xs
xsm
sm
md
lg

“สีหศักดิ์” โชว์วิสัยทัศน์นโยบายต่างประเทศ ภท.ตั้งเป้าก้าวข้ามความขัดแย้งกัมพูชา การทูตต้องมองไกลยืนบนเวทีโลกอย่างมีศักดิ์ศรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สีหศักดิ์” โชว์วิสัยทัศน์เสนอนโยบายต่างประเทศ “ภูมิใจไทย” ตั้งเป้าพาประเทศไทยก้าวพ้นความขัดแย้งกัมพูชา ชี้ การทูตไทยต้องมองไกล ยืนบนเวทีโลกอย่างมีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรี ตอบโจทย์ประเทศ เตรียมประกาศนโยบายการทูตเศรษฐกิจสัปดาห์นี้

วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ในงานแถลงนโยบายสำหรับการเลือกตั้งปี 2569 ของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้สโลแกน “พูดแล้วทำพลัส” ว่า ตนไม่เคยคิดเลยว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ แล้วมาพูดในเวทีแบบนี้ ถือเป็นครั้งแรก ตอนที่ได้รับการทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเรื่องที่คิดหนัก เพราะไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะมารับตำแหน่งมีวิกฤตรอคอยอยู่แล้ว การที่รับหน้าที่นี้นั้นอยากทำงาน เพราะมีความเชื่อว่าการต่างประเทศที่เข้มแข็งจะนำพาเราพ้นวิกฤต นำพาเราไปสู่ความมั่นคงที่ยิ่งขึ้น และจะนำพาความกินดีอยู่ดี ความก้าวหน้ามาสู่ประชาชนชาวไทย ด้วยเหตุนี้จึงรับหน้าที่นี้

นายสีหศักดิ์ กล่าวต่อว่า วันนี้มารับหน้าที่เข้าเดือนที่ 4 ก็ต้องเจอวิกฤตความสัมพันธ์กับกัมพูชา ตนคิดว่ามาถูกทางแล้ว เพราะมีผู้นำที่เข้มแข็ง และมีเอกภาพระหว่างทหารกับฝ่ายการทูต เราทำงานร่วมกัน และพูดเป็นเสียงเดียวกัน ไทยมีเอกภาพในการปกป้องคุ้มครองอธิปไตยของไทย และศักดิ์ศรีของประเทศไทย แน่นอนว่า ไทยพร้อมที่จะเปิดประตูสำหรับการพูดคุยเจรจาเพราะความขัดแย้งต้องจบที่การเจรจาพูดคุย แต่การเจรจานั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายมีความพร้อม และความจริงใจ ซึ่งไทยรอคอยอยู่

อีก 4 ปีข้างหน้า ตนหวังว่า ไทยจะก้าวพ้นความขัดแย้งในปัจจุบัน และการต่างประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า จะสร้างโอกาสให้กับประเทศไทยและสร้างโอกาสให้กับประชาชนชาวไทย ทำให้ไทยกลับมาสู่แนวหน้าของประชาคมโลก ทำให้ไทยมีบทบาทนำในเวทีระหว่างประเทศและอยู่ในเวทีอย่างมีเกียรติภูมิและมีศักดิ์ศรี

นายสีหศักดิ์ กล่าวอีกว่า หัวใจสำคัญของการดำเนินนโยบายต่างประเทศ คือ การบริหารความสมดุลระหว่างการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและยุทธศาสตร์ระยะยาว โดยในระยะสั้น ไทยจำเป็นต้องก้าวพ้นความขัดแย้งกับกัมพูชา และมีบทบาทเชิงรุกในการส่งเสริมเสถียรภาพในเมียนมา เพื่อคืนสันติภาพให้ภูมิภาค

อีกทั้งเราต้องการเห็นชายแดนที่มั่นคงและเชื่อมโยงกัน เป็นชายแดนที่ปราศจากอาชญากรรม โดยเฉพาะยาเสพติดและขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หากเพื่อนบ้านก้าวหน้าและมีสันติภาพ ก็จะเป็นโอกาสให้ไทยได้ขยายการค้าและการลงทุน

ในส่วนของยุทธศาสตร์ระยะยาว นายสีหศักดิ์ มองว่า โลกกำลังเข้าสู่ภาวะไร้ระเบียบ จากการแข่งขันของมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย อินเดีย และกลุ่มประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิก ดังนั้น ไทยต้องรักษาความสัมพันธ์กับทุกฝ่ายโดยไม่เลือกข้าง พร้อมใช้กลไกอาเซียนเป็นภูมิต้านทาน และสร้างอำนาจต่อรองในด้านเทคโนโลยี และห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่า การทูตไทยต้องมองไกลกว่าผลประโยชน์ใกล้ตัว เพื่อสร้างศักดิ์ศรีบนเวทีโลก โดยไทยควรมีบทบาทนำในประเด็นสากล อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change), การป้องกันโรคระบาด, การต่อต้านการค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติ

นายสีหศักดิ์ ย้ำว่า การต่างประเทศที่แข็งแกร่งต้องเริ่มต้นจากบ้าน (Foreign policy begins at home) หรือความพร้อมภายในประเทศ โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อกำหนดหนทางและยุทธศาสตร์ที่เป็นเอกภาพ โดยเฉพาะการทำงานในรูปแบบทีมไทยแลนด์ ที่บูรณาการทุกส่วนราชการและภาคเอกชนเข้าด้วยกัน จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การดำเนินนโยบายต่างประเทศมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่ความมั่นคง และความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

นายสีหศักดิ์ ชี้ว่า การทูตต่างประเทศต้องตอบโจทย์ของประเทศ คือ การพัฒนาเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นในสัปดาห์หน้านี้จะมีการประกาศนโยบายการทูตเศรษฐกิจ ซึ่งต่อไปนี้สถานทูต สถานกงสุลใหญ่ ซึ่งมีเกือบ 100 ประเทศ ต้องหันมาทำงานด้านเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่แบบเดิมๆ ที่เป็นการหาตลาด ส่งเสริมการลงทุน ทูตจะต้องทำงานแบบมีเป้าหมาย walk the talk โดยการเข้าหา และเข้าถึง ดังนั้นการทูตเศรษฐกิจถือเป็นส่วนสำคัญของนโยบายต่างประเทศภายใต้พรรคภูมิใจไทย

ส่วนการต่างประเทศในสังคมประชาธิปไตยนั้น ประชาชนต้องมีส่วนรับรู้ และมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เราต้องทำงานร่วมกับภาคประชาสังคมด้วย แม้จะเบื่อที่ต้องออกข่าว ให้สัมภาษณ์ แต่เพราะนี่ถือเป็นการต่างประเทศที่ตรวจสอบได้ โปร่งใส และประชาชนเข้าใจสนับสนุนการดำเนินการทางด้านการทูตและการต่างประเทศ

ท้ายที่สุด ยุทธศาสตร์การต่างประเทศของเรา การทูตของเรา ต้องมุ่งสู่ที่ประเทศไทยจะอยู่ในเวทีโลกอย่างมีเกียรติภูมิ มีศักดิ์ศรี และผลักดันผลประโยชน์ของประเทศไทยทุกด้านเพื่อให้ไทยอยู่ในแนวหน้าของประชาคมโลกและเพื่อให้ไทยเป็นไทยในเวทีโลก


กำลังโหลดความคิดเห็น