xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน" มอบนโยบาย ขรก.ท้องถิ่นขอนแก่น ลั่นห้ามบอกประเทศไม่ใช่ของเราคนเดียว คิดแบบนี้ประเทศบรรลัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ มอบนโยบาย ขรก.-ท้องถิ่น ขอนแก่น ขอให้เร่งอำนวยความสะดวกประชาชนคนละครึ่งพลัสเฟส 2 หลังเฟสแรกเงินเหลือเกือบ 5,000 ล้าน คาดมาจากชายขอบไม่ได้ใช้สิทธิ์ สั่งห้ามใช้คำว่าประเทศไม่ใช่ของเราคนเดียว หากล้านคนคิด ประเทศบรรลัยพอดี บอกอยู่ไม่ติดขอเปลี่ยนไฟลต์บินตรงขอนแก่น-สงขลาตรวจน้ำท่วมบ่ายนี้

เวลา 12.00 น. วันที่ 22 พ.ย.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมายังศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติไคซ์ ขอนแก่น ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตร ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ประมาณ 1,200 คน
โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาถึง นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี ที่ได้มาให้คำแนะนำในการปฏิบัติราชการและลงตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นกล่าวมอบนโยบายบนเวที โดยระบุว่า วันนี้ที่มาปฏิบัติราชการในจังหวัดขอนแก่น ตอนแรกตนคิดว่าจะเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีด้วย เพื่อติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่เมื่อเดินทางมาถึงได้ทราบสถานการณ์น้ำท่วมในเขตจังหวัดภาคใต้หลายจังหวัดที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ตนและคณะจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางลงไปที่จังหวัดสงขลา หลังจากที่ได้พบทุกท่านในที่ประชุมแห่งนี้ โดยจะพยายามทำให้ไม่เสียงาน และได้ใช้เวลาพบปะกับทุกท่านให้ครบถ้วนสมบูรณ์


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่เราได้มาพบกันในวันนี้ ถือว่าเป็นการทำความรู้จักคุ้นเคยกัน ถึงแม้ว่ารัฐบาลของตนจะมีเวลาไม่นานนัก เพราะเราเข้ามาเพื่อทำให้การเมืองเป็นปกติ นิ่งลง และคืนอำนาจให้กับประชาชน แต่เราจะทำงานให้กับพี่น้องประชาชนอย่างไม่หยุดนิ่ง และไม่ถอยหลัง เพราะหากจะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยแล้วไปรอเลือกตั้งอย่างเดียวก็คงไม่ได้ แต่ต้องดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนคู่ขนานกันไปด้วย เพื่อให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ เช่น การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ และการผลักดันราคาพืชผลทางการเกษตรให้ได้ราคาสูงที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เป็นต้น ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป แล้วบอกว่าหลังเลือกตั้งค่อยมาว่ากันอีกทีหนึ่ง ฉะนั้นเราจะใช้ทุกองคาพยพที่เรามี ขับเคลื่อนนโยบายที่ทำแล้วได้ผลเลย ด้วยเหตุนี้เราจึงมีนโยบาย Quick big win เพื่อครอบคลุมให้ทุกส่วนได้รับประโยชน์จากนโยบาย และทำให้เกิดประโยชน์ประชาชนได้มากที่สุด

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังได้ยกตัวอย่าง“นโยบายคนละครึ่งพลัส” ที่ดำเนินการมา และมีส่วนทำให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินและการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นอย่างเห็นได้ชัด และที่สำคัญพี่น้องประชาชนต้องพึงพอใจที่ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินนโยบาย และเกิดความสบายใจทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย


ส่วนการแก้ไขปัญหายาเสพติด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราเน้นการจับกุม แต่การฟื้นฟูยังทำได้ไม่ทั่วถึง ทำให้ผู้เสพกลับมาใช้ซ้ำ รัฐบาลจึงตั้งเป้าหมายลดผู้เสพ เพิ่มผู้รักษาปราบปรามผู้ค้า และทำลายแหล่งผลิตอย่างจริงจัง ซึ่งตนขอชื่นชมจังหวัดขอนแก่น ที่เป็นต้นแบบการทำงานของศูนย์คอมมูนิตี้ไอโซเลชั่น ที่มีชุมชนร่วมกันดูแล ดังนั้นขอให้ทุกท่านช่วยกันค้นหาคัดกรองผู้เสพยาเสพติดในทุกหมู่บ้าน พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูในชุมชน เพื่อนำมาฟื้นฟูและติดตามป้องกันไม่ให้กลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำอีก ขณะเดียวกันก็ต้องปราบปรามผู้ค้าและเอ็กซเรย์ยาเสพติดที่ขนถ่ายเข้ามาอย่างเด็ดขาดโดยช่วยกันสอดส่องด้วย เพราะหากลดตรงนี้ได้ ภาพรวมของประเทศก็จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่ การสร้างอาชีพและการเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้คือหัวใจของการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน เพื่อพัฒนาอาชีพ และเพิ่มตลาดรองรับการขายสินค้า จึงอยากให้จังหวัดช่วยกันผลักดันการรวมกลุ่มอาชีพ ด้วยการจัดทำแผนงานสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ที่สามารถวัดผลได้จริง เชื่อมโยงกับนโยบายของรัฐบาลคือ สนับสนุนสินค้าไทย เช่น OTOP ซึ่งตนเคยให้หลักไว้ว่าคนต้องซื้อด้วยคุณภาพไม่ใช่เพราะความสงสาร

