xs
xsm
sm
md
lg

"โรม" ปูดที่ปรึกษา "ฮุน เซน" ตัวใหญ่สแกมเมอร์-ฟอกเงิน โยงการเมือง 2 ชาติ จี้นายกฯปราบ-ทบทวน MOU

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สส.ปชน.อภิปรายกลางสภา แฉที่ปรึกษา ‘ฮุน เซน’ ตัวการใหญ่เครือข่ายสแกมเมอร์-ฟอกเงินโยงการเมืองกัมพูชา พาดพิงนักการเมืองไทย จี้ นายกฯ เอาจริงปราบอาชญากรรมข้ามชาติ-ทบทวน MOU ไทย-กัมพูชา อย่าซ้ำรอยรัฐบาลเดิม



วันนี้ (30 ก.ย. 68) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระเรื่องด่วน 1 คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ รองประธานรัฐสภา เป็นประธานในการประชุม

นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายนโยบายถึงสถานการณ์สแกมเมอร์ในประเทศไทยช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ที่เลวร้ายลงกว่าเดิม และมีการประเมินว่า รายได้จากสแกมเมอร์ในกัมพูชา คิดเป็น 60% ของ GDP ประเทศกัมพูชา รวมถึงมีข้อสังเกตว่า ฐานทัพของสแกมเมอร์ส่วนใหญ่อยู่ชายแดนประเทศไทย เพราะต้องพึ่งทรัพยากร และมีตัวละครสำคัญ ๆ เช่น ก๊กอาน ที่มีความก้าวหน้าในการติดตามกรณีนี้ แต่กลับหยุดชะงักลง

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ยังมี นายลี ยง พัด ซึ่งถูกขนานนามว่าราชาแห่งเกาะกง หรือ เสี่ยพัด มีสัญชาติไทย-กัมชา เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม LYP และไอร์เสม็ด รีสอร์ท ทางการสหรัฐอเมริกาได้ประกาศคว่ำบาตร และยังเป็นประธานสมาคมออกญาแห่งกัมพูชา แต่กลับถูกเพิกเฉยจากตำรวจ รวมถึงไม่มีความคืบหน้าในการยึดทรัพย์ใด ๆ

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า นายฮุน โต ลูกพี่ลูกน้องของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ได้รับการปกป้องจากรัฐให้ปลอดภัย

นายรังสิมันต์ กล่าวถึง นายยิม เลียก ประธาน BIC Bank ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแหล่งฟอกเงิน ที่มีทั้งคนไทย และกัมพูชาใช้บริการ ซ้ำยังมีพี่สาวเป็นลูกสะใภ้ของ สมเด็จฯ ฮุน เซน ซึ่งมีการเชื่อมโยงกับ นายเบน สมิธ หรือชื่อเดิม นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ชาวแอฟริกา มีประวัติทำธุรกิจหลอกลวง และเป็นหุ้นส่วนร่วมทำธุรกิจเปิดสาขาธนาคาร BIC และแนะนำนายยิม เลียก ให้ใช้ธนาคารเป็นแหล่งฟอกเงิน โดยเฉพาะในเมืองลองเบย์ ดาราสาคร ที่มี Yatay Group ของนายเสอ จื้อ เจียง ร่วมลงทุน

“ธนาคาร BIC มักมีผู้ทรงอิทธิพล นำทรัพย์สินไปฝากเอาไว้ นักการเมืองบางคน หรือ สว. ที่มีลักษณะทรงเอ เข้าใจว่าไม่ใช่ชุดนี้ ก็มีทรัพย์สินที่นั่น ที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจ BIC ถูกโจมตีว่าเป็นสวรรค์แห่งการฟอกเงิน โดย BIC Group ก็มีสาขาอยู่ที่ประเทศไทย ในอาคารเกสรนี่เอง” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ ระบุว่า นายเบน สมิธ ยังปรากฏชื่อเป็นที่ปรึกษาของ สมเด็จฯ ฮุน เซน และมีเหตุการณ์เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้พบกับนายกรัฐมนตรีที่เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งปรากฏตัวพร้อมกับนายเบน สมิธ รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วย พวกท่านไม่รู้หรือว่า บุคคลเหล่านี้มีประวัติสแกมเมอร์ ซึ่งในเวลาไล่เลี่ยกัน ร.อ. ธรรมนัส และนายเบน สมิธ ได้ทำบุญร่วมกันที่วัดดงช้างดี จังหวัดอุตรดิตถ์ และอีกงานหนึ่งก่อนหน้าที่วัดดวงแข กรุงเทพฯ ที่มีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปรากฏตัวอยู่ด้วย

