“ร.อ.ธรรมนัส” ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงปมทุจริตในสมาคมเปตอง ลั่นถ้าพบผิดจริงดำเนินคดีถึงขั้นติดคุก เตรียมส่งหนังสือขอโทษสหพันธ์เปตองนานาชาติ พร้อมให้ประธานโอลิมปิคไทยฯ ไปเจรจาเพื่อจัดแข่งในซีเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพให้ได้
เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กทม.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลกำกับด้านกีฬา เป็นประธานในการติดตามความคืบหน้าการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยมี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมาตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวเปิดประชุมว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่าการแข่งขันกีฬาซีเกมส์มีความสำคัญอย่างมากและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องจัดการโดยไว แต่ตนจะไม่พูดถึงการทำงานของรัฐมนตรีคนก่อนว่าทำอะไรไปบ้าง จะเดินหน้าทำงานอย่างเดียว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ปัญหาสำคัญที่จะต้องเร่งแก้ไขก็คือที่สหพันธ์เปตองนานาชาติ ได้แบนไม่ให้ประเทศไทยจัดการแข่งขันในกีฬาซีเกมส์ โดยเราได้หารือกับทุกฝ่ายที่มีความเกี่ยวข้อง จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ชุดใหม่ขึ้นมา เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ถูกทางสหพันธ์กล่าวหามา ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ผมมอบให้ น.อ.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ กับ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ พร้อมด้วยตัวแทนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สำนักงานอัยการสูงสุด, กรมส่งเสริมคดีพิเศษ (DSI), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
“หากตรวจสอบแล้วไม่มีความผิด ก็คืนความเป็นธรรมให้กับพวกเขา แต่ถ้าผิดก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งถ้ามีการประพฤติตัวไม่ชอบ ผมเคยเอาติดคุกติดตารางมาแล้ว”
“ขณะเดียวกันเราก็ยังมีคณะกรรมการกลาง ที่มี พล.อ.มังกร โกสินทร์เสนีย์ เป็นประธาน จะทำหน้าที่แทนสมาคมฯ ในส่วนของการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันระหว่างที่ถูกสอบสวน จนกว่าจะแล้วเสร็จ และตัวผมจะส่งหนังสือลงนามด้วยตัวเอง และผู้ว่า กกท.ถึงสหพันธ์เปตองนานาชาติ เพื่อขอโทษในส่วนที่เข้าใจผิด และให้ทาง ผศ.พิมล ในฐานะประธานโอลิมปิคไทยฯ เดินทางไปเจรจาเพื่อให้ได้มีการจัดการแข่งขันเปตองในซีเกมส์ ครั้งที่ 33 นี้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
รองนายกฯ ที่ดูแลกำกับด้านกีฬา กล่าวเสริมว่า อีกเรื่องหนึ่งก็คือแนวทางการทำงานของผม จะไม่นั่งทำงานในห้องกระจกเท่านั้น พร้อมรับฟังเสียงของสมาคมกีฬาทุกกีฬา ต้องลงมาทำงานอย่างเอาจริง เอาจัง และพร้อมสนับสนุนทุกด้านให้เกิดประโยชน์กับสมาคมกีฬามากที่สุด ใครมีปัญหาสามารถเข้าพบได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถสะท้อนการทำงานของผู้ว่า กกท.
“ผมเป็นคนตรงไปตรงมา อยากฟังปัญหามากกว่าความสำเร็จ เราเป็นรัฐบาลของกีฬา ทุกองค์กรต้องร่วมมือกัน ไม่ปล่อยให้สมาคมใดโดดเดี่ยว ปัญหาทุจริตต้องไม่มี เรามีกองทุนกีฬาฯ ก็ต้องควรเป็นประโยชน์ให้กับทุกสมาคมฯ ไม่ใช่ไปอิงการเมืองมากเกินไป” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว