อดีต สว.“รสนา” ย้อนเหตุการณ์น้ำท่วมปี 54 บ้านอยู่ฝั่งธนบุรี ต้องร่วมแรงร่วมมือกับประชาชนผลักดันน้ำเอง เป็นบทเรียน อย่ารอคำว่า “เอาอยู่” ส่งกำลังใจถึงชาวใต้ แนะรัฐต้องชดเชยอย่างเป็นธรรม
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร Rosana Tositrakul เผยบทเรียนสำคัญจากประสบการณ์สู้ภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ปี 2554 เปรียบเทียบกับสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในจังหวัดสงขลา และเขตหาดใหญ่ในปีนี้ โดยชี้ว่า ประชาชนต้องหาข้อมูลเองด้วย และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ อย่ารอเพียงคำยืนยันจากทางการว่าเอาอยู่ พร้อมกับได้กล่าวถึงข่าวบ้านหลังหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ ที่สามารถป้องกันน้ำท่วมไว้ได้ ด้วยการเตรียมอุปกรณ์ล่วงหน้าครบชุด ทั้งผ้าพลาสติก เครื่องปั่นไฟ เครื่องสูบน้ำ และน้ำมันสำรอง ซึ่งสะท้อนบทเรียนว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติ ประชาชนต้องช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด ไม่อาจรอความช่วยเหลือจากรัฐได้ทันเวลาเสมอไป
“บทเรียน สู้ภัยพิบัติน้ำท่วมประชาชนต้องหาข้อมูลเองด้วย อย่ารอข้อมูลทางการเท่านั้น!
ได้อ่านข่าวบ้านที่ป้องกันน้ำท่วมได้ 1 หลังที่หาดใหญ่ ด้วยการหาอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมบ้านทั้งผ้าพลาสติก เครื่องปั่นไฟ เครื่องสูบน้ำ พร้อมน้ำมันเติมเครื่องสูบน้ำ เป็นตัวอย่างที่ประชาชนต้องช่วยเหลือตัวเองยามเกิดภัยพิบัติ
กรณีนี้ทำให้ดิฉันนึกถึงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ ฝั่งธนบุรีและอีกหลายจังหวัดเมื่อปี 2554 ได้ดี ตอนนั้นดิฉันยังเป็นสมาชิกวุฒิสภาของ กทม. ได้ทำหน้าที่ร่วมกับสมาชิกวุฒิสภาหลายกรรมาธิการ (กมธ) และอีกหลายหน่วยงานช่วยกันผลักดันน้ำตามคลองแนวดิ่งตั้งแต่คลองพระยาราชมนตรี คลองสนามชัย คลองเลนเปน ฯลฯ เพื่อช่วยดึงน้ำจากผิวถนนลงคลองแนวดิ่งไหลออกสู่ทะเลทำให้ถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักเชื่อมต่อกรุงเทพฯ ลงภาคใต้ ไม่ให้จมน้ำตามการคาดการณ์ของรัฐบาล
นั่นคือ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันน้ำท่วมฝั่งธนบุรีที่ตามนโยบายรัฐบาล ยอมทิ้งธนบุรีเพื่อรักษากรุงเทพฝั่งพระนครนั่นเอง