นายรังสิมันต์ ยังได้เปิดภาพในที่ประชุมรัฐสภา บุคคลที่ใบหน้าคล้ายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดดำปิดดวงตาไว้

นอกจากนี้ ยังพบว่านายเบน สมิธ พยายามเปลี่ยนสัญชาติเป็นไทย จนถึงขั้นที่จะมีการเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาไทย แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เคยชี้แจงว่าไม่ได้เซ็นอนุมัติ เพราะเอกสารไม่ครบ แต่รับปากกับรัฐสภาได้หรือไม่ ว่าแม้เอกสารจะครบ ก็จะไม่เซ็นให้สัญชาติกับใครก็ตามที่เกี่ยวกับแก๊งสแกมเมอร์

นายรังสิมันต์ ได้หยิบยกเรื่องเรือยอร์ช 6 ลำ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ใช้เดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ รวมถึงเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว รุ่น Bombardier Global 7500 ที่ใช้บินไปดูไบ ทั้งหมดนี้ล้วนถูกจัดหาโดย นายเบน สมิธ ซึ่งตนเองหวังว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล่า เพราะหากเป็นเรื่องจริง ก็แปลว่าเงินจากการค้ามนุษย์ จากสแกมเมอร์ในกัมพูชา ได้แปรสภาพเป็นของขวัญสุดหรูเพื่อสร้างอิทธิพล จึงขอให้นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบเรื่องนี้ ปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ในการประชุมหารือเพื่อผลักดันเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็มีนายเบน สมิธ ร่วมประชุมอยู่กับอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย นั่นเท่ากับ เป็นวิธีการนำเงินผิดกฎหมายจากกัมพูชา นำเงินมาฟอกให้ถูกกฎหมายผ่านคาสิโนในประเทศไทย ซึ่งจะทำร้ายภาพลักษณ์ของประเทศไทยอย่างร้ายแรง

“จำได้ไหมที่ผมบอกว่ารายได้หลัก 60% ของ GDP ของกัมพูชามาจากการหลอกลวง ดังนั้น การที่ประเทศไทยจะมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่มีวันจะกระทบต่อธุรกิจหลักของกัมพูชาอยู่แล้ว นอกจากประเทศไทยต้องการจะเป็นฐานสแกมเมอร์แห่งใหม่แข่งกับกัมพูชา ซึ่งผมไม่เชื่อว่ารัฐบาลที่แล้วจะเลวร้ายถึงขนาดนั้น” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ระบุว่า ตนเองคาดหวังว่าในช่วงเวลา 4 เดือน นายกรัฐมนตรี จะเอาจริงต่อปัญหานี้ อย่าให้เหมือนรอบที่แล้ว เมื่อท่านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กว่าจะปราบได้ก็ใช้เวลามากมายเสียเหลือเกิน พร้อมเสนอแนวทางปราบปรามสแกมเมอร์ ดังนี้
1. ตั้งศูนย์ประสานงานต่อต้านสแกมเมอร์ข้ามชาติ รวมหน่วยงานทั้ง DSI ก.ล.ต. ธปท. ปปง. กต. และอัยการสูงสุด ทำงานเชิงรุกประสานงานกับต่างชาติ แลกเปลี่ยนข้อมูล
2. ให้ DSI ตร. ปป. สอบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับนายเบน สมิธ ทั้งนายลี ยง พัด และนายยิม เลียก ทำลายเครือข่ายการเงินและเอเยนต์ ซึ่งตนเองมีพยานปากเอกคือ ร.อ. ธรรมนัส เชื่อว่าให้การเป็นประโยชน์
3. ให้ ก.ล.ต. วางกฎเกณฑ์ Travel Rule มีผลกับสกุลเงินคริปโต เพื่อป้องกันการฟอกเงิน
4. ให้ กต. ศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้กไก ICC พากัมพูชาขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ

