“บิ๊กดุลย์” ยันไม่จำเป็นต้องเก็บ 18 เชลยศึกเอาไว้หากกัมพูชาปฏิบัติตามเงื่อนไข แต่หลายคนมีความสุขอยากอยู่ไทยต่อ เตรียมให้สื่อสัมภาษณ์ว่าอยู่ไทยสบายอย่างไร ยันสหรัฐฯ-มาเลเซียไม่ได้กดดันให้ปล่อย
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 68 พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลของประชาชนในพื้นที่ปราสาทตาควาย โดยระบุว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่สืบเนื่องมาจากการลงนามประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ณ ประเทศมาเลเซียที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการปฏิบัติตาม 4 ข้อตกลงในเฟสที่ 1 ส่วนคลิปที่ปรากฏว่ามีการขัดขวางทหารไทยนั้น พล.ท.อดุลย์ มองว่า เป็นเรื่องปกติของกำลังทหารที่ใกล้กัน และทุกฝ่ายต่างหวงแหนดินแดน พร้อมยืนยันว่า ตั้งแต่รับราชการปี 2553 มานั้น อธิปไตยของไทยอยู่ในอัตราส่วนแผนที่ 1:50,000
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าปราสาทตาควายเป็นเพียงการเสียควบคุมใช่หรือไม่ พล.ท.อดุลย์ ระบุเพียงว่า เป็นผลจากการตกลงให้คำประกาศความสัมพันธ์ฯ เมื่อสงครามยุติใครครอบครองตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น โดยเฉพาะพื้นที่ปราสาทตาเมือน และพื้นที่อื่น ๆ เราก็สามารถครอบครองไว้ได้หมด
ส่วนกระแสข่าวการปล่อยตัว 18 เฉลยศึกกัมพูชาในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ พล.ท.อดุลย์ ชี้แจงว่า จะมีการประเมินจากคณะผู้สังเกตการณือาเซียน (AOT) และสองรัฐบาล หากปฏิบัติตามกรอบที่วางไว้ ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องคุมตัวไว้ อีกทั้งข้อมูลที่ได้มีการหารืออยู่ในระดับรัฐบาล ไม่ใช่ระดับกองทัพ
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเชลยศึกต้องการให้เข้ารับบริการทันตกรรมก่อนส่งตัวกลับนั้น พล.ท.อดุลย์ ระบุว่า มีมากกว่านั้นอีก ขอเรียนตามตรงว่าบางรายก็ไม่อยากกับ เพราะอยู่ในประเทศไทยแล้วมีความสุข พร้อมเปิดเผยว่าก่อนการส่งตัวกลับอาจจะให้สัมภาษณ์ ตนจึงอยากขอให้สื่อได้ถามว่าอยู่ในประเทศไทยแล้วกลุ่มเชลยดังกล่าวสบายอย่างไร การปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติหรือไม่
ส่วนจะมีการปล่อยตัวที่จังหวัดจันทบุรีหรือไม่ พล.ท.อดุลย์ ระบุว่ายังไม่ได้ได้รับรายงาน แต่ยืนยันว่าเป็นจุดผ่านแดนถาวรชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนการปล่อยตัวจะยืดเวลาออกไปหากกัมพูชาไม่ปฏิบัติตาม 4 ข้อตกลง ใช่หรือไม่ พล.ท.อดุลย์ ระบุว่า ต้องคุยกัน แต่ขณะนี้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงตามปกติ และขออย่าให้สนใจกรณีที่มีกระแสข่าวว่าประเทศสหรัฐอเมริกา กดดันไทยให้ปล่อยตัวเชลยศึก ตนขอยืนว่าทั้งอเมริกา และมาเลเซียไม่ได้กดดัน


