กองทัพบกยืนยันดำเนินการตามมาตรการรัฐบาล–กลาโหม แก้ปัญหาการรุกล้ำชายแดนไทย–กัมพูชาในพื้นที่สระแก้ว ชี้ทุกขั้นตอนยึดหลักมนุษยธรรม–กติกาสากล พร้อมเตรียมใช้กฎหมายควบคู่กฎอัยการศึกผลักดันผู้บุกรุกออกจากพื้นที่
วันนี้ (9 ต.ค.68 )ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ที่ยังคงพบปัญหาการรุกล้ำของชุมชนกัมพูชา รวมถึงการสร้างสิ่งปลูกสร้างหลายแห่งในพื้นที่ที่ล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย มาเป็นเวลานาน จึงจำเป็นต้องแก้ไขให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมากัมพูชามีท่าทีเพิกเฉย แม้ฝ่ายไทยจะพยายามใช้ทุกช่องทาง ทั้งการเจรจาและการหารือร่วมกันอย่างสันติตามหลักสากลมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองหรือเห็นท่าทีที่ชัดเจนจากฝ่ายกัมพูชาที่จะร่วมแก้ไขปัญหา
ซึ่งในมาตรการเริ่มต้น จังหวัดสระแก้วและกรมป่าไม้ของไทย มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยได้ออกหนังสือแจ้งเตือน และเตรียมใช้มาตรการบังคับกฎหมายกับกรณีการรุกล้ำดังกล่าว แต่กลับปรากฏว่าฝ่ายกัมพูชาที่ไม่เพียงแต่ไม่ร่วมแก้ไขปัญหาแล้ว กลับมีการบิดเบือนข้อมูล เพื่อสร้างภาพว่าตนเป็นฝ่ายถูกกระทำ พร้อมกับปลุกระดมและจัดตั้งมวลชน ซึ่งหลายคนไม่ใช่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐและกำลังทหารกัมพูชา เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติงานและใช้สิ่งเทียมอาวุธต่างๆ เข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว ทั้งยังมีการนำเด็ก สตรีและพระสงฆ์มาเป็นโล่มนุษย์ สร้างภาพจัดฉากผู้ถูกกระทำ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ และผิดธรรมชาติของการชุมนุมโดยสงบอย่างชัดเจน
สำหรับสถานการณ์ดังกล่าวนี้รัฐบาล กระทรวงกลาโหม และสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้มีมติให้กองทัพดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหา ด้วยการบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอน เพื่อผลักดันการรุกล้ำอธิปไตยตามหลักสากล ซึ่งมาตรการในลำดับต่อมา จากมติของคณะผู้บัญชาการทางทหารล่าสุด ได้เห็นชอบให้ใช้กฎหมายปกติ เช่น พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ควบคู่กับพ.ร.บ. กฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ที่มีผลบังคับใช้ในพื้นที่ชายแดนอยู่แล้วเพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมเหมาะสมกับสถานการณ์
ขณะเดียวกันจากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด พบว่าปัญหาในพื้นที่มีความละเอียดอ่อนสูง เนื่องจากฝ่ายกัมพูชามุ่งมั่นที่จะใช้วิธีการนำมวลชนมาชุมนุมในลักษณะจัดตั้งมา เพื่อใช้เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจไทย ทั้งนี้เพื่อยั่วยุให้ฝ่ายไทยตอบโต้แล้วนำภาพเหตุการณ์ที่ได้ไปบิดเบือนต่อสายตาสังคมโลก
ทั้งนี้ กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการเตรียมมาตรการที่เหมาะสมและรัดกุม เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อชุมชนที่รุกล้ำในเขตอธิปไตยของไทย ให้เป็นไปตามเป้าหมายภายใต้หลักมนุษยธรรม และกติกาของสากล