เมื่อดิฉันไปทำหน้าที่ป้องกันน้ำท่วมเมือง คนในครอบครัวเราก็ต้องทำหน้าที่ป้องกันน้ำท่วมบ้านไปด้วย โดยที่ก่อนน้ำมาถึง กทม. ครอบครัวเราก็เฝ้าติดตามข้อมูลว่ากองทัพน้ำที่เดินทางผ่านมาหลายจังหวัดเพื่อหาทางลงทะเล จะผ่านมาทางบ้านของเราหรือไม่
บ้านดิฉันอยู่หลังพุทธมณฑล ซึ่งเป็นชายเขตแดน กทม.ฝั่งธนบุรี และชายเขตแดนนครปฐม ตอนที่กองทัพน้ำค่อยๆ เคลื่อนผ่านจังหวัดต่างๆ เราเฝ้าติดตามข้อมูลจนมีความแน่ใจว่ากองทัพน้ำผ่านมาแถบนี้ค่อนข้างแน่นอน
ในขณะที่รัฐบาลยังประกาศว่า “เอาอยู่” ประกอบกับเทศบาลตำบลก็ประกาศว่าน้ำไม่ท่วมแน่นอน เพราะน้ำไม่เคยท่วมพุทธมณฑล ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าน้ำจะไม่ท่วมพุทธมณฑล
เราเริ่มก่อกำแพงอิฐมอญกั้นประตูหน้าบ้าน ส่วนกำแพงบ้านอีก 3 ด้าน เป็นกำแพงซีเมนต์อยู่แล้ว เพียงแต่อุดช่องโหว่รอบตีนกำแพงก็เสริมความแข็งแรง เราเตรียมเครื่องสูบน้ำหลายเครื่อง พร้อมกระสอบทราย และน้ำมันเติมเครื่องสูบน้ำ และซื้อเรือประมงพร้อมเครื่องเรือจากเพื่อนชาวประมงที่ประจวบคีรีขันธ์ไว้ด้วย ขนาดเรือสามารถบรรทุกรถมอเตอร์ไซค์ได้ 2 คัน และเราเอารถไปฝากไว้ที่โรงแรมของเพื่อนก่อนน้องน้ำจะมาถึงด้วย
เมื่อกองทัพน้องน้ำผ่านทางรถไฟสายใต้ที่ศาลายา นอกจากเราเตรียมอุปกรณ์ไว้แล้วล่วงหน้า เราก็อุดท่อระบายน้ำที่เข้าบ้าน ในกระบวนการป้องกันน้ำท่วมบ้าน เราจะเลี้ยงน้ำไว้ในบริเวณบ้าน ราว 0.2 เมตร เพื่ิอถ่วงดุลแรงดันน้ำภายนอกบ้านที่ต่างระดับกันมาก เมื่อน้ำสูงกว่า 0.2 เมตรก็จะสูบน้ำออกไปนอกบ้าน
ก่อนน้ำมา เพื่อนบ้านเห็นบ้านเราก่อผนังอิฐกันหน้าบ้านถึงกับแซวว่า “ถ้าน้ำไม่ท่วม เป็นเคืองนะ” แถวบ้านเรา ไม่มีบ้านไหนป้องกันน้ำท่วมเพราะทางการยืนยันว่าน้ำไม่ท่วม !!!
บ้านดิฉันอยู่ใกล้วัดญาณเวศกวัน เราได้ไปคุยกับพระผู้ใหญ่ที่สนิทคุ้นเคยกัน ว่า มีโอกาสที่น้ำจะมา ควรเตรียมยกของขึ้นที่สูง ขยับปลักไฟต่างๆ ขึ้นสูงเพื่อป้องกันไฟดูด ไฟช็อตถ้าเกิดน้ำท่วม
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็บอก “เอาอยู่” แบบเดียวกับนายกเทศบาลหาดใหญ่ที่บอกชาวบ้านว่า “เอาอยู่” ทั้งที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และฝ่ายบริหารของ กทม.สมัยนั้นมีแผนว่าถ้าน้ำมาถีง กทม.จะปล่อยให้ท่วมฝั่งธนบุรี เพื่อป้องกันไม่ให้ฝั่งพระนครที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญเกิดน้ำท่วมสูง
