“รังสิมันต์” เผย ประชุม กมธ.ความมั่นคง วันนี้ เป้าหมายที่ “ฮุยวัน” โยงหลาน “ฮุนเซน” โกงเงินคริปโตมหึมา จ่อเรียก “ชนนพัฒฐ์” แจงปมสแกมเมอร์ ต่อ 13 พ.ย.นี้ ชี้ อายัดทรัพย์ 159 ล้าน น้อยเกินจริง จี้ นายกฯ เร่งขยับแก้ทุนไทยเทา ก่อนเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ย้ำ ฝ่ายค้านพร้อมซักฟอกหากรัฐบาลยังนิ่ง
วันนี้ (12 พ.ย.) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม กมธ.ว่า จะพิจารณาเรื่องสแกมเมอร์ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป้าหมายหลักอยู่ที่บริษัท “ฮุยวัน” ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวข้องกับเงินคริปโตที่มาจากการกระทำความผิด และเชื่อมโยงกับเครือข่ายในประเทศกัมพูชา
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานของรัฐมีข้อมูลชัดเจน แต่ยังไม่มีการดำเนินการยึดอายัดทรัพย์อย่างจริงจัง จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้กระบวนการหยุดชะงัก พร้อมระบุว่า นอกจากบริษัท ฮุยวัน ยังมีความเชื่อมโยงไปถึง “ฮุน โต” ลูกพี่ลูกน้องของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งสะท้อนให้เห็นความซับซ้อนของขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด กมธ.ได้เชิญ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม เข้าชี้แจงในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ โดยได้รับแจ้งเบื้องต้นว่า นายชนนพัฒฐ์ จะเดินทางมาชี้แจงด้วยตนเอง และอาจมาพร้อม นายไผ่ ลิงค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรค เพื่อชี้แจงเส้นทางการเงินและความเชื่อมโยงกับเครือข่ายสแกมเมอร์
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงกรณีการยึดทรัพย์นายชนนพัฒฐ์ มูลค่า 159 ล้านบาท ว่า ถือเป็นความคืบหน้าระดับหนึ่ง แต่จำนวนดังกล่าวอาจน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับข้อเท็จจริงที่คาดว่านายชนนพัฒฐ์มีทรัพย์สินมากกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากธรรมชาติของเว็บพนันและเครือข่ายสแกมเมอร์ที่มักซุกซ่อนเงินผ่านหลายช่องทาง ทั้งอสังหาริมทรัพย์ รถหรู ทองคำ และคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งอาจใช้ชื่อบุคคลอื่น (นอมินี) หรือกระเป๋าเงินดิจิทัลในการปกปิดทรัพย์สิน จึงต้องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ชี้แจงเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่รัฐบาลระบุว่า สามารถยึดทรัพย์จากขบวนการสแกมเมอร์ได้หลายหมื่นล้านบาท นายรังสิมันต์ ตอบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพียงการยึดชั่วคราว ยังไม่ชัดว่ากระบวนการจะจบที่ใด กมธ.จะตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดเพื่อให้ทราบว่ามีนักการเมืองอื่นเกี่ยวข้องเพิ่มเติมหรือไม่
ส่วนกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ระบุให้ส่งข้อมูลนักการเมืองที่เอี่ยวสแกมเมอร์โดยตรงไปยังผู้บังคับบัญชา นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนได้รับการประสานให้เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ข้อมูลแล้ว ยินดีจะไปให้ข้อมูล แต่ยังไม่ได้นัดหมายวันแน่นอน พรรคประชาชนไม่กังวล พร้อมให้ข้อมูลทั้งหมดกับนายกฯ
ประธาน กมธ.มั่นคงฯ กล่าวอีกว่า การทำงานของรัฐบาลในประเด็นสแกมเมอร์ ยังไม่จริงใจพอ เพราะแม้จะมีการสื่อสารขยายผล แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่เห็นความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่มีข้อมูลชัดเจน เช่น บริษัท ฮุยวัน ที่ กมธ.ถือครองข้อมูลอยู่แล้ว รวมถึง 43 รายชื่อ เครือข่ายที่เตรียมส่งให้หน่วยงานรัฐดำเนินการ ทั้งด้านการตรวจคนเข้าเมือง การเงิน และคดีอาญา หากรัฐบาลเดินหน้าอย่างจริงจัง ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติจะลดลงได้มาก
เมื่อถามถึงเสียงเรียกร้องให้ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคประชาชนพร้อมหารือกับพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด เพื่อวางยุทธศาสตร์การอภิปราย เพราะถือเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวต่อปี เราจะไม่ยื่นเพื่อสร้างกระแส แต่จะยื่นเพื่อให้สำเร็จ เพราะเรื่องนี้กระทบทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของประเทศ
“คุณอนุทินต้องทบทวนตัวเองว่าทำไมถึงถูกเรียกร้องให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเร็วขนาดนี้” ย้ำว่าการไม่จัดการกับปัญหาทุนสีเทาอาจนำไปสู่การสูญเสียความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ
ส่วนท่าทีของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ที่มองว่า ยังไม่ถึงขั้นร้ายแรง นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่า พรรคประชาชนเห็นตรงกันว่าทุนสีเทาและสแกมเมอร์เป็นปัญหาร้ายแรงระดับโลก แต่ละบุคคลอาจมองความเร่งด่วนแตกต่างกันเท่านั้น ยืนยันว่าพรรคจะใช้ทุกกลไกของสภาในการตรวจสอบอย่างเข้มข้น


