กทม.ร่วมกับผู้ใจบุญเปิดโรงทานถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 11 เม.ย. พร้อมเชิญชวนประชาชนบริจาคเงิน อาหารสด-แห้ง ร่วมทำโรงทานครั้งนี้ ขณะที่ “เจ๊ลั้ง-กู้ชาติ” แม่ค้าปากคลองตลาดร่วมตั้งโรงทานถวายเป็นพระราชกุศลด้วยเช่นกัน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงทานที่ท้องสนามหลวงว่า กทม.ได้ร่วมกับมูลนิธิและองค์กรต่างๆในการเปิดโรงทานเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลไว้บริการแก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยได้ตั้งโรงทานไว้จำนวน 4 จุดตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนถึงด้านที่ติดกับพระบรมมหาราชวัง ซึ่งจุดที่ 1 เป็นโรงทานของหน่วยงาน กทม.ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาหน่วยงานละ 7 วัน จุดที่ 2 โรงทานของเจ๊ลั้งจากปากคลองตลาด จุดที่ 3 โรงทานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และจุดที่ 4 โรงทานมูลนิธิพุทธอุปถัมภ์ ซึ่งโรงทานของมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง จะเปิดให้บริการประชาชนเป็นรายแรกในเวลา 07.00 น. จากนั้นทุกโรงทานจะเปิดพร้อมกันในเวลา 10.00-14.00 น. และช่วงเวลา 17.00-19.00 น.โดยจะเปิดให้บริการประชาชนไปจนถึงวันที่ 11 เม.ย.2551
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนรายใดสนใจที่จะนำอาหารสด-แห้งมาบริจาคสามารถติดต่อได้ที่กองอำนวยการ หรือสามารถบริจาคเงินเพื่อนำมาซื้อสิ่งของมาประกอบอาหารได้ที่ บัญชี “กรุงเทพมหานคร” ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยศาลาว่าการ กทม. เลขที่บัญชี 088-0-0-2261-2 โดยขอให้ส่งสลิปการโอนเงินพร้อมแจ้งอยู่ที่อยู่มาทางแฟกซ์ของกองกลาง กทม. หมายเลข 0-2221-2170 จากนั้นทาง กทม.จะส่งใบเสร็จกลับไปให้
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการรักษาความสะอาดโรงทานนั้นได้มีการจัดเวรหมุนเวียนกันไปโดยใช้เจ้าหน้าที่จากเขตพระนครและป้อมปราบฯ มีเทศกิจดูแลเต็นท์ละ 2 นาย ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีกองอำนวยการเทศกิจ และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไว้คอยบริการประชาชน พร้อมทั้งได้จัดรถสุขาเคลื่อนที่และประสานการประปานครหลวงเพื่อนำน้ำดื่มมาบริการประชาชนด้วย ขณะที่เรื่องการจัดที่จอดรถโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดนั้นที่ประชาชนจะเดินทางมาเป็นจำนวนมากเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง นั้นไม่น่าจะมีปัญหาเพราะส่วนใหญ่จะหมุนเวียนกันไป
ด้านเจ๊ลั้ง แม่ค้าผักจากปากคลองตลาด ที่มาเปิดโรงทาน กล่าวว่า โรงทานของตนเป็นโรงทานมังสวิรัติ ทำอาหารเพื่อสุขภาพถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน โดยจะอยู่ไปจนครบ 100 วัน ช่วงกลางคืนก็ไปขายผัก อาศัยนอนแป๊บเดียวแล้วค่อยตื่น มาทำโรงทานต่อ ส่วนเมนูอาหารจะหมุนเวียนกันไปซึ่งในวันนี้ตอนเที่ยงได้ทำข้าวต้ม ส่วนในช่วงเย็นจะเป็นต้มจับฉ่าย ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยตนจะต้องใช้เงินในการซื้อของมาประกอบอาหารวันละ 10,000 กว่าบาท อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนเคยทำอาหารเลี้ยงประชาชนที่มาชุมนุมไล่อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ช่วงกู้ชาติแล้ว