ในที่สุดกองทัพน้องน้ำก็เข้ามาทางคลองมหาสวัสดิ์ เเละข้ามทางรถไฟสายใต้ที่ศาลายาเข้าพื้นที่ฝั่งธนบุรี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2554 นักวิชาการกล่าวว่าเมื่อมวลน้ำข้ามทางรถไฟสายใต้ ฝั่งธนฯจะท่วม ช่วยอะไรไม่ได้ รวมทั้งถนนพระรามสองด้วย ต้องท่วมแน่นอน ทำอะไรไม่ได้ รัฐบาลจึงทิ้งถนนพระรามสอง ทั้งที่เป็นถนนสำคัญที่ลงสู่ภาคใต้ ตอนนั้น พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงอยู่ระหว่างเร่งกู้ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง-สุพรรณบุรี และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ช่วงสมบัติบุรี ซึ่งเป็นทางเลี่ยงที่จะลงสู่ภาคใต้ได้ หากถนนพระราม 2 น้ำท่วม จนไม่สามารถสัญจรได้
มวลน้ำสะสมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสูงสุดประมาณ 1.7 เมตร ที่หน้าบ้านของดิฉันซึ่งอยู่ในแอ่งกระทะย่อมๆ ที่ถูกล้อมด้วยกรอบแนวถนน 4 ด้าน คือ พุทธมณฑลสาย 4 พุทธมณฑลสาย 5 ถนนบรมราชชนนีต่อกับถนนนครชัยศรี และถนนเพชรเกษม ส่วนในพื้นที่พุทธมณฑลอยู่ต่ำกว่าถนนพุทธมณฑลสาย 4 ระดับน้ำน่าจะสูงเกิน 2 เมตร ในบางจุด
กล่าวกันว่า น้ำท่วมปี 2554 เป็นน้ำท่วมที่ถูกกำหนดโดยฝ่ายการเมืองไม่ให้ท่วมเขตมีนบุรี จึงผันน้ำมาทางดอนเมือง เรียกว่าเป็น Managed flood รัฐบาลยอมปล่อยให้น้ำท่วมดอนเมือง ดอนเมืองต้องหยุดการบินเมื่อน้ำท่วมสนามบิน และสละพื้นที่ฝั่งธนบุรี เพื่อป้องกันน้ำท่วมใจกลางกรุงเทพฯฝั่งพระนครที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญ รัฐบาลประกาศทิ้งถนนพระรามสองเพราะเชื่อว่าไม่สามารถรักษาถนนพระรามสองได้ แม้เป็นเส้นทางสำคัญลงภาคใต้ และวางแผนกู้ถนน 340 เป็นทางเลี่ยงลงภาคใต้แทน
ในขณะที่ถนนบรมราชชนนี และถนนเพชรเกษม น้ำท่วมสูง แต่คลองแนวดิ่งของฝั่งธนบุรีแห้งผาก มีขยะจากวัชพืช ขยะที่นอน สิ่งของอื่นๆ และตอม่อจากการก่อสร้างทิ้งอยู่ในลำคลอง ดิฉันและเพื่อนสมาชิกวุฒิสภาหลายคณะกรรมาธิการ ได้รับข้อเสนอจากแกนนำชาวบ้านริมคลองให้เคลียร์คลองแนวดิ่งที่มีอยู่มากมายในฝั่งธนบุรี เพื่อให้น้ำบนถนนมีทางลง เเละเสนอให้วางเครื่องผลักดันน้ำตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้มวลน้ำไหลลงทะเลให้เร็วที่สุดผ่านคลองแนวดิ่งในฝั่งธนบุรี ที่มีอยู่มากมายเช่นคลองพระยาราชมนตรีที่ปลายทางมีเครื่องสูบน้ำจำนวนมาก แต่ไม่มีน้ำให้สูบออกทะเล
