xs
xsm
sm
md
lg

ปลอดประสพชี้ “หาดใหญ่ล่มอีกแล้ว” ท่วมซ้ำซาก ขาดแคลนอาหาร! จี้รัฐบาลสั่งการเข้ม ห้ามประมาท-ตั้งศูนย์บัญชาการด่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตรองนายกฯ ปลอดประสพ สุรัสวดี ออกโรงโพสต์ จี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่รอบใหม่ เผยน้ำหลากเร็วจากภูเขา ขาดการเตรียมการ-อพยพ ลั่นไม่เห็นทหารลงพื้นที่ช่วย ชี้ชาวบ้านต้องการอาหาร ไม่ใช่เงินเยียวยา!

จากกรณีน้ำท่วมหรืออุทกภัยที่เกิดในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ครั้งนี้ แม้จะไม่รุนแรงเฉกเช่นที่เคยเกิดเมื่อปี 2543 ที่จำนวนมวลน้ำถล่มมหานครหาดใหญ่มากกว่าและระดับความท่วมของน้ำสูงกว่า และยังคงมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถอพยพออกมาจากพื้นที่ได้อยู่อีกจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ชี้หาดใหญ่เผชิญน้ำท่วมหนักซ้ำหลายรอบภายในเวลาอันสั้น ส่งผลให้ประชาชนขาดแคลนอาหาร ขณะเดียวกันนายกฯ อนุทินลงพื้นที่ถึง 2 ครั้งใน 24 ชั่วโมง แต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากหาดใหญ่รับน้ำป่าจากภูเขาใกล้พื้นที่ ทำให้น้ำหลากเร็ว ต่างจากกรุงเทพฯ ที่มีระบบกั้นน้ำและเขื่อนรองรับ

อดีตรองนายกฯ ชี้ว่าฝนตกสะสมกว่า 600 มม. ทำให้น้ำท่วมหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเตรียมการและการอพยพล่าช้า ขาดการช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะทหาร

พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขระยะยาว เช่น ขยายคลองอู่ตะเภา-คลอง ร.1 เจาะถนนให้ระบายน้ำ รื้อประตูน้ำเก่า สร้างอุโมงค์ระบายผันน้ำ และทำเขื่อนกั้นน้ำจุดสำคัญ รวมถึงควรตั้งศูนย์บัญชาการระดับรัฐบาลเพื่อจัดการแบบรวมศูนย์

เจ้าตัวย้ำว่าในภาวะวิกฤต ประชาชนต้องการการสั่งการที่เข้มแข็งและการช่วยเหลือเรื่องอาหารมากกว่าเงินเยียวยา และมองว่าการประสานงานของหน่วยงานรัฐยังเต็มไปด้วยความสับสนและประมาท ทั้งนี้ นายปลอดประสพได้ระบุข้อความว่า

"หาดใหญ่ ล่มอีกแล้ว ไม่มีข้าวกินด้วย

แปลกไหม ภายใน 24 ชม. นายกฯ อนุทินไปหาดใหญ่ถึง 2 ครั้ง ท่านบอกว่านอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วง น่าจะเพราะบริหารจัดการเรื่องน้ำท่วมครั้งแรกไม่เบ็ดเสร็จเรียบร้อย คือยิ่งไปยิ่งท่วม ถึงตอนนี้ก็ท่วมมา 2 รอบแล้ว และก็กำลังจะเกิดรอบ 3 ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอนจากเทือกเขาสันกาลาคีรี อ.สะเดา

ขอตั้งข้อสังเกตว่า กทม. และหาดใหญ่ก็มีสภาพทางภูมิศาสตร์และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจคล้ายกัน เช่น กทม. มีแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านเมือง ในขณะที่หาดใหญ่มีครองอู่ตะเภายาว 116 กม. และคลอง ร.1 ที่ ร.๙ ทรงสร้างเพื่อช่วยระบายน้ำไหลผ่านเมืองเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างในทางอุทกวิทยาและภูมิศาสตร์คือ กทม. รับน้ำจากภูเขาและแม่น้ำ 4 สายใหญ่ทางเหนือซึ่งห่างไป 900 กม. และใช้เวลา 2 อาทิตย์จึงจะไหลมาถึงแถมยังมีเขื่อนสารพัดกักเก็บควบคุมไว้ แต่หาดใหญ่รับน้ำป่าจากเขาคอหงส์ เขาหลวง และเขาสันกาลาคีรีซึ่งห่างไปเพียง 100 กม. โดยไม่มีอะไรมากั้นเลย ดังนั้นภายใน 3-6 ชม. เมื่อฝนตกหนักบนภูเขา น้ำก็มาถึงหาดใหญ่แล้ว นอกจากนี้ กทม.และหาดใหญ่ล้วนเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่เป็นปากทางระบายน้ำสู่ทะเล และในช่วงท่วมเมืองก็จะเป็นช่วงน้ำทะเลขึ้นสูงสุดเหมือนกัน