สำหรับการส่งเสริมการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพื่อเป็นช่องทางทำให้เกิดเงินทุนหมุนเวียน และกระจายรายได้ในพื้นที่โดยตรง โดยเน้นจุดแข็งในการทำขนบธรรมเนียมประเพณี และธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ ให้สามารถที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ ขณะที่ จังหวัดขอนแก่นต้องทำให้จังหวัดเป็นศูนย์กลางสร้างเศรษฐกิจในเขตอีสานควบคู่กับจังหวัดใกล้เคียงรวมกันเป็นภูมิภาค เพราะต่อไปจะมีรถไฟ ที่จะช่วยเพิ่มการคมนาคมขนส่งสินค้าอีกช่องทางหนึ่ง และทำให้เกิดโอกาสในการจ้างงานมากยิ่งขึ้น


ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย นายกรัฐมนตรี ขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เร่งทำน้ำสะอาดให้กับประชาชน และทำให้น้ำไหลไฟสว่างทางเกิดขึ้นทุกชุมชน เพื่อทำให้ต้นทุนของการใช้ชีวิตประชาชนลดลง และไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ เพราะตอนนี้สังคมสูงวัยเราก็ต้องเน้นในเรื่องของการป้องกันโรค รัฐจึงพยายามสร้างระบบให้ประชาชนมีคุณภาพที่ดี ซึ่งตนได้มอบให้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ไปเร่งศึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำขั้นตอนขยายเวลาเกษียณอายุราชการ แบบขั้นบันได ไม่ใช่ 65 ปี โดยทำเป็นระบบใหม่และล้างระบบเก่า

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำถึงโครงการคนละครึ่งพลัส ว่า โครงการนี้มีประโยชน์กับประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งหน้าที่ของพวกเราต้องคอยดูแลให้ประชาชนใช้สิทธิ์อย่างครบถ้วน เพราะคราวที่แล้วเฟส 1 ยังเหลือเงินอยู่ 4-5 พันล้านบาท เราจึงต้องพยายามไปหาวงเงิน ว่าจะเอาส่วนไหนมาทำโดยที่ไม่กระทบต่องบประมาณของประชาชน ดังนั้นฝ่ายปกครองต้องเร่งรัดให้ประชาชนเข้าไปใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เช่น การจัดทำโปรโมชั่น หรือ เยี่ยมเยียนพี่น้องในหมู่บ้าน แต่หากมีการทุจริต ก็ขอให้เร่งดำเนินคดีอย่าให้คนเหล่านี้มาเอาเปรียบประชาชน ไม่ใช่ทำอะไรก็โกงหมดเหมือนในสมัยก่อนที่เงิน 10,000 บาท ยังไม่ถึงมือประชาชนก็ถูกผู้มีอิทธิพลโกง จึงขอฝากทุกคนช่วยกันตรวจสอบด้วย เพราะหากโครงการนี้มีความสำเร็จและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ก็จะมีคนเรียกร้องถึงเฟส 2 พร้อมระบุต่อว่า ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้นำเสนอเค้าโครงเรื่องนี้มาแล้ว ว่าจะต้องนำมาเสริมทักษะให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงชายขอบ ให้เขาสามารถรู้ว่าวิธี และสามารถเพิ่มรายได้ ด้วยการจัดเรียนออนไลน์ และทำให้เขาเข้าถึงเทคโนโลยี


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทุกอย่างต้องเกิดจากความฝัน เพราะถ้าไม่ฝัน ก็จะไม่เกิดโครงการดีๆ ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องทำให้ความเจริญเหล่านี้กระจายไปสู่ภูมิภาค และสร้างสังคมที่แข็งแกร่ง จึงขอให้ทุกท่านร่วมมือกันทำให้ระบบที่เราจะดูแลซึ่งกันและกันเข้มแข็ง ไม่เป็นภาระของรัฐ เพื่อนำความสามัคคีกลับมา