ดิฉันประสานขอความช่วยเหลือจากหลากหลายหน่วยราชการ เช่น รองผู้ว่าฯ กทม.และสำนักระบายน้ำของ กทม. อนุญาตให้ใช้คลองแนวดิ่งวางเครื่องผลักดันน้ำ การไฟฟ้านครหลวงด้านไฟฟ้าสำหรับเครื่องผลักดันน้ำ ประสานกรมชลประทาน และกรมอู่ทหารเรือ ขอยืมเครื่องผลักดันน้ำ และขอน้ำมันมาใช้ในการผลักดันน้ำในคลอง นอกจากนี้ เพื่อนวุฒิสภาสายทหาร ได้ประสานขอทหารมาช่วยขุดลอกคลองแนวดิ่งที่มีเครื่องกีดขวางการไหลของน้ำ แกนนำชาวบ้านริมคลองฝั่งธนบุรี ช่วยกันคิดประดิษฐ์เครื่องผลักดันน้ำทำจากเครื่องเรือหางยาวในระยะแรก และเป็นผู้ให้คำปรึกษาการวางเครื่องผลักดันน้ำของกรมอู่ทหารเรือ และของกรมลประทานในคลองตามจุดต่างๆ และช่วยกันเฝ้าเครื่องผลักดันน้ำ ตลอดลำคลองที่วางไว้แต่ละจุด ยังมีบริษัทเอกชนอย่าง SCG และประชาชนทั่วไปที่สนับสนุนบริจาคทุนเพื่อใช้ในโครงการดำเนินการผลักดันน้ำ ต่อมารายงานของกรมชลประทานได้สรุปผลว่า “การผลักดันน้ำในคลองแนวดิ่งช่วยให้น้ำไหลลงทะเลเร็วขึ้นมาก จนน้ำไม่ท่วมถนนพระรามสอง” ซึ่งทำให้ถนนพระรามสองยังสามารถใช้สัญจรลงใต้ได้โดยไม่ต้องอ้อมลงใต้ด้วยถนน 340
ในระหว่างที่ดิฉันเดินทางเข้าบ้านไม่ได้เพราะน้ำท่วมสูง ดิฉันไปทำหน้าที่กู้ถนนพระรามสอง ส่วนพ่อบ้านและลูกหลานดิฉัน ก็ทำหน้าที่ป้องกันน้ำท่วมบ้าน ท่ามกลางปริมาณน้ำที่ท่วมพุทธมณฑลและพื้นที่โดยรอบ ระยะแรกมีความสูงเฉลี่ย 1.7-2 เมตร น้ำท่วมเป็นระยะเวลาเกิน 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม - 10 ธันวาคม 2554 ทำให้พื้นที่ 2,500 ไร่ ในพุทธมณฑล ถนนบรมราชชนนี ถนนเพชรเกษม ย่านฝั่งธนฯจมน้ำมองโดยรอบราวกับทะเล
บ้านดิฉันเป็นบ้านหลังเดียวหลังพุทธมณฑลที่รอดจากน้ำท่วม เรือประมงที่ซื้อไว้ได้ใช้ประโยชน์ในการรับส่งผู้คน นอกจากนี้ทางวุฒิสภาได้ส่งเรือไฟเบอร์หลายลำมาให้วัดญาณเวศวันใช้ส่งอาหารสุกช่วยเหลือชาวบ้านรอบๆ ที่น้ำท่วมบ้าน
น้ำที่ท่วมบริเวณบ้านดิฉันที่อยู่หลังพุทธมณฑล สูงสุด 1.7 เมตร และค่อยๆลดระดับลงจนนิ่งอยู่ที่ 0.80 เมตรถึงปลายเดือนพฤศจิกายน และค่อยๆลดระดับจนสามารถสัญจรได้โดยไม่ต้องใช้เรือเมื่อประมาณ 10 ธันวาคม 2554
การผลักดันน้ำที่คลองแนวดิ่งเพื่อป้องกันน้ำท่วมถนนพระรามสองยุติลงด้วยการถอนอุปกรณ์เรือผลักดันน้ำทุกเครื่องได้ในวันพระเจ้าตากสินมหาราชคือวันที่ 28 ธันวาคม 2554
ในปีนี้ภัยพิบัติเกิดอย่างมหาศาลกับหาดใหญ่และภาคใต้ตอนล่าง สำหรับ กทม.ในปีนี้รอดจากน้ำท่วมไปได้ด้วยการเสียสละของอีกหลายจังหวัดในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ที่ต้องทนทุกข์จากการจมอยู่กับทะเลเทียมที่เป็นอ่างเก็บน้ำไว้ในพื้นที่เป็นเวลา 4-5 เดือน จึงหวังให้รัฐบาลได้ชดเชยชาวบ้านทุกครอบครัวอย่างเต็มที่ ที่ต้องแบกรับน้ำท่วมแทนคน กทม.”


