xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อไทย” รับฟังปัญหาชาวนาอยุธยา เจอพิษ “ข้าวดีด” หลังห้ามเผาฟาง ดันกฎหมายข้าวแก้ยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สมศักดิ์–อนุชา” พา “จิรทัศ” ลงพื้นที่อยุธยา ฟังชาวนาสะท้อนปัญหา “ข้าวดีด” ระบาดจากผลพวงห้ามเผาฟาง ทำผลผลิตลดฮวบ ต้นทุนพุ่ง ชี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุ เร่งผลักดันกฎหมายข้าว วางโครงสร้างราคายั่งยืน

วันนี้( 18 ธ.ค. 2568 )นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีต สส.จังหวัดชัยนาท และนายจิรทัศ ไกรเดชา ผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งสส. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่พบปะและรับฟังความคิดเห็นพี่น้องประชาชนและเกษตรกร ที่ตำบลเจ้าเสด็จ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรับฟังปัญหาจริงจากพี่น้องเกษตรกร เพื่อนำไปกำหนดเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยย้ำว่านโยบายของพรรคการเมืองไม่สามารถเขียนขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลหรือไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงได้ ซึ่งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันนโยบายหลายด้านจนประสบความสำเร็จและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนมาแล้ว


นายสมศักดิ์ ระบุว่า จากการรับฟังปัญหาพบว่ามาตรการห้ามเผาฟางข้าวของภาครัฐ ส่งผลให้เกิด “ข้าวดีด” ซึ่งเป็นวัชพืชในนาข้าว ทำให้ผลผลิตลดลง และต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น โดยเกษตรกรสะท้อนว่า การทำนาในพื้นที่ประมาณ 70 ไร่ ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 30,000 บาท หรือเฉลี่ยไร่ละประมาณ 6,000 บาท

“ถ้าไม่เผาฟาง ข้าวดีดจะเพิ่มขึ้น ผลผลิตลดลง ต้นทุนสูงขึ้น ดังนั้น การช่วยเกษตรกรต้องคิดต้นทุนใหม่ทั้งหมด และควรคิดกำไรให้เกษตรกรอย่างน้อย 30% เพื่อให้ไม่ว่าราคาข้าวจะขึ้นหรือลง ชาวนาก็ยังมีกำไรจากการลงทุน” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ ยังย้ำว่า การแก้ปัญหาเกษตรต้องทำอย่างยั่งยืนด้วยการผลักดัน “กฎหมายข้าว” โดยกำหนดโครงสร้างต้นทุนและผลตอบแทนที่เป็นธรรม ซึ่ง ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องร่วมกันผลักดันกฎหมายดังกล่าวให้เกิดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นทุกปี พร้อมระบุว่า พรรคเพื่อไทยยังมีแนวคิดช่วยเกษตรกรทางอ้อม เช่น การปรับลดพื้นที่ปลูกข้าว หันไปปลูกพืชพลังงานเพื่อลดปริมาณข้าวล้นตลาด และการส่งเสริมการปลูกอ้อย ซึ่งมีกฎหมายแบ่งปันผลประโยชน์ เกษตรกรได้ 70% โรงงานได้ 30% และเตรียมเสนอปรับสัดส่วนให้เกษตรกรได้รับประโยชน์มากขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น


ด้านนายอนุชากล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนและนายสมศักดิ์ ได้ร่วมกันผลักดันการช่วยเหลือเกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงวัว ที่ช่วยให้เกษตรกรจำนวนมากมีรายได้เพิ่ม จนสามารถจับเงินแสนเงินล้านได้ จึงมีความเข้าใจปัญหาของเกษตรกรเป็นอย่างดี และขอให้เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยสามารถช่วยเหลือคนยากคนจนได้จริง เหมือนที่เคยทำมาแล้วในอดีต


ขณะที่นายจิรทัศกล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการประสานเชิญนายสมศักดิ์และนายอนุชา มารับฟังปัญหาชาวนาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อนำไปกำหนดเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยตนพร้อมทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในพื้นที่ ร่วมผลักดันการจัดทำ พ.ร.บ.ข้าว และจะนำพี่น้องเกษตรกรยื่นหนังสือ ติดตามปัญหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้


นอกจากนี้ ตัวแทนแกนนำชาวนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สะท้อนว่า ปัจจุบันต้นทุนการทำนาอยู่ที่ประมาณไร่ละ 6,000 บาท ทั้งจากปัญหาข้าวดีด ค่าน้ำมัน และค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำเข้าออกพื้นที่ จึงอยากให้ภาครัฐพิจารณาการันตีราคาข้าวดิบที่ตันละ 8,000 บาท เพื่อให้เกษตรกรสามารถอยู่รอดได้ พร้อมเห็นด้วยกับแนวคิดการจัดทำกฎหมายข้าว และการคิดต้นทุนใหม่อย่างเป็นธรรม รวมถึงการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยเฉพาะในพื้นที่รับน้ำท่วมอย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น