ก่อนเล่าว่า ตอนที่เกิดเหตุการณ์ที่กัมพูชาโจมตีเข้ามา เราต้องอพยพคน เพิ่งเห็นเลยว่าเวลาพวกเรารู้สึกหวงแหนชาติ รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนร่วมชาติ พูดตรงๆ ของบริจาคที่เข้ามาช่วยจากทั่วประเทศ ตนทำศูนย์อพยพ อยู่ที่บุรีรัมย์ มีคนเข้ามาอยู่ในนั้น 30,000 คน ขนาดตอนนั้นเป็นฝ่ายค้าน เชื่อหรือไม่ว่า ของที่เข้ามาช่วย มาจากทั่วทุกที่ของประเทศ ของมากพอ บางจังหวัดแทบไม่ต้องเบิกงบ นี่คือน้ำใจของคนไทย ตนเห็นตรงนี้ อย่างไรเสียประเทศไทยของเราในเรื่องของการหวงแหนรักชาติรักแผ่นดิน เรามีความเข้มแข็งมาก มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาก

แต่ตนไม่รู้ว่าได้กุศลดี จะได้กลับมาช่วยดูแลชาวบ้าน และเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง และเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเห็นภาพ อดีตการทำงานรัฐมนตรี คนละพรรค ถ้าเขาไม่ถูกกัน ก็จะมีปัญหาแบบนั้นแบบนี้ ตนก็พยายามบูรณาการ กันทั้งหมด ตอนนี้รัฐมนตรีที่อยู่คนละพรรคกับตน ทำงานได้เลย ตนไม่กลัวว่าเขาจะได้คะแนนเสียง ไม่กลัว ไม่กั๊ก เราเอาสวัสดิภาพและคุณภาพชีวิตของชาวบ้านมาเป็นที่ตั้ง ถ้าบอก ให้เขาทำ แล้วชาวบ้านจะเลือกอีกฝั่ง เลือกไปเถอะครับ เพราะคนเหล่านั้น ก็ช่วยชาวบ้านเหมือนกัน ตนก็ไม่กลัว เพราะสุดท้ายชาวบ้านได้ประโยชน์ ประชาชนได้ประโยชน์ใครทำให้ ตนต้องขอบใจ ช่วยกันทำ สมัยก่อน ตนเสนออะไรไป บอกทำไม่ได้ ทางบุรีรัมย์เสนอขึ้นมา เดี๋ยวภูมิใจไทยได้ประโยชน์แต่ของตนไม่มี พรรคไหนเข้ามาคนไหนเข้ามา ถึงจะเกลียดจะชอบเก็บไว้ในใจ แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าประโยชน์ตกอยู่กับประชาชนอนุมัติลูกเดียว และอนุมัติด้วยความรวดเร็ว จึงอยากให้ทุกท่านสบายใจ


วันนี้ ท่านแต่งกากีแบบนี้ เราก็แต่งแบบเดียวกันที่คอมีสิงห์ เหมือนกัน ขอให้ใช้อำนาจหน้าที่ที่มีไปช่วยประชาชนโดยที่ไม่ต้องหวังสิ่งตอบแทนจากประชาชน ห้ามพูดว่าประเทศไม่ใช่ของเราคนเดียว ถ้าคนคิดแบบนี้ ล้านคน แบบนี้บรรลัย เราต้องคิดว่าเราต้องมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและพัฒนาประเทศ แล้วจะไม่เหน็จเหนื่อย เดี๋ยวเราจะลงพื้นที่ภาคใต้ ถ้าเราคิดแบบนั้น ว่ามีรัฐมนตรีคนอื่นลงแล้ว ถามว่าเราสบายใจหรือไม่ เปิดโทรศัพท์ดู บ้านจะมิดหลังคาอยู่แล้ว เหมือนกับตอนที่หนองคายอุดร โดน ตอนนี้ถึงคิวภาคใต้ อยู่ไม่ติดหรอกครับ นึกว่าวันนี้บ่ายๆได้กลับบ้านพักนิดนึง ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวก็ต้องเที่ยวบินพิเศษขอนแก่น-หาดใหญ่ ใครมากับตัวเองก็ขออภัยด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะได้กลับกี่โมง อาจจะกลับพรุ่งนี้เช้าก็ได้

ทั้งนี้ ภายหลังจากเสร็จสิ้นการมอบนโยบาย นายกรรัฐมนตรี ได้ทักทาย พร้อมฝากกำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐและทำเพื่อพี่น้องประชาชน








กำลังโหลดความคิดเห็น