รมช.กห. ลั่น! ทหารไทยต้องใช้ความอดทน หลังถูกกัมพูชายั่วยุ ระหว่างพาคณะทูตลงพื้นที่ เผยเซ็นอนุมัติจัดซื้อ "ยุทโธปกรณ์-กระสุน-โดรน" เพิ่มแล้ว ใช้วิธีพิเศษเจาะจง ไม่ช้าแน่นอน
วันนี้ (19ส.ค.68) พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีทหารกัมพูชาแสดงความไม่พอใจ และ ขัดขวางขณะที่ไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน ( ไอโอที) ลงพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี โดยอ้างว่าไทยไม่แจ้งก่อน ว่า ไม่เป็นไร ต้องคุยกัน แต่ส่วนตัวยังไม่เห็นภาพที่เกิดขึ้น เพราะเพิ่งจะเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ก่อนหน้านี้เคยตกลงกันแล้วตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ว่าจะนำไอโอทีลงไป
ก่อนหน้านี้ ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรี มาเลเซีย ระบุต้องการเพิ่มจำนวนคนไอโอที เพราะอัตรากำลังที่มี ไม่สามารถรองรับงานที่เพิ่มขึ้นได้ แต่ไทยไม่เห็นด้วย ขอให้คงจำนวนเท่าเดิม และให้ใช้คนในสถานทูตไปก่อน
กรณีกัมพูชาอาจใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ยั่วยุกดดันหรือพังรั้วลวดหนามในอนาคต เตรียมรับมืออย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องใช้ความอดทน พยายามไม่ให้เกิดการยั่วยุและใช้อาวุธ อย่างน้อยมีอาเซียนกำลังเฝ้าดูอยู่ ผ่านการใช้กลไกไอโอที
กรณีประชาชนเรียกร้องให้ล้อมรั้วลวดหนามถาวรกั้นชายแดน พล.อ.ณัฐพล ยอมรับ งบประมาณมีจำกัด จึงต้องพิจารณาเรียงลำดับความสำคัญ เช่น จะใช้งบประมาณเพื่อล้อมรั้ว หรือจะจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งการล้อมรั้วลวดหนาม ไม่ใช่การจัดทำรั้ว แต่เป็นเพียงแค่เครื่องกีดขวาง เพื่อช่วยแบ่งเบาภารกิจทหาร บริเวณชายแดนเท่านั้น
ที่ผ่านมาไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ชายแดนไทย -กัมพูชา แต่พื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียในภาคใต้ ก็มีการขออนุมัติงบประมาณ แต่ก็ยังไม่เคยได้รับการจัดสรร
สำหรับกองกำลังในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชามีการร้องขอหรือต้องการ อะไรเพิ่มเติมบ้าง พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ได้แจ้งขออาวุธยุทโธปกรณ์ กระสุน และ อากาศยานไร้คนขับ จึงประสานกับคณะรัฐมนตรี กระทรวงการคลังให้ใช้วิธีพิเศษเฉพาะเจาะจง เพื่อให้สามารถจะหาได้ทันใช้งาน จะพยายามทำให้เร็วที่สุด ส่วนใหญ่เคยจัดซื้อมาแล้ว จึงไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด ยืนยันต้องเร่งรัดไม่ให้ล่าช้า และทุกภาคส่วนก็พร้อมสนับสนุน สำนักงบประมาณก็ถามว่า เสนอความต้องการมาแล้วหรือยัง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเซ็นอนุมัติไปแล้ว 2-3 รายการ