xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ยันสหรัฐฯ ไม่โยงปม Joint Declaration กับภาษี ไทยลุยเก็บกู้ระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามหลักสากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ยืนยันสหรัฐฯ จะไม่เชื่อมโยงประเด็น “Joint Declaration ไทย-กัมพูชา” กับการเจรจาภาษีการค้า ไทยเดินหน้าภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามหลักสากล


วันนี้ (16 พ.ย.) เวลา 08.26 น. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อค่ำวานนี้ (15 พ.ย.) นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและประธานอาเซียน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง เพื่อย้ำข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือด้านมนุษยธรรมและการหารือกับสหรัฐอเมริกา

โฆษกฯ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ ได้แจ้งต่อนายกรัฐมนตรีอนุทิน ว่า ภายหลังการหารือกับนายกรัฐมนตรีไทยก่อนหน้านี้ เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อีกครั้งหนึ่ง โดยผู้นำสหรัฐฯ เห็นสอดคล้องกับจุดยืนของรัฐบาลไทยว่า “การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Demining) เป็นประเด็นสำคัญยิ่ง” ตามถ้อยแถลงร่วมไทย-กัมพูชา ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ

ประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้มอบให้นายกรัฐมนตรีอันวาร์แจ้งมายังรัฐบาลไทยอย่างชัดเจนว่า
“สหรัฐอเมริกาจะไม่นำประเด็นการระงับ Joint Declaration ของไทยมาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้”

โฆษกฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี อนุทิน ยังได้สอบถามกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ว่า สามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะได้หรือไม่ ซึ่งผู้นำมาเลเซีย ยืนยันว่า สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอันวาร์ จะเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสารของตนด้วยเช่นกัน

โฆษกฯ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีต้องการแจ้งข้อมูลนี้ต่อพี่น้องประชาชนที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และรับทราบข้อเท็จจริงล่าสุดจากการสื่อสารโดยตรงระหว่างผู้นำประเทศ

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า จดหมายจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ที่มีเนื้อหาระบุถึงการหยุดการเจรจากับไทยนั้น เป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะได้สนทนากับประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อค่ำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ทำให้ข้อมูลนี้มีความเป็นปัจจุบันและเชื่อถือได้มากกว่า

“รัฐบาลไทยยังคงยึดมั่นต่อพันธกรณีด้านมนุษยธรรม การคุ้มครองประชาชนในพื้นที่ชายแดน และการทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาสันติภาพ ความปลอดภัย และผลประโยชน์ของประเทศอย่างสูงสุด” นายสิริพงศ์ ย้ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น