xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ประกอบการร้องยกเลิกห้ามดื่มนอกเวลาขาย “สิริพงศ์” แย้มจ่อเข้าครม.ปลดล็อกกลางวัน-ขยายเวลานั่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ประกอบการบุกทำเนียบฯร้องทบทวนพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยกเลิกห้ามดื่มนอกเวลาขาย ด้าน “สิริพงศ์” แย้มแนวทางแก้ ปลดล็อกกลางวัน -ขยายเวลานั่ง เข้าวงคกก.ควบคุมน้ำเมาพรุ่งนี้

วันนี้ (12พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร สถานบันเทิง และสถานบริการ นำโดย นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโฮสเทลประเทศไทย

นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร พร้อมด้วยตัวแทนจากสมาคมค้าปลีกไทย สมาคมร้านอาหาร สมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟท์เบียร์ และสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ เดินทางร่วมกันยื่นหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อขอความชัดเจนและขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 รวมทั้งขอให้ยกเลิกการห้ามดื่มนอกเวลาขาย โดยมี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ

ต่อมา นายสรเทพ เปิดเผยว่า ปัญหาหลักของกฎหมายที่ออกมาบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่มีปัญหาหลักคือเรื่องของการห้ามนั่งดื่มต่อ แต่จริงๆ วันนี้ที่มายื่นคือเรื่องของการปลดล็อกขายแอลกอฮอล์ช่วงเวลา 14.00 น. ถึง 17.00 น. ซึ่งมีใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2515 ซึ่งไม่เข้ากับบริบทของประเทศไทย 2. เรื่องของการปลดโซนนิ่ง และ 3. เรื่องของการอนุญาตให้นั่งดื่มต่อ ซึ่งสามข้อนี้กระทบมาก และไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ประกอบการในประเทศไทยเท่านั้น โดยขอแยกออกเป็น 2 กรณีคือ 1. ผู้ประกอบการร้านอาหารและท่องเที่ยว 2. ภาคธุรกิจกลางคืน โดยในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและท่องเที่ยว สำนักงานส่งเสริมส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ โทรมาสอบถามว่าแก้ได้หรือไม่และแก้อย่างไร เพราะสำนักข่าวต่างประเทศเล่นข่าวหลายสำนัก จึงมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเต็มๆ ทั้งนี้ทีเส็บจะมีการประชุมใหญ่ เป็นสัมมนา 3-4 กรุ๊ป แน่ๆ ถ้ากฎหมายนี้ไม่ได้แก้มีผลกระทบกับเขาแน่ๆ และถึงขั้นที่ว่าเขาอาจจะย้ายจัดการสัมมนาไปประเทศอื่น นี่คือผลกระทบ

นายสรเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร การท่องเที่ยวมีความกังวล กระทั่งแม้แต่มัคคุเทศก์เองยังเป็นกังวล ว่าจะเอาอย่างไรอย่างเช่นหากมีการพานักท่องเที่ยวไปทัวร์ในช่วงที่มีอากาศร้อนเขาจะไปนั่งดื่มเบียร์ในช่วงบ่ายสอง 10 นาทีมันก็ไม่ได้แล้ว ทางร้านจะโดนจับทั้งไกด์ทั้งร้านที่ขาย เขาก็กลัวไปหมดกลายเป็นสภาวะสูญญากาศในช่วงนี้ที่กระทบกับการท่องเที่ยวเต็มๆ เราจึงดูแล้วว่าไม่ไหว เราเข้าใจว่าคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มองในมิติสุขภาพ แต่ตนอยากเรียกร้องว่าให้ท่านมองในมิติอื่นด้วย มองในแง่เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ยังมีทั้งในเรื่องท่องเที่ยว ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร ผับ บาร์ อีกหลายล้านชีวิตในประเทศ ตนจึงมายื่นข้อเสนอตรงนี้