นายรังสิมันต์ ระบุว่า กัมพูชามีรายได้มากมายจากการหลอกคนทั่วโลก ผู้มีอำนาจในกัมพูชาไม่ต้องสนใจว่าการค้า และธุรกิจของประเทศไทยเป็นอย่างไร ตราบใดที่ตัวเลขจากสแกมเมอร์ยังเพิ่มขึ้น ความสำคัญของการค้าปกติก็จะน้อยลง ถ้านายกรัฐมนตรี จะฝากความหวังไว้กับทหารอย่างเดียว ท่านคิดผิด และจะเป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด ทั้งนายกรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม และทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาชายแดน อย่าผิดพลาดเหมือนรัฐบาลที่แล้ว เชื่อว่าแก้ปัญหาชายแดนได้ หากรายได้จากสแกมเมอร์ของกัมพูชาลดลง อะไร ๆ ก็จะง่ายขึ้น

ส่วนข้อเสนอที่ 3 เรื่อง MOU ไทย-กัมพูชา ที่รัฐบาลจะทำประชามติยกเลิกหรือไม่ ฟังเหมือนจะดี แต่ต้องไม่ลืมว่าเกี่ยวพันกับหลายเรื่องที่สลับซับซ้อนต้องพิจารณา ที่ผ่านมาที่ประชุมรัฐสภาเคยหารือเรื่องนี้ในการประชุมลับ แล้วเราจะเปิดเผยให้ประชาชนคนไทยรับทราบข้อมูลที่สำคัญต่อการตัดสินใจเรื่อง MOU อย่างไร โดยไม่ให้กัมพูชาล่วงรู้ ถ้ารัฐบาลจะให้ประชาชนตัดสินใจในเรื่องสลับซับซ้อนเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลอย่างเพียงพอ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องคิดต่อด้วยว่า หากมีการยกเลิก MOU แล้ว ก็ต้องเตรียมความพร้อมทุกฉากทัศน์ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การเจรจาเรื่องเขตแดน และหากยกเลิก MOU43 กัมพูชาอาจจะอ้างว่า กลไกทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชาไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงต้องไปศาลโลก รัฐบาลต้องคิดและเตรียมการไว้ตั้งแต่วันนี้เลย

ขณะที่เรื่องชายแดนทางทะเล ตัวอย่างบริษัททุนข้ามชาติจะฟ้องไทยในอนุญาโตตุลาการหรือไม่ หากไทยยกเลิก MOU44 รัฐบาลต้องเตรียมรับมือ เพราะจะเสี่ยงทำให้ไทยต้องเสียค่าชดใช้นับหมื่นล้านด้วยภาษีของประชาชน

“ผมเองให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติไทยสูงสุด การยกเลิก MOU ถ้าจะทำ ก็ต้องแน่ใจว่าเราได้อะไรกลับคืน และต้องดูว่าสุดท้ายแนวทางใดคุ้มกว่ากัน บางทีการปรับปรุง MOU ทั้ง 2 ฉบับ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของชาติสูงสุด อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งก็ได้” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเตือนความจำนายกรัฐมนตรี ให้เห็นตัวอย่างจากรัฐบาลที่แล้ว ว่าผลกระทบของการมีผลประโยชน์ทับซ้อน และการขาดเจตจำนงทางการเมืองในงานความมั่นคง ส่งผลต่อชาติอย่างไร ตนเองยืนยันว่า ต้องการเห็นการถอนอาวุธหนัก การร่วมมือกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามสแกมเมอร์ นี่เป็นหนทางสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของ 2 ประเทศ และคืนความปกติตามพื้นที่แนวชายแดน เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น