ทนายเชาว์ ซัด ทักษิณ ดิ้นยื่นขออภัยโทษรอบ 2 ทั้งที่เคยได้พระมหากรุณาธิคุณแล้ว ชี้ โทษปัจจุบันไม่ใช่โทษตามคำพิพากษา ขัดหลักกฎหมาย เสี่ยงคนชงเรื่องโดน ม.157 ลั่นอภัยโทษมีไว้ให้คนสำนึก ไม่ใช่บัตรผ่านหลุดผิดของคนไม่เคารพคำพิพากษา
วันนี้ (30 ต.ค.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Chao Meekhuad” ในหัวข้อ “ดื้อดึงขอพระราชทานอภัยโทษซ้ำ ใครชงเรื่องระวัง 157” โดยมีเนื้อหาวิจารณ์กรณีมีกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นคำร้องขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายเป็นครั้งที่ 2 หลังเข้ามารับโทษในเรือนจำ
การยื่นขออภัยโทษซ้ำเป็นไปตามกรอบกฎหมายหรือไม่ เพราะอย่าลืมว่านายทักษิณเคยยื่นคำร้องและได้รับพระมหากรุณาธิคุณมาแล้ว โดยโทษจำคุกจากคำพิพากษาศาล 8 ปี ถูกพระราชทานอภัยลดเหลือเพียง 1 ปี ซึ่งโทษดังกล่าวไม่ใช่โทษตามคำพิพากษาอีกต่อไป แต่เป็นโทษที่กำเนิดขึ้นจากพระบรมราชโองการโดยตรง
อดีตรองโฆษก ปชป. อธิบายว่า ตาม มาตรา 259 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ระบุชัดว่า ผู้ที่ต้องคำพิพากษาให้รับโทษ จึงจะสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ หมายความว่า เมื่อโทษตามคำพิพากษาเดิมถูกลดแล้วโดยพระบรมราชโองการ จึงไม่ใช่โทษที่อยู่ในบังคับของบทบัญญัติดังกล่าวอีก การยื่นขอซ้ำจึงสุ่มเสี่ยง ไม่เข้าเกณฑ์ทางกฎหมาย
นายเชาว์ ชี้ว่า มาตรา 261 กำหนดหน้าที่ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต้องถวายความเห็นประกอบทุกครั้ง หากรัฐมนตรียังคงฝืนถวายความเห็นสนับสนุน ทั้งที่รู้ว่าเรื่องนี้ไม่เข้าเกณฑ์ ก็อาจถูกตีความว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ และเข้าข่ายความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายเชาว์ ระบุว่า แม้เคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานอภัยโทษแล้ว แต่กลับไม่ยอมรับโทษอย่างตรงไปตรงมา โดยอ้างอาการป่วยจนถูกวิจารณ์ว่าเป็น “ป่วยทิพย์” สุดท้ายศาลมีคำสั่งให้กลับไปรับโทษตามระเบียบ จึงเห็นได้ว่าควรจะสำนึกและยอมรับโทษตามที่เหลืออยู่ แต่กลับพยายามดิ้นรนยื่นขออภัยโทษซ้ำอีกครั้ง
“นี่คือ การทำเรื่องไม่สมควรซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนที่ทำผิดซ้ำซากและไม่เคยสำนึกอย่างแท้จริง จนต้องลงเอยอย่างที่เห็น อภัยโทษมีไว้ให้คนสำนึก ไม่ใช่บัตรผ่านพ้นผิดของคนที่ไม่เคารพคำพิพากษา” นายเชาว์ กล่าวทิ้งท้าย