มหาดไทย สบช่อง! จ่อดัน "ประธานสภาเกษตรกรจังหวัด" 76 แห่ง ร่วมภาคประชาสังคมใน ก.บ.จ. ก.บ.ก. และ กรอ.จังหวัด พ่วง "ประธานฯระดับอำเภอ" 878 แห่ง นั่งกรรมการประสานแผนระดับอําเภอ และท้องถิ่น ยก "แผนแม่บทเกษตรกรรมฯ" ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2568 - 2575) บรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จ่อแบ่งเค้กงบฯพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัดปีละ 28,000 ล้านบาท
วันนี้ (25 ธ.ค.2568) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สํานักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ มีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ภายหลังยกคณะเข้าพบผู้บริหารกระทรวง เพื่อเสนอขับเคลื่อนแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมฯ ระหว่าง 2 องค์กร
ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานเชิงพื้นที่ภายใต้พระราชกฤษฎีกาว่าด้วย การบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2505
นอกจาก เสนอแปลงแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมฯ เป็นแผนงานโครงการ บรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด แล้ว
"ยังเสนอให้ทบทวน ปรับปรุงกลไกและองค์ประกอบ ในคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) และคณะกรรมการบริหารงานกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.ก.)"
โดยแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2568 - 2575) ได้ผ่าน ความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และมอบหมายให้สภาเกษตรกรแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลักในการขับเคลื่อนแผนฯ
ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย แจ้งถึงหัวหน้ากลุ่มจังหวัด 18 แห่ง และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ให้พิจารณานําแนวทางการแปลงแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมฯ เป็นแผนงานโครงการจังหวัดและ กลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ
"ให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่จังหวัด และกลุ่มจังหวัด ใช้ประกอบการจัดทําแผนและโครงการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแล้วแต่กรณี และสําหรับจังหวัดขอให้พิจารณาประสานแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมฯ กับแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด"
ให้ความสําคัญกับการขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ ผ่านประธานสภาเกษตรกรจังหวัด ในฐานะผู้นําสภาเกษตรกรจังหวัด เข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอชื่อเพื่อเข้าร่วมการคัดเลือกเป็นกรรมการผู้แทนภาคประชาสังคมใน ก.บ.จ.
"เปิดโอกาสให้ประธานสภาเกษตรกรจังหวัด เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทําแผนของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และเข้าร่วมประชุม ก.บ.จ. หรือ ก.บ.ก. เพื่อร่วมให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกษตรกรรม เพื่อใช้ประกอบการจัดทํา/ พิจารณาแผนและโครงการฯ"
มีรายงานว่า การเข้าพบของคณะสภาเกษตรกรแห่งชาติ เสนอให้หน่วยงานระดับกรม เช่น กรมการปกครอง กรมที่ดิน กรมการพัฒนาชุมชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมโยธาธิการและผังเมือง
พิจารณาแนวทางการแปลงแผนแม่บทฯ ไปสู่การปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาคเกษตรกรรมไปบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติราชการประจําปีของหน่วยงาน
สําหรับในระดับพื้นที่จังหวัด กลุ่มจังหวัด ขอให้พิจารณานําแนวทาง ที่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่จังหวัด กลุ่มจังหวัดไปบรรจุไว้ใน แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด กลุ่มจังหวัด
รวมทั้งขอให้จังหวัดพิจารณาประสานแผนแม่บท ฯ กับ แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด ส่วนแผนพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. เทศบาล และ อบต.) ขอให้บรรจุแนวทางแผนแม่บท ฯ ไว้ในแผนปฏิบัติงานประจําปีของ อบจ. เทศบาล และอบต.
"ขณะที่ สมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งในระดับอําเภอทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของเกษตรกร ขอให้พิจารณาแต่งตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรระดับอําเภอ เป็นคณะกรรมการประสานแผนระดับอําเภอ และแผนพัฒนาของ อปท
สําหรับในระดับจังหวัด เสนอให้ประธานสภาเกษตรกรจังหวัด ร่วมเป็นกรรมการใน กบจ. คณะกรรมการบริหารงานร่วม ภาครัฐและภาคเอกชน (กรอ.) และ ใน กบก.
สำหรับ งบประมาณพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ล่าสุดพบว่า แผนพัฒนาระยะ 3 ปี (68-70) โดยแบ่งสัดส่วน 70% ให้จังหวัด และ 30% ให้กลุ่มจังหวัด มีวงเงินรวมกันประมาณ 28,000 ล้านบาทต่อปี สำหรับและเป็นการจัดสรรตามโครงการที่สอดคล้องนโยบายรัฐบาล.


