xs
xsm
sm
md
lg

สกัดน้ำมันปิดเกม “ฮุน เซน” สิ้นสภาพ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กำลังล่วงเข้าสู่วันที่ 10 แล้ว และหากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วก็ต้องยอมรับว่า ฝ่ายกองทัพไทยกำลังได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการยึดคืนพื้นที่สำคัญ พื้นที่ยุทธศาสตร์ได้เพิ่มมากขึ้น เพียงแต่ว่ายังไม่เผด็จศึกให้เด็ดขาดเท่านั้นเอง แต่เอาเป็นว่าเริ่มมองเห็นฝ่าย ฮุน เซน อ่อนแรงลงไปมาก เพราะจากการแถลงความ

คืบหน้าของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2568 (เวลา 11.00 น.) ดังนี้

จากการประเมินสถานการณ์ในภาพรวมในห้วง 8 วันที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากการปฏิบัติของฝ่ายเราในหลายพื้นที่สำคัญ โดยมีแนวโน้มการปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายเราในห้วงเวลา ดังนี้

พื้นที่ช่องบก : ฝ่ายกัมพูชาเร่งเสริมความแข็งแรงของที่มั่น ปรับกำลังเข้าสู่การตั้งรับเต็มรูปแบบ มีเป้าหมายชัดเจนในการยึดตรึงกำลังฝ่ายเรา และชะลอการรุกให้ได้นานที่สุด

พื้นที่ช่องอานม้า : ฝ่ายกัมพูชาประสบปัญหาการบังคับบัญชาอย่างรุนแรง สถานการณ์บีบคั้นจนมีแนวโน้มต้องถอนตัวไปยังแนวต้านทานที่ 2 มิฉะนั้นอาจถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์

พื้นที่สัตตะโสม-โดนตรวล-ซำแต : ฝ่ายกัมพูชาใช้การยิงสนับสนุนแบบ “ยิงแล้วย้ายฐาน” เพื่อลดความเสี่ยงจากการยิงโต้ตอบของฝ่ายเรา สะท้อนถึงความพยายามเอาตัวรอดท่ามกลางการครองอำนาจการยิงของฝ่ายเรา

พื้นที่พระวิหาร-ห้วยตามาเรีย : ฝ่ายกัมพูชาจำกัดการเคลื่อนไหว ซ่อนพรางกำลังและยุทโธปกรณ์อย่างเข้มงวด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและการทำลายจากอำนาจการยิงของฝ่ายเรา

พื้นที่ภูมะเขือ : จุดตรวจการณ์สำคัญแห่งนี้ถูกฝ่ายกัมพูชาระดมยิงกดดันอย่างต่อเนื่องเพื่อจำกัดการตรวจการณ์และการชี้เป้าของฝ่ายเรา

พื้นที่ช่องจอม-ช่องระยี-ปลดต่าง : เส้นทางส่งกำลังบำรุงของฝ่ายกัมพูชาถูกตัดขาดอย่างมีนัยสำคัญ พื้นที่ส่วนหลังเริ่มมีความเสี่ยง ซึ่งถือเป็นปัจจัยวิกฤตต่อการดำรงกำลังในพื้นที่แนวหน้า

พื้นที่ช่องคนา : ฝ่ายกัมพูชาพยายามรวมอำนาจการยิงด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เพื่อยิงรบกวน แต่การปฏิบัติดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกตรวจจับและทำลายของฝ่ายเรา

พื้นที่ปราสาทตาควาย-เนิน 350 : ฝ่ายกัมพูชามีแนวโน้มดำรงการรบแบบหน่วงเวลา ใช้ที่มั่นดัดแปลงแข็งแรงและยุทธวิธีซุ่มโจมตี เพื่อยึดตรึงกำลังฝ่ายเราและซื้อเวลา

พื้นที่ช่องกร่าง : ฝ่ายกัมพูชายิงฉากป้องกันตามคำขอเพื่อขัดขวางการรุกของฝ่ายเรา เมื่อเข้าสู่พื้นที่สังหาร ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมาฝ่ายเราได้รับความสูญเสียพื้นที่ปราสาทตาเมือน : ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียขีดความสามารถในการรบอย่างชัดเจน จากการขาดแคลนอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และยานเกราะ มีแนวโน้มต้องถอนตัว หรืออาจเลือกต้านทานเป็นระลอกสุดท้าย เพื่อรักษาเกียรติภูมิของหน่วย

เอาเป็นว่าจากการรายงานของกองทัพภาคที่ 2 ที่ยืนยันได้ว่าในการสู้รบเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ทางฝ่ายกัมพูชามีการตอบโต้กลับมาแบบเบาบางกว่าทุกวันอย่างมีนัยสำคัญ 

หากพิจารณากันตามสภาพแล้วยังทำให้มั่นใจได้ว่า การสู้รบในวันต่อไปน่าจะทำให้ฝ่ายกองทัพไทยสามารถรุกคืบเข้ายึดพื้นที่สำคัญกลับคืนมาได้เพิ่มเติมเรื่อยๆ

อย่างไรก็ดีแม้ว่ามองในภาพรวมแล้วฝ่ายกัมพูชาเริ่มอ่อนแรงลงไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถเผด็จศึก แบบให้ “สิ้นสภาพ” ลงไปได้ ก็เนื่องจากยังมีการ “ส่งน้ำมัน” ข้ามแดนไปยังกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางบกและทางทะเล โดยทางบกอาจผ่านทางลาวแล้วข้ามแดนไปกัมพูชาอีกทอดหนึ่ง จนล่าสุดที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ก็ให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของฝ่ายกองทัพที่ให้เข้มงวด หรือสกัดกั้นการส่งออกน้ำมันและสินค้ายุทธปัจจัยข้ามแดนไปยังกัมพูชา โดยเฉพาะการห้ามเรือบรรทุกน้ำมันของไทย และติดธงไทยข้ามแดนไปฝั่งกัมพูชา

แน่นอนว่าการสั่งห้ามหรือเข้มงวดเรื่องน้ำมันข้ามแดนไปยังกัมพูชา โดยผ่านลาวนั้นอาจเป็นเรื่องยากในการตรวจสอบ แต่การเข้มงวดแบบนี้ถือว่าเป็นการ “สกัดกั้น” ได้ทางหนึ่งเหมือนกัน ขณะเดียวกันในทางทะเลเมื่อมีการสั่งห้ามแล้วก็ต้องมีการเปิดโปงและดำเนินคดีกับ “นายทุน” เหล่านั้นว่าเป็นใครและบริษัทใดบ้าง เนื่องจากในวงการย่อมรู้กันอยู่แล้ว เพราะคนพวกนี้จะว่าไปถือว่า “ไร้จิตสำนึก” เป็นพวก “ค้าสงคราม” รัฐบาลต้องจริงจัง และเอาจริง

 ดังนั้นเมื่อพิจารณาตามรูปการณ์แล้วนาทีนี้และแนวโน้มข้างหน้าถือว่าทหารไทยกำลังรุกคืบหน้าอย่างชัดเจน และกำลังยึดคืนพื้นที่สำคัญกลับมาได้มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน “ไม้เด็ด” สำคัญในเวลานี้ก็คือ “เข้มงวดเรื่องน้ำมัน” ไม่ให้ข้ามแดนไปเติมให้กัมพูชา หากทำได้ นั่นแหละจะทำให้พวกเขา “สิ้นสภาพ” ได้เร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีอีกด้านหนึ่งก็ต้องกระชากหน้ากาก “นายทุนพลังงาน” พวกนี้ออกมาว่าเป็นใครบ้าง !!


กำลังโหลดความคิดเห็น