อาทิตย์ที่แล้วต้องถือว่าหาดใหญ่และภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกชุกมาก ถึงขั้นพยากรณ์ได้ว่าน้ำจะท่วม ซึ่งผมก็เตือนแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ท่านคงนึกว่าตัวเองแน่ จึงไม่ฟัง แล้วตอนนี้เป็นไงครับ ฝน 5 วัน 600 มม. ถือว่าสูงมาก บนบานยังไงก็ท่วม หนีไม่พ้น การเตรียมการ การเตือนภัย การอพยพ การเตรียมอาหารล้วนไม่พอหมด แปลกมาก ผมไม่เห็นทหารสักคน ไม่เห็นรถทหารยูนิม็อกสูงๆ ออกมาช่วยราษฎรเลย มันเกิดอะไรขึ้น
ผมไม่อยากปิดบัง จึงขอแนะนำสิ่งก่อสร้างและสิ่งที่รัฐบาลควรทำ ดังนี้

1. ขยายความกว้างของคลอง ร.๑ และคลองอู่ตะเภาอีกเท่าตัว เพื่อช่วยระบายน้ำ ซึ่งจะใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท โครงการนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ได้เตรียมแบบแปลนไว้แล้ว ส่วนเงินให้ไปถาม คสช. คุณประยุทธ์ว่า เอาไปใช้ทำอะไรจึงหมดแล้ว

2. เจาะถนนที่เชื่อมหาดใหญ่กับจังหวัดสงขลาซึ่งตัดผ่านทุ่งระบายน้ำ โดยต้องเปิดหลายๆ จุด กว้างจุดละประมาณ 100 เมตร

3. ต้องรื้อประตูน้ำที่ปากระวะที่สร้างมานมนานแล้ว เพราะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ล้าสมัย ไม่ได้ใช้แล้วและทำลายระบบนิเวศ 3 น้ำ คือ น้ำเค็ม น้ำจืด และน้ำกร่อยของทะเลสาบสงขลาตอนใน เรื่องนี้ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผมจะแนะนำเชิงบังคับให้ทำเป็นสิ่งแรกเลย เมื่อไม่มีประตูน้ำที่ไม่ใช้แล้วมาขวางกั้น การระบายน้ำจากพัทลุงจะระบายง่ายขึ้น วัชพืชเช่น สาหร่าย ผักตบชวาจะหมดไป กุ้งก้ามกรามและปลากระบอกจะกลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเดิม

4. หาทางขยายหรือสร้างอุโมงค์ระบายน้ำที่ปากน้ำทะเลสาบที่คับแคบเพราะถูกทำเป็นท่าเรือในสมัยท่านนายกฯ เปรม ในครั้งนั้นเท่าที่จำได้ผู้สร้างต้องการหาจุดหนีคลื่นเท่านั้นเอง ซึ่งเรื่องนี้เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ผมก็ได้เคยให้ความเห็นคัดค้านไว้แล้ว

5. หาดใหญ่เป็นแอ่งกระทะและลุ่ม จึงรับน้ำจากทุกทิศ ยังไงหากเกิดฝนตกหนักก็ท่วมอีกแน่นอน ดังนั้นจึงต้องสร้างพนังกั้นน้ำถาวร (polder) ให้กับสถานที่สำคัญเช่น โรงพยาบาล และสนามบิน

6. การช่วยเหลือราษฎรในวันนี้ให้ทั่วถึง ต้องล่องเรือแจกอาหารตามบ้าน เหมือนที่พวกผมเคยทำที่เกาะอยุธยาเมื่อปี 2554

7. คลองเล็กคลองน้อยจำนวนมากที่ระบายน้ำออกทะเล ตอนนี้ถูกอุดตันไปหมดแล้ว ต้องเอารถไปขุดสันดอนทรายที่เกิดจากลมมรสุมออก เพื่อช่วยให้ระบายน้ำออกทะเลได้สะดวก

8. ช่วงนี้ยังมีพายุฝนอยู่ กรุณาอย่าใช้เฮลิคอปเตอร์ของลูกน้องผมทั้ง 2 กระทรวงเลย มันอันตรายมาก

9. ต้องตั้งศูนย์บัญชาการในระดับรัฐบาลเหมือนตอนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งศูนย์บัญชาการที่ดอนเมือง และให้ทุกกระทรวงมาตั้งศูนย์เป็นรายกระทรวงด้วย

ท่านนายกฯ ครับ การไปเยี่ยมราษฎร การพูดเพราะต่อประชาชนเป็นเรื่องดี แต่ยามนี้ประชาชนเขาต้องการการสั่งการที่ชัดเจน ปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เขาก็ยังไม่ต้องการเงินเยียวยา 9,000 บาทอะไรของท่าน การจะซื้อใจอะไร ก็ซื้อให้ถูกเวลาครับ น้ำท่วมครั้งนี้ผมขอตั้งข้อสังเกตถึงความสับสนอลหม่านของทุกหน่วยราชการทุกระดับ การประสานงานกันเพื่อแก้ปัญหาในช่วงวิกฤตบกพร่องในทุกระดับตั้งแต่จังหวัดลงมา และมีความประมาท"
กำลังโหลดความคิดเห็น