกัน
สำหรับความต่างของตลาดบองมาร์เช่กับตลาดอื่นๆ นั้น เดี๋ยวฉันจะพาเข้าไปชมกัน แต่ก่อนอื่นมารู้ความหมายของชื่อตลาดกันก่อนดีกว่า คำว่าบองมาร์เช่ (Bon Marche) นั้น เป็นภาษาฝรั่งเศส โดยความหมายก็คือตลาดที่ดี นั่นเอง นอกจากนั้นแนวคิดของการสร้างตลาดก็ยังเป็นแนวคิดที่ดีอีกด้วย เพราะทางโครงการคิดว่าตลาดถือเป็นสัญลักษณ์ของสังคมไทย คนจะยากดีมีจนอย่างไรก็ต้องกินต้องใช้ อีกทั้งหากสร้างตลาดขึ้นมาก็จะเป็นประโยชน์กับผู้ตกงานจำนวนมหาศาล คนเกษียณก่อนอายุ และคนด้อยโอกาสให้มีที่ทำกิน
บรรยากาศของตลาดบองมาร์เช่ในวันนี้ก็ยังคงมีกลิ่นอายความเศร้าสร้อยจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยด้านหน้าทางเข้าตลาดนั้นก็ยังได้ประดับพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ไว้เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยถวายแด่พระองค์ อีกทั้งพ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่มาซื้อของส่วนใหญ่ยังคงแต่งกายด้วยชุดสีดำ
เมื่อย่างเท้าเข้าไปภายในตลาดปุ๊บ ฉันก็มุ่งตรงไปยัง "ศูนย์อาหารบอง" ก่อนเลย เพราะหิวท้องกิ่วมาทั้งวันแล้ว อีกอย่างหนึ่งก็อยากจะมาลิ้มลองรสชาติอาหารของที่นี่ด้วย เพราะได้ข่าวมานานว่ามีแต่ของอร่อยเด็ดทั้งนั้น พอเข้ามาถึงก็ได้เห็นว่าที่นี่เขามีเมนูให้เลือกหลากหลาย ล้วนแต่น่าอร่อยเสียด้วยสิ ไม่ว่าจะเป็นข้าวห่อใบบัว ขนมจีนน้ำยา ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด หรือจะเป็นบะหมี่หมูแดง ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น อาหารอีสาน อาหารเวียดนามก็ยังมี อิ่มกับของคาวแล้วก็ต่อด้วยของหวานอย่างไอศกรีมโฮมเมด ข้าวเหนียวมะม่วง หวานเย็นน้ำแข็งใส เป็นอันครบเครื่องเรื่องอร่อย
หรือถ้าใครมีเงินถุงเงินถัง อยากจะลิ้มรสชาติอาหารในร้านหรูๆ ที่ตลาดบองมาร์เช่ก็มีร้านน่านั่งหลายร้านด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารจีน อาหารอิตาเลียน ฝรั่งเศส ร้านสุกี้ญี่ปุ่น หรือร้านกาแฟ เบเกอรี่ก็มีให้เลือกกินมากมาย
หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารที่ว่าแล้ว คราวนี้ก็ได้เวลาชมตลาด หรือที่เรียกว่าเป็นโซน "ตลาดบอง" กันเสียที ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณศูนย์อาหารนั่นเอง ในส่วนของตลาดบองนี้ก็เป็นพื้นที่ของตลาดสด ขายสินค้าประเภทผักสด ผลไม้สด วัตถุดิบสดๆ อย่างเนื้อหมูเนื้อไก่ก็มีเช่นกัน นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีพวกอาหารสำเร็จรูปขายให้ซื้อกลับไปกินที่บ้านก็ได้ด้วย
ตรงส่วนของตลาดสดนี้เองที่ฉันบอกว่ามีความแตกต่างกับตลาดที่อื่นๆ ตรงที่ความสะอาดและความโปร่งโล่งของพื้นที่ เพราะโรงเรือนตลาดนี้สร้างไว้ให้มีหลังคาที่สูงทำให้อากาศถ่ายเทสะดวกไม่อึดอัด พื้นไม่มีน้ำนองเฉอะแฉะกระเด็นติดขา และแผงขายของแต่ละแผงก็มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะทางตลาดได้จัดพื้นที่แผงขายของต่างๆ ให้อยู่เป็นล็อกๆ ของใครของมัน จัดแบ่งโซนตามประเภทสินค้าที่จำหน่าย ดังนั้นคนที่มาจับจ่ายซื้อของจึงเดินเลือกชมข้าวของต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
จากโซนตลาด ฉันเดินกินลมชมวิวของบึงน้ำและน้ำพุเพื่อข้ามมาอีกฝั่งหนึ่งที่ดูหน้าตาของตึกแล้วคล้ายจะเป็นห้างสรรพสินค้าย่อมๆ แห่งหนึ่ง ตรงหน้าตึกมีตัวอักษรตัวใหญ่ติดไว้ว่าเป็น "บองพลาซ่า" บริเวณอาคารนี้ตรงชั้น 1 และชั้น 2 จะเป็นส่วนที่ขายสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายต่างๆ ทั้งเสื้อผ้าวัยรุ่น เสื้อผ้าเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ร้านกิฟท์ช็อป ของตกแต่งบ้าน มาที่บองพลาซ่าที่นี่ที่เดียวมีหมด
ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นส่วนบรรดาโรงเรียนต่างๆ เช่น โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ สอนศิลปะ สอนดนตรี สอนทำอาหารด้วยอีกต่างหาก และยังมีแกลอรี่ศิลปะ ร้านเสริมสวย และร้านนวดไทยสำหรับคนที่เดินช้อปจนเมื่อยอีกด้วย ส่วนชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดนั้นเป็นฟิตเนส หากใครบ้านใกล้เรือนเคียงตลาดแห่งนี้ก็สามารถมาออกกำลังกันได้
ส่วนอีกตึกหนึ่งที่ตั้งเป็นมุมฉากกับบองพลาซ่านั้น ก็เป็นส่วนของ "บองอัญมณี" ขายสินค้าประเภทอัญมณีแพรวพรายทั้งหลาย ทั้งเพชรพลอย อัญมณี ไข่มุก ทองรูปพรรณต่างๆ สังเกตได้ว่ามุมนี้จะมีคนเดินน้อยเป็นพิเศษ เป็นเพราะคนส่วนมากทนแสงวูบวาบกันไม่ค่อยจะได้หรือยังไงก็ไม่ทราบ
นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีส่วนของ "บองบริการ" มีผู้ให้บริการต่างๆ มาเปิดร้านเพื่อความสะดวกของลูกค้า เช่น ธนาคาร บริษัททัวร์ บริษัทขาย-ซ่อมโทรศัพท์ ร้านรับซ่อมเสื้อผ้า ซ่อมรองเท้า ทำกุญแจ เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวก็ทำทุกอย่างได้ครบ ทั้งกิน เที่ยว ช้อป แถมทำธุระต่างๆ ได้อีกต่างหาก
นอกจากนั้นแล้ว ที่ตลาดบองมาร์เช่นี้ก็ยังมีร้านค้าของโครงการในพระราชดำริและร้านค้าของมูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์อยู่หลายร้านด้วยกัน ทั้งร้านค้าของโครงการหลวง ร้านสายใจไทย ร้านภูฟ้า ร้านดอยตุง อีกด้วย ใครที่อยากสนับสนุนสินค้าจากโครงการเหล่านี้ก็ไปซื้อหาได้ที่ตลาดบองมาร์เช่
และหลังจากช้อปปิ้งกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมแวะเวียนไปเยี่ยมชมสวนหย่อมเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตลาดบองมาร์เช่ บริเวณด้านหลังตึกที่จอดรถ หากดูจากภายนอกสวนหย่อมแห่งนี้ก็นับเป็นสวนเล็กๆ ธรรมดาๆ ที่เอาไว้ให้ใช้พักผ่อนในพื้นที่สีเขียว แต่หากมองให้ดีๆ จะเห็นว่า บนสนามหญ้าริมทางเดินในสวนนี้ จะมีแผ่นอิฐแผ่นใหญ่สีขาวมีป้ายชื่อติดอยู่ด้านบน วางอยู่หลายสิบแผ่นด้วยกัน เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่แถวนั้นดู ฉันจึงได้รู้ว่าสวนแห่งนี้เป็น "สุสานสุนัขทรงเลี้ยง" ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นั่นเอง
สุสานแห่งนี้เป็นที่ฝังศพสุนัขของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กว่า 50 สุนัขด้วยกัน โดยเมื่อสุนัขของพระองค์เสียชีวิตลง ก็จะโปรดให้นำมาฝังไว้ที่นี่ เช่นสุนัขที่ชื่อโท เปตอง ดิกบี้ โตตัส แตง ดอยปุย อ่างทอง ทิมพู ฯลฯ จะมีก็แต่สุนัขที่ชื่อสิบสาม ซึ่งเป็นสุนัขทรงเลี้ยงตัวโปรดของพระองค์ ที่มีสุสานอยู่ในวังเลอดิส
ตลาดบองมาร์เช่นี้จึงถือเป็นตลาดอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะฉันได้ทั้งมากิน มาช้อปปิ้ง และเดินดูข้าวของน่าสนใจต่างๆ และยังได้มาเยี่ยมเยือนสุสานสุนัขทรงเลี้ยงของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อีกต่างหาก นับว่าตลาดแห่งนี้ถือเป็นแหล่งพักผ่อนในวันหยุดของคนกรุงเทพฯ ได้อย่างดีทีเดียว
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ตลาดบองมาร์เช่ ตั้งอยู่ที่ ถนนเทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ การเดินทาง หากมาทางถนนวิภาวดีรังสิต ให้วิ่งเข้ามาตามป้ายที่เขียนว่าวัดเสมียนนารี เมื่อข้ามทางรถไฟมาแล้วให้วิ่งตรงมาอีกประมาณ 500 เมตร และจะเห็นตลาดบองมาร์เช่อยู่ทางซ้ายมือ มีที่จอดรถสะดวกสบาย เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. สอบถามโทร.0-2953-8980 ถึง 1
