xs
xsm
sm
md
lg

"สุรวิชช์" ดับฝันพรรคส้ม ชี้เปลี่ยนตัวผู้สมัครไม่ได้ แค่ถอนตัวยังไม่มีลักษณะต้องห้ามตามม.50

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"สุรวิชช์" มองพรรคส้ม เปลี่ยนตัวผู้สมัครไม่ได้เหตุยังไม่มีลักษณะต้องห้ามตามม.50 ถูกจับยังไม่เข้า ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด-ไม่มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ถอนตัวไม่ใช่เหตุทางกฎหมายให้เปลี่ยนตัวผู้สมัคร

วันนี้ (29ธ.ค.) นายสุรวิชช์ วีรวรรณ คอลัมนิสต์ประจำเครือผู้จัดการ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีเปลี่ยนแปลงตัวผู้สมัครส.ส. มีเนื้อหาดังนี้

#พรรคประชาชนไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้สมัครได้เพราะผู้ถูกกล่าวหายังไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา50

กรณีข่าวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาชนถูกจับกุมและถูกกล่าวหาตามคดีอาญา ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า พรรคสามารถถอนตัวผู้สมัครและส่งคนใหม่แทนได้หรือไม่ คำตอบทางกฎหมายชัดเจนกว่าที่หลายคนเข้าใจ และไม่ได้ขึ้นกับความรู้สึกหรือแรงกดดันทางการเมือง แต่ขึ้นกับ บทบัญญัติของกฎหมายเลือกตั้งโดยตรง
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 50 บัญญัติไว้ชัดว่า พรรคการเมืองจะถอนหรือเปลี่ยนแปลงผู้สมัครได้ เฉพาะก่อนปิดรับสมัคร และ เฉพาะกรณี ที่ผู้สมัคร
(1) ตาย
(2) ขาดคุณสมบัติ
(3) มีลักษณะต้องห้าม
เท่านั้น กฎหมายใช้ถ้อยคำว่า “เฉพาะกรณี” ซึ่งหมายความว่า ไม่มีช่องให้ตีความขยายไปไกลกว่านี้

หัวใจของปัญหาอยู่ที่คำว่า “ขาดคุณสมบัติ” และ “มีลักษณะต้องห้าม” ตามกฎหมายเลือกตั้ง การถูกกล่าวหา การถูกจับกุม หรือการถูกดำเนินคดีในชั้นตำรวจหรืออัยการ ยังไม่ทำให้บุคคลนั้นขาดคุณสมบัติ เพราะยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และยังไม่มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หลักกฎหมายพื้นฐานยังถือว่า บุคคลนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

ดังนั้น ต่อให้ผู้สมัครจะยื่นหนังสือ “ขอถอนตัวเอง” ก็ ไม่ใช่เหตุทางกฎหมาย ที่เปิดทางให้พรรคเปลี่ยนผู้สมัครได้ เพราะมาตรา 50 ไม่ได้ให้สิทธิถอนตัวตามความสมัครใจ แต่ให้เปลี่ยนได้ต่อเมื่อเกิดข้อเท็จจริงตามสามเงื่อนไขข้างต้นเท่านั้น การถอนตัวโดยไม่เข้าเงื่อนไข ถือว่าไม่ทำให้ตำแหน่งผู้สมัครว่างลงในทางกฎหมาย

เมื่อย้อนกลับมาดูข่าวกรณีนี้ สถานะของผู้สมัครยังเป็นเพียง “ผู้ถูกกล่าวหา” ซึ่งยัง ไม่เข้าเงื่อนไขข้อ 2 หรือข้อ 3 ของมาตรา 50 พรรคจึง ไม่สามารถถอนรายชื่อและส่งผู้สมัครใหม่ได้อย่างชอบด้วยกฎหมาย แม้จะยังอยู่ภายในกำหนดเวลาปิดรับสมัครก็ตาม

หาก กกต. หรือพรรคการเมืองใดอนุญาตให้มีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครในกรณีที่ยังไม่ขาดคุณสมบัติจริง จะเท่ากับเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 50 โดยตรง และเปิดช่องให้การเลือกตั้งในเขตนั้นถูกคัดค้านหรือเพิกถอนได้ในภายหลัง เพราะเป็นการใช้อำนาจนอกเหนือจากที่กฎหมายให้อำนาจไว้

เรื่องนี้จึงไม่ใช่ประเด็นว่าจะ “อยากเปลี่ยน” หรือ “ควรเปลี่ยน” แค่ไหน แต่เป็นคำถามว่า กฎหมายอนุญาตหรือไม่ และในกรณีนี้ คำตอบตามตัวบทกฎหมายคือ ยังไม่อนุญาต จนกว่าจะเกิดเหตุที่กฎหมายเรียกว่า “ขาดคุณสมบัติ” หรือ “มีลักษณะต้องห้าม” อย่างแท้จริง

*เพิ่มเติม ถ้าเขาลาออกจากพรรคเพื่อให้ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 50 ล่ะ

คำตอบ-สรุปให้สั้นและตรงกฎหมายที่สุดคือ ผู้สมัครไม่สามารถลาออกจากพรรคหลังวันสมัครเพื่อทำให้ตนเองขาดคุณสมบัติ และเปิดทางให้พรรคเปลี่ยนผู้สมัครใหม่ได้ เพราะกฎหมายเลือกตั้งตาม มาตรา 42 กำหนดให้พิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร “ณ วันสมัคร” เป็นหลัก ส่วน มาตรา 50 อนุญาตให้ถอนหรือเปลี่ยนผู้สมัครได้เฉพาะกรณีตาย ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามเท่านั้น ซึ่งการลาออกจากพรรคภายหลังวันสมัครไม่เข้าข่ายทั้งสามกรณีนี้ ดังนั้นแม้ผู้สมัครจะลาออกโดยสมัครใจ พรรคก็ยังไม่มีอำนาจเปลี่ยนตัวผู้สมัครได้ตามกฎหมาย


กำลังโหลดความคิดเห็น