“เชาว์ มีขวด” เปิดเกมสุดท้าย ฟันธง“ทักษิณ”ใช้แท็กติกกฎหมายยื้อศาลชี้ชะตา 9 ก.ย. ชี้เหลือแค่สองทาง—กลับมาอย่างเท่ หรือหนีคุกตลอดชีวิต เดิมพันศรัทธากระบวนการยุติธรรมไทย
วันนี้(6 ก.ย.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Chao Meekhuad วิเคราะห์สถานการณ์คดีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลฎีกานัดฟังคำสั่งคดีบังคับโทษในวันที่ 9 กันยายนนี้ โดยระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในสังคมว่า “คุกทิพย์” หลังนายทักษิณเดินทางกลับไทยเมื่อ 22 ส.ค. 2566 ถูกส่งเข้าเรือนจำเพียงวันเดียว ก่อนย้ายไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และรับโทษจริงเพียงครึ่งปี ก็ได้พักโทษพ้นเรือนจำ สร้างข้อกังขาว่าไม่เคยรับโทษจริงตามหมายศาล
อย่างไรก็ตาม ก่อนถึงวันนัดฟังคำสั่งเพียง 5 วัน นายทักษิณได้เดินทางออกนอกประเทศไปดูไบ พร้อมประกาศว่าจะกลับมาทันวันที่ 8 ก.ย. เพื่อเข้าฟังคำสั่งด้วยตนเอง แต่ด้วยพฤติการณ์ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการ “หลบหนีซ้ำ” หรือเป็นการใช้เทคนิคทางกฎหมายเพื่อยื้อเวลา
นายเชาว์ กล่าวว่าหากนายทักษิณอ้างอาการเจ็บป่วยและศาลฯ เชื่อว่าเป็นจริง อาจนำไปสู่การเลื่อนการอ่านคำสั่งออกไป แต่หากศาลฯ เห็นว่าเป็นการจงใจไม่มาฟัง ศาลมีอำนาจออกหมายจับตามมาตรา 182 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และหากภายใน 1 เดือนยังไม่สามารถนำตัวมาศาลได้ ก็สามารถอ่านคำพิพากษาลับหลังได้
นายเชาว์ย้ำว่า หากศาลฯ มีคำสั่งเป็นคุณ ทักษิณจะกลับมาอย่าง “เท่ ๆ” ตามภาพลักษณ์ที่สร้าง แต่แท้จริงคือการหนีคดีแล้วรอดกลับมา ไม่ใช่การยืนหยัดเผชิญความจริง ขณะที่หากถูกชี้ว่าต้องรับโทษจำคุก 1 ปี ก็แทบไม่มีทางเลือกอื่น นอกจาก “หนีคดีไปตลอดชีวิต” เพราะตามกฎหมายคดีนักการเมือง (พรป.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 25) การหลบหนีจะไม่นับรวมอายุความ
“คดีนี้ไม่ใช่แค่นายทักษิณ แต่คือบททดสอบศรัทธาของสังคมต่อกระบวนการยุติธรรมไทย” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย