“กมธ.สันติสุข” ปิดประตูนิรโทษ 112 รอลุ้นถกหามาตรการอื่นช่วย สัปดาห์หน้า หลังวันนี้โหวตพรรคส้มแพ้ของ รทสช.ที่ให้คงตามที่รับหลักการ
วันนี้ (28 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ…. สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยมีวาระพิจารณาเนื้อหาของมาตรา 3 ว่าด้วยข้อยกเว้นของการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดฐานทุจริตประพฤติมิชอบ ทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดที่ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือเป็นความผิดต่อส่วนตัวหรือการกระทำที่ต้องรับผิดต่อบุคคลที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐเป็นเฉพาะรายหรือกลุ่ม ว่า เมื่อเปิดการประชุม นายณัฐวุฒิ ได้เปิดให้มีการเสนอญัตติเข้าไปว่าหากไม่เอาถ้อยคำตามร่างเดิมจะเอาแบบใด โดยผู้ที่เสนอญัตติเข้าไปได้แก่ นายวิชัย สุดสวัสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่เสนอให้คงตามร่างเดิมที่รับหลักการมา นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอให้มีการนิรโทษกรรมมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข และ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) เสนอให้มีการนิรโทษกรรมกับผู้ที่กระทำความผิดอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่หากผู้ที่กระทำความผิดอายุครบ 18 ปี ณ วันนั้น จะไม่ให้นิรโทษกรรม ซึ่งเมื่อเสนอญัตติเสร็จประธานได้ให้โหวตเลย ไม่ได้เปิดให้อภิปรายเนื้อหาของญัตติ โดยให้เหตุผลว่าสัปดาห์ที่ผ่านมามีการพูดคุยกันมาเยอะแล้ว
ทั้งนี้ ขณะที่กำลังจะโหวตนายชัยธวัช ได้ขอถอนญัตติของตนเองออกเพื่อไม่ให้เสียงแตก และขอสงวนความเห็นไว้เพื่ออภิปรายในห้องประชุมใหญ่ ทั้งนี้ เป็นโหวตโดยการยกมือว่าจะเลือกแก้แบบของใคร ระหว่างของนายวิชัย กับ น.ส.ศศินันท์ ซึ่งผลการลงมติออกมา ปรากฏว่า มี กมธ. เห็นด้วยกับญัตติของนายวิชัย 15 เสียง ส่วนใหญ่เป็นเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาล ขณะเห็นด้วยกับญัตติของ น.ส.ศศินันท์ 8 เสียง คือ เสียงของ กมธ.ในสัดส่วนของพรรค ปชน. และงดออกเสียง 1 เสียง คือ นายณัฐวุฒิ ประธาน กมธ. โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า กลัวจะไม่ผ่านห้องใหญ่ ขณะที่ กมธ.ในสัดส่วนของพรรค ปชน. พยายามสู้ในแง่ของการนิรโทษกรรมมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไขคือ หากยอมรับมาตรการการทำผิดซ้ำก็จะให้นิรโทษกรรม เป็นต้น แต่เมื่อไม่ผ่านก็ทำให้ต้องไปสู้ต่อที่มาตรา 6 โดยมาตรา 6 จะเกี่ยวข้องกับคำขยายของการนิรโทษกรรมว่าจะนิรโทษกรรมให้ใคร ซึ่งวันนี้ได้เพียงแค่การพูดคุยเบื้องต้น ยังไม่ได้ข้อสรุปอะไร โดยในสัปดาห์หน้าต้องมาดูว่าผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะหากไม่มีการเพิ่มเงื่อนไขอะไรเข้าไปในมาตรา 6 ผู้ที่กระทำผิดมาตรา 112 จะไม่ได้อะไรเลยจากการนิรโทษกรรมครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม กมธ.ส่วนใหญ่มองว่าสำหรับโทษที่อยู่ในบัญชีแนบท้ายทั้งหมดจะได้รับการรับโทษกรรม แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จะต้องใช้มาตรการอื่น เช่น อภัยโทษ ลดโทษ คุมขังนอกเรือนจำ เป็นต้น หลังจากที่ใช้เวลาประชุมกว่า 4 ชั่วโมง ประธานได้สั่งปิดประชุมและนัดประชุมเพื่อพิจารณามาตรา 6 ต่อในสัปดาห์เวลา 09.00 น.
จากนั้น นายยุทธพร อิสรชัย นักวิชาการรัฐศาสตร์ ในฐานะ กมธ. ให้สัมภาษณ์ว่า มติของที่ประชุมเห็นให้แก้ไขในประเด็นถ้อยคำตามที่กฤษฎีกาแนะนำให้เป็นไปตามการเขียนกฎหมายและคำเชื่อมเล็กน้อย โดยไม่ปรับหรือแก้ไขในสาระสำคัญ รวมถึงไม่ตัดเงื่อนไขของข้อยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายหรือเติมถ้อยคำให้ยกเว้นบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
“การประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุมมีมติให้แก้ไขและมีข้อเสนอหลายรูปแบบนั้น เป็นเพียงความเห็นของ กมธ.เท่านั้น แต่ไม่ใช่การเสนอให้ กมธ.พิจารณาแก้ไข วันนี้ที่ประชุมจึงได้ให้ กมธ.เสนอ ซึ่งพบว่านายวิชัยในฐานะผู้ที่เสนอร่างกฎหมายได้เสนอเพิ่มให้ที่ประชุมพิจารณา ทำให้ต้องมีการลงมติตัดสินและข้อเสนอของนายวิชัยโหวตชนะ” นายยุทธพร กล่าว
นายยุทธพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาเนื้อหาของมาตราที่เกี่ยวข้องกับคดีและระยะเวลาที่จะครอบคลุมการบังคับใช้ เบื้องต้นยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ซึ่งที่ประชุมให้ กมธ.แต่ละคนไปศึกษา ก่อนจะกลับมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า