ด้านนายสง่า กล่าวว่า ในส่วนของถนนข้าวสารเป็นแหล่งท่องเที่ยวมีรายได้เข้าประเทศค่อนข้างมาก มีนักท่องเที่ยวประมาณ 2 หมื่นกว่าคนต่อวัน สามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก สิ่งที่เรากังวลคือถ้ามีการปรับจริงกระแสตรงนี้หากนักท่องเที่ยวโดนปรับสัก 1-2 คนแล้วไปสร้างกระแสจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะฉะนั้น เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการกังวลมากๆ ในสิ่งที่ภาคราชการออกอะไรออกมาที่ไม่ได้คำนึงถึงผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นเอสเอ็มอีที่เป็นรากฐานของประเทศ ขอให้ช่วยกลับไปทบทวนดูบริบทของวันนี้ไม่เหมือนกับ 10 -20 ปีที่ผ่านมา จิตสำนึกของคนวันนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นเรามาปลูกจิตสำนึกในความรับผิดชอบ ไม่ใช่เอากฎหมายมาครอบผู้ประกอบการ

ขณะที่นายสิริพงศ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และได้มีการพูดคุยกันในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจครั้งแรก เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้รับทราบข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา ในเนื้อหาสาระมีการปลดล็อกเวลาขาย และให้ไปดูในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวคือ เพิ่มเวลาขายแต่ห้ามนั่งดื่มเกินเวลา ซึ่งเราได้รับคำแนะนำจากฝ่ายกฎหมายว่า เมื่อประกาศฉบับดังกล่าวยังไม่บังคับใช้ การไปแก้กฎหมายดังกล่าวอาจจะยังไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อบังคับใช้แล้ว และนายกรัฐมนตรีได้เห็นว่าประชาชนมีความเดือดร้อน จึงได้เร่งให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการประชุมกันในวันที่ 13 พ.ย.โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อผลออกมา คิดว่าจะได้คำตอบ และมีผลบังคับใช้ไม่เกินต้นเดือน ธ.ค. นี้ ตามข้อกำหนดของกฎหมาย

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ในระหว่างนี้จะหารือกับคณะกรรมการดูว่ามีอะไรบ้างที่สามารถผ่อนปรน หรือผ่อนผันในช่วงนี้ได้ ในส่วนของแนวทางมีความเห็นในทางที่ตรงกัน เพราะการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจครั้งที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความเห็นเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ว่ากฎหมายฉบับนี้จะมีผลกับจำนวนนักท่องเที่ยว

นายสิริพงศ์ ยืนยันว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ขอให้อดใจรอนิดหนึ่ง

เมื่อถามว่า จะมีแนวทางที่เหมาะสมพอจะตกลงกันได้หรือไม่ เพราะมีประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วย นายสิริพงศ์ กล่าวว่า น่าจะมีการปลดล็อกเวลาขายในช่วงเวลากลางวัน ส่วนเวลากลางคืนการขายอาจจะให้จบแค่ช่วงเวลาเที่ยงคืน สำหรับร้านอาหารทั่วไป ส่วนการนั่งต่อกำลังดูแนวทาง แต่อาจจะมีให้นั่งต่อไปอีกสักช่วงเวลาหนึ่ง

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ระเบียบเหล่านี้จะเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากตัวกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลา กำหนดเพียงว่าห้ามขายและห้ามดื่ม ส่วนเรื่องเวลาต้องดูในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และย้ำว่า ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถทำได้อย่างลำพัง แต่ต้องได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เมื่อถามถึง การแบ่งโซนนิ่ง นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางในการทบทวน ทั้งนี้การยกเลิกโซนนิ่งทั้งหมดอาจเป็นไปไม่ได้ แต่อาจมีพื้นที่นำร่องในการลองปลดโซนนิ่ง หรืออาจมีการเพิ่มพื้นที่โซนนิ่ง

อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลของประชาชนว่าหากยกเลิกโซนนิ่งแล้วจะเป็นอย่างไร เรียนว่า การจะปลดโซนนิ่งต้องมีเรื่องของกฎหมายควบคุมสถานบันเทิง เพื่อการันตีให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น